บลจ.กสิกรไทยเปิดขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีเบิล 2 กองทุน หลังนักลงทุนยังคงให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง พันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอจี เปิดขาย 26 มีนาคม – 1 เมษายนนี้ ส่วนอีกกองเปิดขายตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมเป็นต้นไป "รพี"เชื่อบอนด์โสมยังมีจุดแข็งหลายด้าน และจะเป็นตัวเลือกที่สำหรับนักลงทุนในช่วงดอกเบี้ยขาลง
นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จากผู้ลงทุนที่เล็งเห็นโอกาสล็อคเงินเข้าลงทุนในตราสารหนี้ที่อายุยาวขึ้นในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลง และต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่จูงใจกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ บริษัทจึงเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี อีก 2 กองทุน ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 7 เมษายนนี้
สำหรับกองทุนทั้ง 2 กองจะมีมูลค่าโครงการละ 4,000 ล้านบาท โดยกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอจี (KKG1YAG)จะเปิดขาย ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 1 เมษายน 2552 ส่วนกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอเอช (KKG1YAH)จะทำการเปิดขาย ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 7 เมษายน 2552
นายรพี กล่าวอีกว่า กองทุนพันธบัตรเกาหลีทั้ง 2 กองทุนจะยังคงมีนโยบายการลงทุนเหมือนที่ผ่านมา คือ เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐของรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือดีกว่าพันธบัตรรัฐบาลไทย และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100 % ในด้านอัตราผลตอบแทน อย่างไรก็ตามเนื่องจากระยะเวลาการเสนอขายที่ต่างกัน อาจส่งผลให้ แต่ละกองทุนมีอัตราผลตอบแทนที่ต่างกันไปตามสภาวะของตลาดในแต่ละช่วง
"บลจ. กสิกรไทย ยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ตลอดจนเลือกลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่มีคุณภาพและ มีความมั่นคง ซึ่งพันธบัตรรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ยังมีจุดแข็งหลายประการ และเป็นตัวเลือกที่ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจอย่างยิ่งในภาวะดอกเบี้ยขาลงเช่นปัจจุบัน"นายรพีกล่าว
สำหรับบลจ.กสิกรไทย นับตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2552 ได้ทำการเสนอขายกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี ไปแล้วทั้งสิ้น 6 กองทุน (กองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอเอ, เอบี, เอซี, เอดี, เออี และเอเอฟ) โดยมียอดระดมทุนทั้งสิ้นกว่า 14,800 ล้านบาท
อนึ่ง ในปี 2551 ที่ผ่านมาบลจ.กสิกรไทยนับเป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีการเปิดขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีมากเป็นอันดับต้นๆ จำนวน 28 กองทุนรวมเป็นเงินกว่า 5.6 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้มีกองทุนพันธบัตรเกาหลี ทยอยครบกำหนดไปแล้วหลายกองทุน และกองทุนที่กำลังจะหมดอายุโครงการจะมีอยู่ด้วยกัน 3 กองทุนได้แก่ กองทุนเปิดพันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอฟ จี และเอช ซึ่งนักลงทุนจะได้รับเงินในวันที่ 31 มีนาคม 2552 ส่วนกองทุนที่จะทยอยหมดอายุโครงการจะเหลือทั้งหมด 19 กองทุน และกองทุนสุดท้ายจะสามารถจ่ายเงินคืนให้กับนักลงทุนได้ในวันที่ 30 กันยายนนี้
สำหรับการรับเงินคืนนั้น ผู้ลงทุนในกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1ปี จะได้รับเงินจากการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี โดยอัตโนมัติ หรือ ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) ตามที่ผู้ลงทุนได้แจ้งความประสงค์ไว้ตั้งแต่การเปิดบัญชีกองทุน
ทั้งนี้ ปัจจุบันบลจ.กสิกรไทยมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2551 อยู่ที่ 3.47 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่ 3.19 แสนล้านบาท กว่า 2.89 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนรวมมีขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ 2.14 หมื่นล้านบาท อยู่ที่ 2.59 แสนล้านบาทในปัจจุบัน
นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จากผู้ลงทุนที่เล็งเห็นโอกาสล็อคเงินเข้าลงทุนในตราสารหนี้ที่อายุยาวขึ้นในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลง และต้องการโอกาสรับผลตอบแทนที่จูงใจกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ บริษัทจึงเตรียมเปิดขายกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี อีก 2 กองทุน ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 7 เมษายนนี้
สำหรับกองทุนทั้ง 2 กองจะมีมูลค่าโครงการละ 4,000 ล้านบาท โดยกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอจี (KKG1YAG)จะเปิดขาย ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 1 เมษายน 2552 ส่วนกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอเอช (KKG1YAH)จะทำการเปิดขาย ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 7 เมษายน 2552
นายรพี กล่าวอีกว่า กองทุนพันธบัตรเกาหลีทั้ง 2 กองทุนจะยังคงมีนโยบายการลงทุนเหมือนที่ผ่านมา คือ เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐของรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือดีกว่าพันธบัตรรัฐบาลไทย และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100 % ในด้านอัตราผลตอบแทน อย่างไรก็ตามเนื่องจากระยะเวลาการเสนอขายที่ต่างกัน อาจส่งผลให้ แต่ละกองทุนมีอัตราผลตอบแทนที่ต่างกันไปตามสภาวะของตลาดในแต่ละช่วง
"บลจ. กสิกรไทย ยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ตลอดจนเลือกลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่มีคุณภาพและ มีความมั่นคง ซึ่งพันธบัตรรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ยังมีจุดแข็งหลายประการ และเป็นตัวเลือกที่ให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจอย่างยิ่งในภาวะดอกเบี้ยขาลงเช่นปัจจุบัน"นายรพีกล่าว
สำหรับบลจ.กสิกรไทย นับตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2552 ได้ทำการเสนอขายกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี ไปแล้วทั้งสิ้น 6 กองทุน (กองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอเอ, เอบี, เอซี, เอดี, เออี และเอเอฟ) โดยมียอดระดมทุนทั้งสิ้นกว่า 14,800 ล้านบาท
อนึ่ง ในปี 2551 ที่ผ่านมาบลจ.กสิกรไทยนับเป็นบริษัทจัดการกองทุนที่มีการเปิดขายกองทุนพันธบัตรเกาหลีมากเป็นอันดับต้นๆ จำนวน 28 กองทุนรวมเป็นเงินกว่า 5.6 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้มีกองทุนพันธบัตรเกาหลี ทยอยครบกำหนดไปแล้วหลายกองทุน และกองทุนที่กำลังจะหมดอายุโครงการจะมีอยู่ด้วยกัน 3 กองทุนได้แก่ กองทุนเปิดพันธบัตรเกาหลี 1 ปี เอฟ จี และเอช ซึ่งนักลงทุนจะได้รับเงินในวันที่ 31 มีนาคม 2552 ส่วนกองทุนที่จะทยอยหมดอายุโครงการจะเหลือทั้งหมด 19 กองทุน และกองทุนสุดท้ายจะสามารถจ่ายเงินคืนให้กับนักลงทุนได้ในวันที่ 30 กันยายนนี้
สำหรับการรับเงินคืนนั้น ผู้ลงทุนในกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี 1ปี จะได้รับเงินจากการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเค พันธบัตรเกาหลี โดยอัตโนมัติ หรือ ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) ตามที่ผู้ลงทุนได้แจ้งความประสงค์ไว้ตั้งแต่การเปิดบัญชีกองทุน
ทั้งนี้ ปัจจุบันบลจ.กสิกรไทยมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2551 อยู่ที่ 3.47 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่ 3.19 แสนล้านบาท กว่า 2.89 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนรวมมีขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ 2.14 หมื่นล้านบาท อยู่ที่ 2.59 แสนล้านบาทในปัจจุบัน