ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ. บีที ปรับแผนรุกการตลาด เน้นการเข้าถึงนักลงทุนมากขึ้น เตรียมเพิ่มตัวแทนจำหน่ายขาย พร้อมอบรมพนักงงานให้ความรู้ลูกค้า คาดสิ้นปีมีฐานลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 20% เดินหน่าส่งกองทุนรวมอสังหารมทรัพย์ และกองทุนตราสารหนี้ ลุยตลาดตลอดปีน้
นางสาวผุสดี นาคภูมิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแผนการตลาดของบริษัทในปีนี้ โดยหลัก ๆ แล้ว บริษัทจะทำการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ผ่านทางธนาคารไทยธนาคาร (แบงก์แม่) รวมถึงตัวแทนจำหน่ายขายที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทอีก 17 บริษัท นอกจากนี้แล้ว ยังมีระบบคอลเซ็นเตอร์ไว้รองรับนักลงทุนที่สามารถจะโทรเข้ามาสอบถามรายละเอียดของกองทุนได้อีกด้วย
โดยในปีนี้เอง บริษัทได้มีการจัดอบรมพนักงานให้มีความรู้ความสามารถมากยิ่งขึ้นในการให้ความรู้ด้านการลงทุนแก่นักลงทุนให้ได้มากที่สุด ซึ่งคาดว่าในปีนี้ จะสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้อีกประมาณ 20% ซึ่้งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตลาดกองทุนรวมเองยังคงซึม ๆ อยู่ไม่สามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้ เนื่องจากว่าในปีที่แล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการนำเงินไปฝากธนาคารมากกว่าการมาลงทุนในกองทุนรวม ทั้งนี้ สาเหตุมาจากปีที่ผ่านมาน้ันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากให้สูงกว่าการเข้ามาลงทุนในกองทุนรวม และนักลงทุนหลายรายยังคงมองว่าการลงทุนในธนาคารนั้นมีความปลอดภัยสูงกว่าด้วย
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทจะเน้นออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) และกองทุนประเภทฟิกอินคัม เนื่องจากว่าปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากค่อนข้างต่ำ ทำให้นักลงทุนหลายรายต่างกำลังหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเป็นการกระจายการลงทุนให้กับพอร์ตของตนเองในอีกทางหนึ่ง
นางสาวผุสดี กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมที่จะออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 3 กองทุน โดยครึ่งปีแรกจะออก 1 กองทุน เป็นกองทุนกองทุรวมรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 มนตรี สโตร์เรจ (101 Montri Storage Property Fund หรือ MONTRI) ที่ก่อนหน้านี้มีแผนเปิดขายไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ต้องระงับการขายไปหลังจากในช่วงน้ันมีปัญหาทางการเมืองเข้ามา ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถเปิดขายได้ใหม่อีกครั้งในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้หรืออาจจะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ซึ่งขณะนี้กำลังรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ ส่วนครึ่งปีหลังที่จะออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อีก 2 กองทุนน้ันจะเป็นประเภทเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ทั้ง 2 กองทุน ซึ่งจะมีมูลค่ากองทุนละ 800 - 1,000 ล้านบาท
ส่วนกองทุนประเภทฟิกอินคัมที่กองทุนจะทำการออกขายนั้น จะเป็นกองทุนที่ลงทุนใน ECP เป็นหลัก เนื่องจากว่าขณะนี้กองทุนประเภทดังกล่าวนั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศด้วย อีกทั้งกองทุนดังกล่าวยังได้ทำการปิดความเสี่ยงไว้เรียบร้อยแล้วด้วย โดยก่อนหน้านี้ระหว่างเดือนมีนาคม - เดือนเมษายน 2552 บริษัทได้ออกกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ไปแล้ว 3 กองทุน
ล่าสุดขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนล่าสุดบลจ. บีที เปิดขายกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้จำนวน 2 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดบีที FIF เกาหลี ตราสารหนี้ 6/6 (BT FIF Korea Fixed Incom 6/6 Fund หรือ Bt-FIF-KFIX 6/6) และ กองทุนเปิดบีที FIF เกาหลี ตราสารหนี้ 9/5 (BT FIF Korea Fixed Incom 9/5Fund หรือ Bt-FIF-KFIX 9/5) ซึ่งทั้ง 2 กองทุนจะเริ่มเปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ - 23 มีนาคม 2552 นี้
โดยกองทุนเปิดบีที FIF เกาหลี ตราสารหนี้ 6/6 มีอายุโครงการ 6 เดือน ซึ่งจะให้ผลตอบแทนประมาณการณ์อยู่ที่ 3.00 - 3.20% ต่อปี ส่วนกองทุนเปิดบีที FIF เกาหลี ตราสารหนี้ 9/5 มีอายุโครงการ 9 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณการณ์อยู่ที่ 4.00 - 4.20% ต่อปี
นางสาวผุสดี กล่าวว่า ในช่วงเดือนเมษายน นี้ บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนรวมต่างประเทศที่มีนโยบายการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอีก 2 กองทุนมีมูลค่ากองทุนละ 1,400 ล้านบาท ส่วนกองทุนรวมตราสารหนี้ในประเทศนั้นขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะออกกองทุนใหม่ ๆ เพิ่ม เนื่องจากว่าผลตอบแทนยังสามารถให้ใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ อีกทั้งบริษัทเองยังมีกองทุนโรโอเวอร์อยู่แล้วที่สามารถให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนได้
นางสาวผุสดี นาคภูมิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแผนการตลาดของบริษัทในปีนี้ โดยหลัก ๆ แล้ว บริษัทจะทำการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ผ่านทางธนาคารไทยธนาคาร (แบงก์แม่) รวมถึงตัวแทนจำหน่ายขายที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทอีก 17 บริษัท นอกจากนี้แล้ว ยังมีระบบคอลเซ็นเตอร์ไว้รองรับนักลงทุนที่สามารถจะโทรเข้ามาสอบถามรายละเอียดของกองทุนได้อีกด้วย
โดยในปีนี้เอง บริษัทได้มีการจัดอบรมพนักงานให้มีความรู้ความสามารถมากยิ่งขึ้นในการให้ความรู้ด้านการลงทุนแก่นักลงทุนให้ได้มากที่สุด ซึ่งคาดว่าในปีนี้ จะสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้อีกประมาณ 20% ซึ่้งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาตลาดกองทุนรวมเองยังคงซึม ๆ อยู่ไม่สามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้ เนื่องจากว่าในปีที่แล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับการนำเงินไปฝากธนาคารมากกว่าการมาลงทุนในกองทุนรวม ทั้งนี้ สาเหตุมาจากปีที่ผ่านมาน้ันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากให้สูงกว่าการเข้ามาลงทุนในกองทุนรวม และนักลงทุนหลายรายยังคงมองว่าการลงทุนในธนาคารนั้นมีความปลอดภัยสูงกว่าด้วย
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทจะเน้นออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) และกองทุนประเภทฟิกอินคัม เนื่องจากว่าปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากค่อนข้างต่ำ ทำให้นักลงทุนหลายรายต่างกำลังหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อเป็นการกระจายการลงทุนให้กับพอร์ตของตนเองในอีกทางหนึ่ง
นางสาวผุสดี กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมที่จะออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 3 กองทุน โดยครึ่งปีแรกจะออก 1 กองทุน เป็นกองทุนกองทุรวมรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 มนตรี สโตร์เรจ (101 Montri Storage Property Fund หรือ MONTRI) ที่ก่อนหน้านี้มีแผนเปิดขายไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ต้องระงับการขายไปหลังจากในช่วงน้ันมีปัญหาทางการเมืองเข้ามา ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถเปิดขายได้ใหม่อีกครั้งในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้หรืออาจจะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ซึ่งขณะนี้กำลังรอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ ส่วนครึ่งปีหลังที่จะออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อีก 2 กองทุนน้ันจะเป็นประเภทเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ทั้ง 2 กองทุน ซึ่งจะมีมูลค่ากองทุนละ 800 - 1,000 ล้านบาท
ส่วนกองทุนประเภทฟิกอินคัมที่กองทุนจะทำการออกขายนั้น จะเป็นกองทุนที่ลงทุนใน ECP เป็นหลัก เนื่องจากว่าขณะนี้กองทุนประเภทดังกล่าวนั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศด้วย อีกทั้งกองทุนดังกล่าวยังได้ทำการปิดความเสี่ยงไว้เรียบร้อยแล้วด้วย โดยก่อนหน้านี้ระหว่างเดือนมีนาคม - เดือนเมษายน 2552 บริษัทได้ออกกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้ไปแล้ว 3 กองทุน
ล่าสุดขณะนี้บริษัทกำลังเปิดขายกองทุนล่าสุดบลจ. บีที เปิดขายกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้จำนวน 2 กองทุน ประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดบีที FIF เกาหลี ตราสารหนี้ 6/6 (BT FIF Korea Fixed Incom 6/6 Fund หรือ Bt-FIF-KFIX 6/6) และ กองทุนเปิดบีที FIF เกาหลี ตราสารหนี้ 9/5 (BT FIF Korea Fixed Incom 9/5Fund หรือ Bt-FIF-KFIX 9/5) ซึ่งทั้ง 2 กองทุนจะเริ่มเปิดขายแล้วตั้งแต่วันนี้ - 23 มีนาคม 2552 นี้
โดยกองทุนเปิดบีที FIF เกาหลี ตราสารหนี้ 6/6 มีอายุโครงการ 6 เดือน ซึ่งจะให้ผลตอบแทนประมาณการณ์อยู่ที่ 3.00 - 3.20% ต่อปี ส่วนกองทุนเปิดบีที FIF เกาหลี ตราสารหนี้ 9/5 มีอายุโครงการ 9 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณการณ์อยู่ที่ 4.00 - 4.20% ต่อปี
นางสาวผุสดี กล่าวว่า ในช่วงเดือนเมษายน นี้ บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนรวมต่างประเทศที่มีนโยบายการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอีก 2 กองทุนมีมูลค่ากองทุนละ 1,400 ล้านบาท ส่วนกองทุนรวมตราสารหนี้ในประเทศนั้นขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะออกกองทุนใหม่ ๆ เพิ่ม เนื่องจากว่าผลตอบแทนยังสามารถให้ใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ อีกทั้งบริษัทเองยังมีกองทุนโรโอเวอร์อยู่แล้วที่สามารถให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนได้
