ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.ทหารไทย แนะ นักลงทุนอย่างเพิ่งลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศพัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ ยุโรป หรือ ญี่ปุ่น เพราะยังมีความเสี่ยงอยู่ เนื่องจากยังไม่เห็นตัวเลขความเสียหายทั้งหมดของภาคสถาบันการเงิน ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นตกลงไปได้อีก ชี้ ควรรอดูตัวเลขของไตรมาส 1 เสียก่อนถึงจะคาดการณ์ได้
นายกำพล อัศวกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนตัวแทนขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์ของตลาดหุ้นในประเทศที่พัฒนาแล้ว ทั้งยุโรป สหรัฐฯ รวมถึงญี่ปุ่นว่า ในขณะนี้ตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วยังไม่ฟื้นตัวขึ้นมามากนัก ซึ่งเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นของบรรดาประเทศเทศเกิดใหม่แล้วจะพบว่าตลาดหุ้นมีการรีบาวน์ขึ้นมามากกว่า จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วได้รับผลกระทบที่รุนแรงมากและยังไม่สามารถคาดการณ์ถึงแนวโน้มที่จะกลับมาฟื้นตัวได้
ทั้งนี้ ยังได้แนะนำนักลงทุนด้วยว่า ยังไม่ควรที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศที่พัฒานาแล้วในตอนนี้ เพราะตลาดหุ้นยังไม่ได้สะท้อนตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาคสถาบันการเงินทั้งหมดออกมา โดยสถานการณ์ดังกล่าวสามารถส่งผลกระทบไปถึงราคาหุ้นในตลาดที่อาจตกลงไปได้อีก
"อยากแนะนำนักลงทุนว่าควรรอดูการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของไตรมาส 1 เสียก่อนถึงจะประเมินได้ว่าทิศางของตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศนี้จะเป็นไปในทิศทางใด" นายกำพลกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของ กองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 พบว่า กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -3.85% เทียบกับเกณฑ์มาตราฐาน ดัชนี MSCI World (สกุลเงินยูโร) อยู่ที่ -4.11% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -36.51%เทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -30.35% ขณะที่ย้อนหลัง1 ปีอยู่ที่ -39.68% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานแล้วอยู่ที่ -36.83% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -46.62% ซึ่งเมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานอยู่ที่ -45.87% ทั้งนี้เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตราฐานดัชนี MSCI World (สกุลเงินบาท) กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลังอยู่ที่ -2.48% -37.38% -40.72% -47.95% ตามลำดับ
กองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index เป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมพิเศษ มีมูลค่าทรัพย์สินโครงการ ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 อยู่ที่ 132,399,855 บาท โดยกองทุนมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนให้ได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี MSCI World โดยจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี MSCI World โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน และมีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุน เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี MSCI World ให้มากที่สุด
ขณะเดียวกันกองทุนมีความเสี่ยงในด้านต่างๆ ได้แก่ ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงของราคาาหลักทรัพย์ที่กองทุนแม่ลงทุน ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงในด้านราคา ETF ในตลาดหลักทรัพย์ของกองทุนต่างประเทศอาจแตกต่างจากมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ (NAV) ความเสี่ยงด้านการเข้าทำธุรกรรมซื้อขายตราสารล่วงหน้า รวมไปถึงความเสี่ยงในด้านของเสถียรภาพทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ ตลาดทุนของประเทศ และความเสี่ยงในด้านของ ค่าบริหารของกองทุนต่างประเทศที่อาจเพิ่มขึ้น