xs
xsm
sm
md
lg

แนะนาทีทองซื้อแอลทีเอฟสะสม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ผู้จัดการกองทุนชี้ โอกาสทองทำกำไรระยะยาวผ่านกองทุนแอลทีเอฟ แนะช่วงหุ้นตกทยอยซื้อเข้าพอร์ตแทนการซื้อครั้งเดียว ระบุอานิสงส์มาตรการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก ดันดัชนีหุ้นทะยาน
 นาย พนุกร จันทรประภพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)แมนูไลฟ์(ประเทศไทย)จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาอย่างมากในขณะนี้ ถือเป็นโอกาสทองของนักลงทุนที่จะกลับเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือกองทุนแอลทีเอฟ โดยที่กองทุนดังกล่าวเน้นการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งจะสามารถทำการซื้อหรือขายหน่วยลงทุนได้ในระยะเวลา 5 ปีปฏิทิน และเร็วสุดในการซื้อขายคือ 3 ปีปฏิทิน โดยมองว่าอนาคตกองทุนแอลทีเอฟนั้น เมื่อสถานการณ์ต่างๆเริ่มปรับตัวดีขึ้น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้การลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟในขณะนี้มีโอกาสสูงในการทำกำไรให้แก่นักลงทุน อีกทั้งการลงทุนนั้นยังสามารถใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้ด้วย
 "ปัจจุบันนี้การลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในระดับ 430 จุด ถือว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะถือว่าเป็นดัชนีที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้นักลงทุนทั้งรายเก่าและนักลงทุนหน้าใหม่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยโอกาสที่จะทำกำไรในระยะยาวมีมาก"นายพนุกร กล่าว
สำหรับกองทุนแอลทีเอฟ ถือว่าเป็นการลงทุนที่น่าสนใจกว่ากองทุนอื่นๆ เนื่องจากที่ผ่านมานั้นพบว่า กองทุนมียอดสินทรัพย์สุทธิที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยในแง่ของการตลาดจะพบว่า นักลงทุนมีการตื่นตัวกับกองทุนประเภทนี้มากขึ้น อีกทั้งบลจ.ต่างๆมีการโปรโมตกองทุนในทุกด้านเพิ่มมากขึ้นด้วย  จึงถือได้ว่าสำหรับนักลงทุนแล้วการลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟได้เป็นทางเลือกอันดับต้นของการลงทุน
 ส่วนของสถานการณ์การลงทุนในประเทศไทยในขณะนี้ ถือได้ว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น โดยได้รับอนิสงส์จากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนโยบายทางด้านการเงินจากประเทศต่างๆทั่วโลก ที่ได้ออกมาเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งจากการอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาในระบบเศรษฐกิจนั้น ส่งผลให้ดัชนีได้ตอบรับนโยบายต่างๆพอสมควร
 นายวิโรจน์ ตั้งเจริญ รักษาการ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด 1 บลจ. กรุงไทย กล่าวว่า การลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟในปีนี้ ถือได้ว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมาอย่างมาก จึงทำให้การลงทุนในกองทุนมีโอกาสขาดทุนลดน้อยลงไปด้วย โดยบริษัทมองว่าการลงทุนในขณะนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีและเหมาะสำหรับกับนักลงทุนมาก ซึ่งหากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น กองทุนแอลทีเอฟจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุนได้
"การลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟในปีนี้ ถือได้ว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก แต่นักลงทุนก็ไม่ควรที่จะวู่วามเข้าไปลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่ควรจะเข้าไปลงทุนแบบสะสม หรือ เซฟวิ่งเพลน (Saving Plan) โดยนักลงทุน ควรที่จะลงทุนในช่วงเวลาที่หุ้นตกเพราะจะได้หุ้นราคาถูก โดยควรยืดกฎว่าหุ้นยิ่งตกยิ่งซื้อ แต่ควรจะทยอยซื้อหลายๆครั้ง"นายวิโรจน์กล่าว
 นายเจิดพันธุ์ นิธยายน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านจัดการลงทุน บลจ. บีที กล่าวว่า การลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟนั้นเป็นการลงทุนที่ได้กำไรอยู่แล้วในเรื่องของการใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ซึ่งขณะนี้ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับตัวลดลงมามาก จึงทำให้การลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟมีความน่าสนใจมาก ทั้งนี้ บริษัทมองว่าเศรษฐกิจและราคาหุ้นน่าจะดีกว่าในขณะนี้ และขณะเดียวกันบริษัทได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟตามสถานะการณ์ที่เกิดขึ้น
 นายวรรธนะ วงศ์สีนิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ฟิลลิป  กล่าวว่า การลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟนั้น ขึ้นอยู่กับนักลงทุนจะสามารถรับความเสี่ยงและความผันผวนของการลงทุนในตลาดหุ้นได้มากน้อยเพียงใด โดยราคาหุ้นในขณะนี้ ถือได้ว่าค่อนข้างถูก หากนักลงทุนจะเข้าไปทำการซื้อเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุน อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ บริษัทมองว่าราคาน่าจะปรับตัวลดลงมาได้อีกเล็กน้อย โดยจะต้องรอดูตัวเลขงบประมาณของไตรมาส4 ที่จะประกาศออกมาว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่นักลงทุนจะตัดสินใจลงทุน
 “การลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟในขณะนี้ สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนได้ เพราะราคาหุ้นที่ค่อนข้างถูก ซึ่งนักลงทุนควรทยอยซื้อเก็บไว้แทนการซื้อเพียงครั้งเดียว โดยเฉพาะนักลงทุนที่มีฐานภาษีสูงควรที่จะรีบเข้าลงทุน เนื่องจากว่าการลงทุนสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งสิทธิดังกล่าวเป็นผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับ ในขณะที่กองทุนหุ้นทั่วไปไม่มี”นายวรรธนะ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น