xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.มองเศรษฐกิจเอเชียเริ่มฟื้นตัว อานิสงส์ดาวโจนส์รูดฝรั่งโยกเงินเข้าไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการกองทุนเผย เม็ดเงินต่างชาติ ส่งสัญญาณทยอยไหลกลับเอเชีย หลังดัชนีดาวโจนส์รูด ไทยเองได้อานิสงส์เช่นกัน ส่งมูลค่าการซื้อขายพุ่งเกินหมื่นล้าน ระบุเศรษฐกิจจีนดีดตัวก่อนเพื่อนบ้าน จากการบริโภคภายในที่แข็งแกร่ง ย้ำพันธบัตรกิมจิแรงไม่ตก ให้ยิลด์ดีกว่าในประเทศ ขณะที่ราคาคอมอดิตี้เพิ่มขึ้นรับค่าเงินอ่อน แนะลงทุนตามตลาดของประเทศนั้นๆเป็นหลัก

นายอรุณศักดิ์ จรูญวงศ์นิรมล
ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอสซีบี ควอนท์ จำกัด (SCBQ) เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มการลงทุนในเอเชียขณะนี้ ยังคงมีความน่าสนใจ เนื่องจากที่ผ่านมาเริ่มมีเม็ดเงินไหลกลับมาลงทุนในเอเชียบ้างแล้ว โดยไม่ได้กลับเข้ามาแบบก้อนใหญ่ แต่เป็นการทยอยกลับเข้ามาเรื่อยๆ จึงทำให้เหมือนเม็ดเงินที่ลงทุนยังนิ่งอยู่

ทั้งนี้ การกลับเข้ามาลงทุน มีสาเหตุมาจากการที่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในเอเชียเพิ่มมากขึ้น โดยตลาดหุ้นในประเทศไทยได้รับอานิสงส์จากการซื้อขายของนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มูลค่าการซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2552 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 15,333.34 ล้านบาท จากนักลงทุนต่างชาติเป็นหลัก

นายอรุณศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย ประเทศที่มีคววามน่าสนใจมากที่สุดคือประเทศจีน เพราะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในได้ดี ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไม่ได้ติดลบ เหมือนกับประเทศอื่นๆในภูมิมีภาคเอเชีย เพียงแต่อัตราการเติบโตลดน้อยลงไปเท่านั้น ทั้งนี้ จากการที่จีนเพิ่มการบริโภคภายในประเทศให้มากขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจจีน ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกที่ดัชนีตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้นลงแรงนั้น มีสาเหตุมาจากการเล่นข่าวเป็นส่วนมากเพื่อเรียกความมั่นใจให้นักลงทุนกลับมาลงทุนในประเทศที่มีการปล่อยข่าว แต่ทั้งนี้ นักลงทุนควรจะพิจารณาว่าหลังจากที่มีการเล่นข่าวแล้วนักลงทุนให้ความสนใจ และมีผลต่อดัชนีตลาดหุ้นหรือระบบเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน

ขณะเดียวกัน การลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศเกาหลีใต้ยังมีความน่าสนใจเหมือนกัน โดยที่ผ่านมาถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีหลายประเทศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เกาหลีใต้ยังคงอัตราดอกเบี้ยอยู่กับที่ไม่ได้ปรับลดตาม จึงทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในตราสารหนี้ปรับดีขึ้นมาจากก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้กองทุนรวมต่างๆที่มาลงทุนในเกาหลีใต้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน ทั้งนี้กองทุนต่างๆยังได้กำไรเพิ่มขึ้นจากการปิดอัตราการแลกเปลี่ยนค่าเงินเพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หรือคอมอดิตี้ ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยสินค้ากลุ่มนี้ราคามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งได้รับอานิสงส์จากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีการอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามการลงทุนคอมอดิตี้ในช่วงนี้จะยังไม่ดีมากนัก ขณะเดียวกัน หากนักลงทุนมีการคาดการณ์ว่าอีกไม่นานเศรษฐกิจจะมีการฟื้นตัว จะทำให้ราคาสินค้ากลุ่มนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มแบงก์หรือไฟแนลเชี่ยว ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากดัชนีตลาดหุ้นมีการรีบาวด์เท่านั้น

ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการกองทุน SCBQ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนภาพรวมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเอเชียจะมีการฟื้นตัวเร็วกว่าภูมิภาคอื่นๆไม่ว่าจะเป็นยุโรป สหรัฐอเมริกา เนื่องจากประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการที่ธนาคารต่างๆ ล้มละลาย แต่สำหรับเศรษฐกิจเอเชีย ไม่ได้อยู่ในขั้นล้มละลาย แต่เพียงแค่ทำให้ประเทศต่างๆ จนลงเท่านั้น เพราะของที่คาดว่าจะขายได้ กลับขายไม่ได้จากพิษเศรษฐกิจนั้นเอง ขณะเดียวกัน หลายๆประเทศในเอเชียได้เน้นให้มีเกิดการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก เพื่อที่จะได้เป็นการกระจายรายได้และกระตุ้นเศรษบกิจไปในตัวด้วย

สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น อยากแนะนำให้นักลงทุนมีการกระจายความเสี่ยง โดยให้นักลงทุนเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนตามดัชนีตลาดหุ้น (INDEX)ของประเทศนั้นๆเป็นหลัก แต่ข้อเสียของการลงทุนกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ คือนักลงทุนไม่สามารถเจาะจงได้ว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหน เพราะขึ้นอยู่กับกองทุนนั้นๆว่ามีนโยบายการลงทุนอย่างไร เพราะส่วนใหญ่กองทุนจะลงทุนตามตลาดมากกว่า ดังนั้น นักลงทุนควรที่จะศึกษาข้อมูลการลงทุนและนโยบายการลงทุนให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน

นอกจากนี้ นายอรุณศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้สหรัฐอเมริกาได้มีการจัดการหนี้เสียของธนาคารหรือเอ็นพีแอล จึงทำให้นักลงทุนที่ก่อนหน้านี้ถือครองเงินสดไว้กับตัว นำเม็ดเงินออกมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยไปลงทุนยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง หรือลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในเอเชียมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นนั้น สะท้อนให้เห็นถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน

นายกรวุฒิ ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. ยูโอบี กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียมีความน่าสนใจ เพราะที่ผ่านมานักลงทุนได้มีการเทขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาก จึงทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นมีโอกาสที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้

อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนยังเป็นประเทศที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะมีศักยภาพในด้านการเติบโตสูง ถึงแม้ว่าไอเอ็มเอฟจะมีการปรับลดอัตราการเติบโต (จีดีพี) ลง จนทำให้ภาคการส่งออกของจีนปรับตัวลดลงตามไปด้วย แต่การอุปโภคบริโภคภายในของจีนยังแข็งแกร่งมาก จึงทำให้อัตราการเติบโตยังคงเป็นบวกโดยอยู่ที่ประมาณ 6.5%ไม่ติดลบเหมือนประเทศอื่นๆ

ด้านการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกลุ่มเหล็ก ธุรกิจการเดินเรือ ที่ถึงแม้ว่าราคาจะมีความผันผวนสูง แต่จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ ขณะที่การลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์ นักลงทุนยังคงมีความกังวลในเรื่องของหนี้เสียหรือเอ็นพีแอล ดังนั้นการลงทุนในตลาดหุ้นจะต้องขึ้นอยู่กับเซกเตอร์ของประเทศที่ลงทุนเป็นหลัก จึงทำให้ภาพรวมการลงทุนไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ขณะที่การลงทุนในกลุ่มของโครงสร้างฟื้นฐาน (อินฟราสตรัคเจอร์) จัดได้ว่าเป็นการลงทุนที่ดี โดยจะเป็นการเร่งการใช้จ่ายเงินเข้าระบบเพื่อช่วยในการสร้างงานสร้างรายได้ แต่จะต้องเน้นการลงทุนของทางภาครัฐเป็นหลัก เพื่อป้องกันความเสี่ยง
กำลังโหลดความคิดเห็น