ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.เอ็มเอฟซี รับลูก ก.ล.ต. แก้เกณฑ์แอลทีเอฟ ล่าสุดแก้ไขโครงการ 4 กองทุนในพอร์ต ใช้อนุพันธ์เข้าช่วย เพิ่มเปิดช่องลงทุนอ้างอิงตัวแปร ทั้งกองทุนดัชนี สินค้าโภคภัณฑ์ และอัตราแลกเปลี่ยน หวังให้ผลตอบแทนของกองทุน ไม่แปรผันตามตลาด
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้แก้ไขนโยบายการลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 4 กองทุน ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มทรัพย์หุ้นระยะยาว (MA-LTF) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีโกลบอลหุ้นระยะยาว (MG-LTF) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว (MIF-LTF)
ทั้งนี้ การแก้ไขโครงการกองทุนดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จากเดิมที่กำหนดให้กองทุนรวมแอลทีเอฟ ต้องลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ต่ำกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวม เป็นการขยายประเภททรัพย์สินที่สามารถนับรวมในสัดส่วน 65% นี้ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งประกอบด้วย หลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอ้างอิงกับหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหรือกลุ่มหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น warrant, single stock futures, กองทุนรวมอีทีเอฟที่สะท้อนดัชนี SET 50 และกองทุนรวมดัชนีหุ้นสามัญ เป็นต้น
โดยการแก้ไขโครงการของกองทุนแอลทีเอฟทั้ง 4 กองทุนดังกล่าว ดังกล่าว บลจ.เอ็มเอฟซี ได้เพิ่มการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารการลงทุนและเพื่อลดความเสี่ยง และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานฯ ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตลอดจนอัตราส่วนการลงทุนในสัญญาหรือตราสารดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถาวะตลาดและเป็นประโยชน์แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
ทั้งนี้ ในส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุนนั้น ได้เปิดทางให้กองทุนจะต้องเข้าเป็นคู่สัญญาในตัวแปรอย่างใดอย่างหนึ่งในสินทรัพย์ เช่น หลักทรัพย์หรือดัชนีกลุ่มหลักทรัพย์ อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน กองทุนจะเข้าเป็นคู่สัญญาในกรณีดังกล่าวได้เฉพาะเพื่อการลดความเสี่ยงเท่านั้น นอกจากนี้ ยังรวมถึงถึงการลงทุนในทองคำ น้ำมันดิบ หรือดัชนีกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งได้ระบุเข้าเป็นคู่สัญญาในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีสินค้าหรือตัวแปรไว้อย่างชัดเจนในโครงการจัดการกองทุนรวมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการแก้ไขโครงการดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว ยังเป็นการแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การลงทุนของเอ็มเอฟซีเองด้วย โดยก่อนหน้านี้ นายศุภกร สุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซีกล่าวว่า การที่บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ ยังมีความผันผวนอยู่ ทำให้การลงทุนของเอ็มเอฟซี จะไม่ผูกกับการเคลื่อนไหวของตลาด โดยเฉพาะหากตลาดหุ้นตก กองทุนของเราต้องตกน้อยกว่า โดยกลยุทธ์เหล่านี้จะใช้เครื่องมือทางด้านการลงทุนเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้อนุพันธ์เข้ามาช่วย หรือตั้งกองทุนประเภทสตรัคเจอร์โน้ต (Structure Note) เพื่อให้ผลตอบแทนของกองทุนไม่แปรผันตามตลาดที่ติดลบ
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้แก้ไขนโยบายการลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 4 กองทุน ซึ่งประกอบด้วย กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มทรัพย์หุ้นระยะยาว (MA-LTF) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่าหุ้นระยะยาว (MV-LTF) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีโกลบอลหุ้นระยะยาว (MG-LTF) กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว (MIF-LTF)
ทั้งนี้ การแก้ไขโครงการกองทุนดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จากเดิมที่กำหนดให้กองทุนรวมแอลทีเอฟ ต้องลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ต่ำกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวม เป็นการขยายประเภททรัพย์สินที่สามารถนับรวมในสัดส่วน 65% นี้ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งประกอบด้วย หลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนอ้างอิงกับหุ้นของบริษัทจดทะเบียนหรือกลุ่มหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น warrant, single stock futures, กองทุนรวมอีทีเอฟที่สะท้อนดัชนี SET 50 และกองทุนรวมดัชนีหุ้นสามัญ เป็นต้น
โดยการแก้ไขโครงการของกองทุนแอลทีเอฟทั้ง 4 กองทุนดังกล่าว ดังกล่าว บลจ.เอ็มเอฟซี ได้เพิ่มการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารการลงทุนและเพื่อลดความเสี่ยง และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝงตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานฯ ได้ออกประกาศเกี่ยวกับการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตลอดจนอัตราส่วนการลงทุนในสัญญาหรือตราสารดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถาวะตลาดและเป็นประโยชน์แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน
ทั้งนี้ ในส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุนนั้น ได้เปิดทางให้กองทุนจะต้องเข้าเป็นคู่สัญญาในตัวแปรอย่างใดอย่างหนึ่งในสินทรัพย์ เช่น หลักทรัพย์หรือดัชนีกลุ่มหลักทรัพย์ อัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน กองทุนจะเข้าเป็นคู่สัญญาในกรณีดังกล่าวได้เฉพาะเพื่อการลดความเสี่ยงเท่านั้น นอกจากนี้ ยังรวมถึงถึงการลงทุนในทองคำ น้ำมันดิบ หรือดัชนีกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งได้ระบุเข้าเป็นคู่สัญญาในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีสินค้าหรือตัวแปรไว้อย่างชัดเจนในโครงการจัดการกองทุนรวมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการแก้ไขโครงการดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว ยังเป็นการแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การลงทุนของเอ็มเอฟซีเองด้วย โดยก่อนหน้านี้ นายศุภกร สุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซีกล่าวว่า การที่บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ ยังมีความผันผวนอยู่ ทำให้การลงทุนของเอ็มเอฟซี จะไม่ผูกกับการเคลื่อนไหวของตลาด โดยเฉพาะหากตลาดหุ้นตก กองทุนของเราต้องตกน้อยกว่า โดยกลยุทธ์เหล่านี้จะใช้เครื่องมือทางด้านการลงทุนเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้อนุพันธ์เข้ามาช่วย หรือตั้งกองทุนประเภทสตรัคเจอร์โน้ต (Structure Note) เพื่อให้ผลตอบแทนของกองทุนไม่แปรผันตามตลาดที่ติดลบ
