xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ชาติ ชี้น้ำมัน-เงินเฟ้อ เม.ย. บั่นทอนศก. กังวลขาดดุล 5.6 หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธปท.วิตกขาดดุล 5.6 หมื่นล้าน ชี้ภาวะน้ำมันกำลังบั่นทอนเสถียรภาพศก. และภาวะเงินเฟ้อในอัตราเร่งกดดันความเชื่อมั่น แต่มีภาคเกษตรเข้ามาเป็นตัวช่วย ขณะที่การลงทุนเอกชนเริ่มทรุดอีกครั้ง

นางอมรา ศรีพยัคฆ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ประเทศไทยขาดดุลการค้ามูลค่า 1,768 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.6 หมื่นล้านบาท และขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงถึง 1,661 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 5.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดดุลมากสุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ มิ.ย. 2548

นางอมรา กล่าวว่า สาเหตุหลักของการขาดดุลการค้า เนื่องจากการนำเข้ามีมูลค่า 15,399 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 41.5% โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสูงถึง 79.7% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน เพราะราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นจาก 64.50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล มาเป็น 103 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 61.9%

"มูลค่าการนำเข้าที่เร่งตัวขึ้นมาก ที่สำคัญมาจากผลของการนำเข้าน้ำมัน โดยในเดือนเม.ย. 51 ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 103 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล จากเดือนเม.ย.50 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 64 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรล หรือสูงขึ้นถึง 61.9% โดยสัดส่วนการนำเข้าน้ำมันคิดเป็น 23% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด"

ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงการนำเข้าทองคำที่สูงถึง 616% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นางอมรา กล่าวว่า สาเหตุที่การนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก เนื่องจากฐานของเดือนเม.ย.50 ต่ำ แต่ไม่น่ากังวลเพราะมูลค่านำเข้าทองคำคิดเป็นสัดส่วนเพียง 3.5% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด

"การนำเข้าทองคำในเดือน เม.ย.ที่ดูว่าอัตราการขยายตัวสูงนั้นเป็นเพราะเดือนเม.ย. 50 ฐานต่ำ ซึ่งถ้่าหักการนำเข้าทองคำออกแล้วจะทำให้การส่งออกดีขึ้นหรือไม่นั้น คงไม่มากเพราะสัดส่วนน้อย แต่ตัวที่ทำให้ดุลการค้าแย่จริงๆ คือ น้ำมัน"

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 2/51 ขณะนี้ยังตอบอะไรไม่ได้มาก แต่จากตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาถือว่าในส่วนของภารผลิตน่าจะโตต่อได้ รวมถึงภาคการเกษตร การส่งออก แต่สิ่งที่ห่วง คือ ดุลการค้า ที่เกรงว่าจะขาดดุลเพิ่มขึ้น

"แต่ที่ห่วงคือว่า ถ้า Term of Trade ที่เราเสียไปเรื่อยๆ อาจะทำให้ภาคการค้าที่เราหวังจะเป็น Income ที่จะเข้าอาจจะน้อยลง และจะกลับไปกดดันเงินเฟ้อได้"

ทั้งนี้ ปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเหล็ก และค่าวัสดุก่อสร้าง ทำให้ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน เม.ย. ลดลงมาอยู่ที่ 5.6% ขณะที่เดือน มี.ค. อยู่ที่ 7.4% สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนนี้ที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 43 จาก 47.3 ในเดือนก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมัน อัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ 69.1% ลดลงจากเดือนก่อน

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย. เศรษฐกิจยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากผลิตผลทางการเกษตรที่กลับมาขยายตัวดี

ด้านเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 6.2% เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 5.3% จากราคาสินค้าในหมวดอาหารสดเร่งตัวขึ้นมาก ทำให้ส่งผ่านไปยังราคาสินค้าในหมวดที่ไม่ใช่พลังงานและอาหารสด ส่งผลให้เงินเฟ้อพื้นฐานเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน 1.7% มาอยู่ที่ 2.1%

นางอมรา กล่าวว่า เงินสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับสูงถึง 1.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จากวันที่ 16 พ.ค. 2551 ที่ 1.08 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกันฐานะการซื้อขายล่วงหน้าอยู่ที่ 1.89 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ซึ่งอยู่ที่ 1.99 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น