xs
xsm
sm
md
lg

KTAMขายกองบอนด์กิมจิ-หุ้นกู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กรุงไทย เดินหน้าส่งตราสารหนี้ ดึงเงินเข้าพอร์ตต่อเนื่อง ล่าสุด ส่งกองทุนบอนด์เกาหลีใต้อายุ 6 เดือน ระดมทุนต่อ แต่ผลตอบแทนปรับลดเหลือ 3.5% เหตุเฟดอันสภาพคล่องเข้าระบบ ด้วยการทุ่มเงินซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ระยะสั้นกลาง-ยาว ขายไอพีโอพร้อมกองทุนหุ้นกู้ในประเทศ ถึงปลายเดือนนี้

นายสมชัย บุญนำศิริ
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ทั้งใน และต่างประเทศ ประกอบด้วย กองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6เดือน23 (KTFIF6M23 ) และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน 6 (KTSIV6M6)

โดยกองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6เดือน23 มีอายุโครงการ 6 เดือนและมีมูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ ประเภท Euro Commercial Paper (ECP)/Euro Medium Term Note (EMTN) โดยกองทุนจะลงทุนใน Export –Import Bank of Korea, Korea Development Bank ในสัดส่วนสถาบันละ 35% และลงทุนใน Industrial Bank of Korea ในสัดส่วน 30% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่งผลให้กองทุนได้รับอัตราผลตอบแทนประมาณการที่ 3.50% ต่อปี โดยเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

ทั้งนี้ สถาบันการเงินทั้ง 3 แห่ง จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ เป็นกลไกที่สำคัญของรัฐบาลเกาหลีใต้ในการดำเนินนโยบายต่างๆ ( Policy Bank ) โดยปัจจุบันรัฐบาลเกาหลีใต้ถือหุ้นใน Export - Import Bank of Korea และ Korea Development Bank ทั้ง 100% และถือหุ้นใน Industrial Bank of Korea ประมาณ 67% โดยกองทุนจะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2552

นายสมชัยกล่าวต่อไปว่า อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศเริ่มมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน( FOMC )ของสหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องด้วยวิธีการเข้ารับซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้ระยะสั้นกลาง-ยาว (Quantitative Easing Program – QEP) เพื่อลดต้นทุนการเงินของระบบ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างธนาคาร (LIBOR) ปรับลดลง ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของสถาบันการเงินและประเทศต่างๆ ลดลงเช่นกัน จากที่ผ่านมา มีการเพิ่มปริมาณเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ในระบบอย่างมาก ทำให้เกิดแรงเทขายดอลล่าร์สหรัฐฯ และกดดันให้สกุลเงินต่างๆ แข็งค่าขึ้นรวมถึงเงินบาท แนวโน้มของปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินบาทปรับตัวลดลงตาม

ส่วนกองทุน KTSIV6M6 มีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2552 โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในสถาบันการเงินและตราสารหนี้ระยะสั้นของบริษัทเอกชนในประเทศที่มีอันดับเครดิต A- ขึ้นไป ซึ่งกองทุนจะลงทุนใน เงินฝาก /บัตรเงินฝาก /ตั๋วแลกเงิน ของธนาคารสินเอเชีย และธนาคารทิสโก้ ในสัดส่วนสถาบันละ 12.50% ลงทุนในหุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 25% และลงทุนในตั๋วแลกเงินของบมจ.บัตรกรุงไทย และบมจ.ปตท.อะโรเมติกส์ และการกลั่น ในสัดส่วนสถาบันละ 25% ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.70% ต่อปี โดยการลงทุนในกองทุนจะไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15%
กำลังโหลดความคิดเห็น