คอลัมน์ ถนนสู่การลงทุน
ดร.กิตติพันธ์ คงสวัสดิ์เกียรติผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสาทรธานี
ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจไซเบอร์ (RSU Cyber University)
และผู้จัดการโครงการหลักสูตร MBA มหาวิทยาลัยรังสิต
Stock Futures หรือสัญญาซื้อขายหุ้นล่วงหน้า ที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดอนุพันธ์ในขณะนี้ มีหุ้นสามัญจำนวน 3 บริษัท คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP โดยนำเอาหุ้นสามัญของทั้ง 3 บริษัทมาทำการซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งประกอบด้วย
ADVANC Futures
PTT Futures
PTTEP Futures
การวิเคราะห์และการคาดการณ์ราคาของ Stock Futures จะมีสูตรในการคำนวณดังนี้
ราคาของ Stock Futures = ราคาหุ้น + ต้นทุนในการถือครองหุ้น – ผลประโยชน์ในการถือหุ้น
เช่น หุ้นสามัญบริษัท ABC จำกัด มีราคาหุ้นสามัญซื้อขายในปัจจุบันราคา 100 บาท ผู้ลงทุนมีต้นทุนในการกู้ยืมเงินเพื่อมาซื้อหุ้น 30 บาท และหุ้นสามัญบริษัท ABC จำกัด มีกำหนดการจ่ายเงินในอีก 1 เดือนข้างหน้า 10 บาท ดังนั้น ราคาของ Stock Futures จะสามารถคำนวณได้ดังนี้
Stock Futures Price = 100 + 30 – 10 = 120 บาท
ในความเป็นจริง ราคาของฟิวเจอร์สจะเป็นไปตามกลไกตลาด คือ เป็นราคาที่เกิดจากความต้องการซื้อ (Demand) และความต้องการขาย (Supply) ของผู้ลงทุนที่คาดการณ์ว่าในอนาคต หุ้น ABC จะมีราคาประมาณเท่าใด ซึ่งอาจจะสูงหรือต่ำกว่าราคาตลาดจริงก็ได้
กลยุทธ์ในการลงทุน
ถ้าผู้ลงทุนคาดว่าราคาหุ้นสามัญจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง ผู้ลงทุนจะสามารถเลือกใช้กลยุทธ์ได้ดังนี้
1.ถ้าผู้ลงทุนคาดว่าหุ้นสามัญจะปรับตัวเพิ่มขึ้น จะใช้กลยุทธ์ “ซื้อก่อนขาย”
2.ถ้าผู้ลงทุนคาดว่าหุ้นสามัญจะปรับตัวลดลง จะใช้กลยุทธ์ “ขายก่อนซื้อ”
ตัวอย่างของการลงทุนในภาวะของหุ้นสามัญที่มีราคาอยู่ในขาขึ้น
สมมติ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ หุ้นสามัญ XYZ มีราคาในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 100 บาท ในขณะที่ฟิวเจอร์สของหุ้นสามัญ XYZ ที่ครบกำหนดเดือนในมีนาคม มีราคา 110 บาท
ถ้าผู้ลงทุนคาดว่าราคาหุ้นสามัญของบริษัท XYZ จะเพิ่มขึ้น ผู้ลงทุนต้องตัดสินใจ Long XYZ Futures (การซื้อหุ้นสามัญบริษัท XYZ ล่วงหน้า)
ถ้าถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ราคาของหุ้นสามัญบริษัท XYZ ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ คือ มีราคาหุ้นลดลง ผู้ลงทุนจะสามารถตัดสินใจ Short XYZ Futures (การขายหุ้นสามัญล่วงหน้า) เดือนมีนาคม เพื่อปิดสถานะ ที่ 90 บาท (การปิดสถานะคือ การลงทุนในทางกลับกัน เช่น หากผู้ลงทุนซื้อล่วงหน้าไว้ การปิดสถานะคือการขายล่วงหน้าทดแทน) เพื่อเป็นการลดจำนวนการขาดทุนลง โดยการกระทำเช่นนี้ ผู้ลงทุนจะขาดทุน เท่ากับ (90 – 110) x 1,000 หุ้น = -20,000 บาท
แต่ถ้าในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ราคาของหุ้นสามัญบริษัท XYZ ไม่เป็นไปตามการคาดการณ์ คือ ราคาหุ้นเท่าเดิม ผู้ลงทุนจะสามารถตัดสินใจ Short XYZ Futures เดือนมีนาคม เพื่อปิดสถานะ ที่ 110 บาท (ผู้ลงทุนอาจจะไม่ต้องการจะลงทุนต่อไป หรือคาดว่าแนวโน้มในอนาคตไม่ดี จึงปิดสถานะในวันนี้) ผู้ลงทุนจะเท่าทุน คือ (110 – 110) * 1,000 หุ้น = 0 บาท
ถ้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ราคาของหุ้นสามัญบริษัท XYZ เป็นไปตามที่คาดการณ์ คือ ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น ผู้ลงทุนจะสามารถตัดสินใจ Short XYZ Futures เดือนมีนาคม เพื่อปิดสถานะ ที่ 130 บาท (ซึ่งราคานี้อาจเป็นราคาที่ผู้ลงทุนพึงพอใจ และผู้ลงทุนไม่ต้องการที่จะเสี่ยงอีกต่อไป เพราะราคาอาจจะลดลงในอนาคตได้) ผู้ลงทุนจะมีกำไร เท่ากับ (130 – 110) * 1,000 หุ้น = 20,000 บาท
การลงทุนใน Stock Futures นี้ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ประเภทอื่น ๆ คือการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ใช้เงินลงทุนน้อย แต่มีโอกาสในการทำกำไรสูง และมีโอกาสในการขาดทุนสูงเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากผู้ลงทุนต้องการจะลงทุนใน Stock Futures จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจกับกลยุทธ์ในการลงทุนให้เป็นอย่างดี