ASTVผู้จัดการรายวัน- ปิดไอพีโอ "กองทุนซีรีย์ ไอเอ็นจี ไลฟ์ไซเคิล" พลาดเป้า บลจ.ไอเอ็นจี เตรียมจัดอบรมให้ตัวแทนขาย หวังดึงเงินลงทุนเพิ่ม ล่าสุดเตรียมส่ง "กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ"เปิดขายหลังสงกรานต์ชูผลตอบเเทนประมาณ 4% ต่อปี
นายต่อ อินทรวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงยอดขายกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไลฟ์ไซเคิล ทั้ง 3 กองทุนว่า ยอดขายหน่วยลงทุนซีรีย์ ไอเอ็นจี ไลฟ์ไซเคิล ในช่วงเปิด IPO ตั้งเเต่19-26 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา ไม่ตรงตามเป้าหมายที่เราว่างไว้ เนื่องจากลักษณะของทุนเป็นการวางเเผนเพื่อการเกษียณประกอบกับการลงทุนในลักษณะนี้จะคล้ายกับการออมเงิน คือต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่นักลงทุนว่างไว้ ทั้งนี้กองทุนในลักษณะดังกล่าว ขนาดของกองทุนจะไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับกองทุนประเภทอื่นๆ ซึ่งลักษณะของกองทุนจะทยอยเติบโตขึ้นจากเงินที่นักลงทุนทยอยเข้ามมาลงทุน
ขณะเดียวกันกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไลฟ์ไซเคิล ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการเกษียณเพียงเท่านั้น เเต่ยังเป็นเครื่องมือช่วยนักลงทุนให้ลงทุนอย่างมีเป้าหมายได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเงินเก็บไว้ส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศ หรือมีเป้าหมายว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะต้องมีเงินเพียงพอที่จะใช้จ่ายในอนาคตเป็นต้น อย่างไรก็ตามตั้งเต่วันที่ 7 เมษายน เป็นต้นทางบลจ.จะเปิดให้มีการซื้อขายกองทุนดังกล่าวได้ปกติ โดยตัวเเทนขายหน่วยลงทุน(SellingAgent) ของบลจ.ไอเอ็นจี จะจัดโปรโมชั่นให้กับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไลฟ์ไซเคิล ทั้ง 3 กองทุน นอกจากนี้บลจ.จะมีการจัดอบรมให้กับตัวเเทนขายอีกด้วยเพื่อสร้างความเข้าใจเเละจุดเด่นของกองทุน
ทั้งนี้ บลจ.จะออกกองทุนใหม่หลังเทศกาลสงกานต์ ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ส่วนกองทุนประเภทอื่นนั้นทางบลจ.ก็มีดูอยู่ไว้เช่นกันไม่ว่าจะเป็น กองทุนหุ้น กองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) หรือกองทุนประเภทคอมมอนีตี เเต่ยังคงต้องรอดูความเหมาะสมในเรื่องของเวลา เพราะนักลงทุนยังต้องการลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากยังไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจซึ่ง เเละยังมีกลุ่มนักลงทุนบางส่วนที่ยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้นถ้าหากผลตอบเเทนในการลงทุนนั้นมีความน่าสนใจพอ เช่น ทองคำ ตราสารหนี้ต่างประเทศ หรือน้ำมัน เป็นต้น
"กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่จะเปิดขายในวันที่ 16-25 เมษายน นี้คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ ซึ่งจะลงทุนในตราสารหนี้ธนาคารเกาหลี คาดว่าจะให้ผลตอบเเทนประมาณ 4% ต่อปี"นายต่อ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บลจ.ไอเอ็นจี ได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยพายัพ ในโครงการพัฒนาที่เดินประมาณ 20 ไร่ บริเวณบ้านธารเเก้วมหาวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างอาคารชุดที่พักอาศัยหรือเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ จำนวน 200 ห้องเเละศูนย์การค้าครบวงจรมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท โดยทางมหาวิทยาลัยพายัพ คาดว่าจะเริ่มก่อสร่างประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างโครงการประมาณ 2 ปีเเละสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ในปี 2554 โดยความร่วมมือดังกล่าวทางมหาวิทยาลัยพายัพ จะเป็นฝ่ายลงทุนในส่วนของที่ดินที่ใช้ดำเนินโครงการ ส่วนบลจ.ไอเอ็นจี จะรับผิดชอบในส่วนของการระดมทุนด้วยการขายหน่วยลงทุนเพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างโครงการ ทำการตลาดเเเละบริหารจัดการอีกด้วย
สำหรับโครงการร่วมมือระหว่ามหาวิทยาลัยพายัพกับบลจ.ไอเอ็นจี ในการพัฒนาที่ดินดังกล่าวนั้นมีการเปิดเผยข้อมูลครั้งเเรกในช่วงต้นปี 2551 โดยครั้งนั้นมีการระบุชื่อโครงการว่า บ้านธารเเก้ว เนเบอร์ฮู้ด ชอปปิ้งเซ็นเตอร์ ซึ่งกำหนดจะเริ่มก่อสร้างในช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2551 เเต่เกิดความล่าช้า จนกระทั่งมีความชัดเจนอีกครั้งเมื่อมีการลงทุนามความร่วมือทั้งฝ่ายในวันที่ 12 มีนาคม 2552 โดยครั้งนี้มีการเปลี่ยนมาใช้ชื่อโครงการว่า Crystal spring
นายต่อ อินทรวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงยอดขายกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไลฟ์ไซเคิล ทั้ง 3 กองทุนว่า ยอดขายหน่วยลงทุนซีรีย์ ไอเอ็นจี ไลฟ์ไซเคิล ในช่วงเปิด IPO ตั้งเเต่19-26 มีนาคม 2552 ที่ผ่านมา ไม่ตรงตามเป้าหมายที่เราว่างไว้ เนื่องจากลักษณะของทุนเป็นการวางเเผนเพื่อการเกษียณประกอบกับการลงทุนในลักษณะนี้จะคล้ายกับการออมเงิน คือต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่นักลงทุนว่างไว้ ทั้งนี้กองทุนในลักษณะดังกล่าว ขนาดของกองทุนจะไม่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับกองทุนประเภทอื่นๆ ซึ่งลักษณะของกองทุนจะทยอยเติบโตขึ้นจากเงินที่นักลงทุนทยอยเข้ามมาลงทุน
ขณะเดียวกันกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไลฟ์ไซเคิล ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการเกษียณเพียงเท่านั้น เเต่ยังเป็นเครื่องมือช่วยนักลงทุนให้ลงทุนอย่างมีเป้าหมายได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเงินเก็บไว้ส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศ หรือมีเป้าหมายว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจะต้องมีเงินเพียงพอที่จะใช้จ่ายในอนาคตเป็นต้น อย่างไรก็ตามตั้งเต่วันที่ 7 เมษายน เป็นต้นทางบลจ.จะเปิดให้มีการซื้อขายกองทุนดังกล่าวได้ปกติ โดยตัวเเทนขายหน่วยลงทุน(SellingAgent) ของบลจ.ไอเอ็นจี จะจัดโปรโมชั่นให้กับกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไลฟ์ไซเคิล ทั้ง 3 กองทุน นอกจากนี้บลจ.จะมีการจัดอบรมให้กับตัวเเทนขายอีกด้วยเพื่อสร้างความเข้าใจเเละจุดเด่นของกองทุน
ทั้งนี้ บลจ.จะออกกองทุนใหม่หลังเทศกาลสงกานต์ ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ส่วนกองทุนประเภทอื่นนั้นทางบลจ.ก็มีดูอยู่ไว้เช่นกันไม่ว่าจะเป็น กองทุนหุ้น กองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) หรือกองทุนประเภทคอมมอนีตี เเต่ยังคงต้องรอดูความเหมาะสมในเรื่องของเวลา เพราะนักลงทุนยังต้องการลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากยังไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจซึ่ง เเละยังมีกลุ่มนักลงทุนบางส่วนที่ยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้นถ้าหากผลตอบเเทนในการลงทุนนั้นมีความน่าสนใจพอ เช่น ทองคำ ตราสารหนี้ต่างประเทศ หรือน้ำมัน เป็นต้น
"กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศที่จะเปิดขายในวันที่ 16-25 เมษายน นี้คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ไอเอสเอฟ ซึ่งจะลงทุนในตราสารหนี้ธนาคารเกาหลี คาดว่าจะให้ผลตอบเเทนประมาณ 4% ต่อปี"นายต่อ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บลจ.ไอเอ็นจี ได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยพายัพ ในโครงการพัฒนาที่เดินประมาณ 20 ไร่ บริเวณบ้านธารเเก้วมหาวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างอาคารชุดที่พักอาศัยหรือเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ จำนวน 200 ห้องเเละศูนย์การค้าครบวงจรมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท โดยทางมหาวิทยาลัยพายัพ คาดว่าจะเริ่มก่อสร่างประมาณเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างโครงการประมาณ 2 ปีเเละสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ในปี 2554 โดยความร่วมมือดังกล่าวทางมหาวิทยาลัยพายัพ จะเป็นฝ่ายลงทุนในส่วนของที่ดินที่ใช้ดำเนินโครงการ ส่วนบลจ.ไอเอ็นจี จะรับผิดชอบในส่วนของการระดมทุนด้วยการขายหน่วยลงทุนเพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างโครงการ ทำการตลาดเเเละบริหารจัดการอีกด้วย
สำหรับโครงการร่วมมือระหว่ามหาวิทยาลัยพายัพกับบลจ.ไอเอ็นจี ในการพัฒนาที่ดินดังกล่าวนั้นมีการเปิดเผยข้อมูลครั้งเเรกในช่วงต้นปี 2551 โดยครั้งนั้นมีการระบุชื่อโครงการว่า บ้านธารเเก้ว เนเบอร์ฮู้ด ชอปปิ้งเซ็นเตอร์ ซึ่งกำหนดจะเริ่มก่อสร้างในช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2551 เเต่เกิดความล่าช้า จนกระทั่งมีความชัดเจนอีกครั้งเมื่อมีการลงทุนามความร่วมือทั้งฝ่ายในวันที่ 12 มีนาคม 2552 โดยครั้งนี้มีการเปลี่ยนมาใช้ชื่อโครงการว่า Crystal spring