xs
xsm
sm
md
lg

AYFมองศก.เวียดนามยังเปราะบางปรับสัดส่วนกอง"AYFAVN"ลุยหุ้นอาเซียนแทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์
บลจ.อยุธยา เผยวิกฤตเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้เศรษฐกิจเวียดนาม ยังคงเปาะบางต่อไปอีก 1-2 ปีนี้ เหตุพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก และการบริโภคภายในประเทศลดน้อยลง แต่ยังเชื่อปีนี้ แนวโน้มการขยายตัวในระยะยาวยังเป็นบวก คาดขยายตัว 3-5% ขณะที่ "อยุธยา อาเซียน เวียดนาม โฟกัส" ลดสัดส่วนการลงทุนในเวียดนาม เน้นกระจายการลงทุนในอาเซียนแทน
 
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด (เอวายเอฟ) เปิดเผยถึงเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลให้การคาดหวังถึง ภาคการส่งออกของประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นรายได้หลักปรับตัวลดลงไปด้วย จึงส่งผลให้ภายใน 1-2 ปีนี้ เศรษฐกิจของเวียดนามยังคงเปราะบางอย่างมาก เพราะการพึ่งพาปัจจัยภายนอกประเทศ มากกว่าปัจจัยภายในประเทศ ขณะที่ปัจจัยการบริโภคภายในประเทศปรับตัวลดลง ในส่วนของการกระตุ้นเศรษฐกิจของเวียดนามนั้น คาดว่ารัฐบาลจะไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศมากนัก โดยจะเน้นการลดหย่อนกฎระเบียบต่างๆมากขึ้น เพื่อที่จะได้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น
 
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตลาดหุ้นเวียดนามได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปรับตัวลดลงจาก 400 จุด มาอยู่ที่ประมาณ 270 จุด ซึ่งจากการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นได้สะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การลงทุนในเวียดนาม หรือกลุ่มประเทศอาเซียน เกิดการชะลอตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้การลงทุนใหม่ๆที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ได้ชะลอตัวตามไปด้วย  แต่สำหรับการลงทุนจากก่อนหน้านี้ นักลงทุนอาจจะมีการลงทุนต่อไป หรืออาจจะทำให้ต้องยกเลิกการลงทุนที่เกิดขึ้นก็เป็นได้
"การลงทุนในตลาดหุ้นของเวียดนาม ในระยะยาวถือว่ายังมีความน่าสนใจ เพราะตลาดหุ้นเวียดนามเป็นตลาดหุ้นขนาดเล็ก จึงทำให้ผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก อาจจะทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนได้บ้าง แต่โอกาสที่ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่นๆนั้นเป็นไปได้สูง"นายประภาส กล่าว
 
นอกจากนี้ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเวียดนามนั้น ส่วนหนึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจจีน ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศด้วย โดยคาดว่าปีนี้การลงทุนระยะยาวของเวียดนาม จะมีการขยายตัวเป็นบวก และจะขยายตัวประมาณ 3-5% ซึ่งเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์และไทย ที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจคาดว่าจะยังคงติดลบอยู่ จึงถือว่าเป็นการขยายตัวที่ดีมากสำหรับเวียดนามในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้

 ทั้งนี้ บลจ.อยุธยาเอง มีกองทุนที่ลงทุนในเวียดนามเช่นกัน นั่นคือ กองทุนเปิดอยุธยา อาเซียน เวียดนาม โฟกัส (AYF ASEAN Vietnam Focus Fund: AYFAVN)  ซึ่งจากผลกระทบดังกล่าว กองทุนได้มีการปรับลดสัดส่วนการลงทุนในเวียดนามน้อยลง โดยได้มีการกระจายการลงทุนไปยังประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียนเพิ่มขึ้นแทน โดย ณ วันที่  20 มีนาคม 2552 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 25,070,677.72 บาท

 สำหรับกองทุนดังกล่าว มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่มีเป้าหมายให้ผลตอบแทนในการถือครองหน่วยลงทุนในระยะยาว โดยจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ชื่อ CAAM Funds ASEAN New Markets ซึ่งจัดตั้งและจัดการภายใต้กฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก โดยมี Credit Agricole Asset Management Hong Kong Limited (CAAM) เป็นผู้จัดการกองทุน โดยลงทุนในสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ เป็นสกุลเงินหลัก
 
ในส่วนของผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พบว่ากองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -1.68% ขณะที่ดัชนี MSCI South East Asia (THB) อยู่ที่-1.29% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -35.50% พบดัชนี MSCI South East Asia (THB) อยู่ที่ -38.78% ด้านผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีของกองทุนอยู่ที่ -6.06% ขณะที่ดัชนี MSCI South East Asia (THB) อยู่ที่ -8.19% และผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -51.38%ส่วนดัชนี MSCI South East Asia (THB) อยู่ที่ -43.41%
กำลังโหลดความคิดเห็น