บลจ.กรุงไทย โรโอเวอร์กองทุน "กรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 1"อีกครั้ง ให้ผลอตบเเเทน 0.80% ต่อปี เปิดขายหน่วยลงทุนเเล้วตั้งเเต่วันนี้ถึง 2 เมษา 52
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดกการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทกำลังอยู่ในช่วงเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 1(KTFIX3M1) อีกครั้งตั้งเเต่วันนี้ถึง วันที่ 2 เมษายน 2552 โดยกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบเเทน 0.80% ต่อปี
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น1 จะลงทุนในตราสารที่มุ่งจะให้เกิดความคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก หรือทรัพย์สินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.
โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารข้างต้นเพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 98 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ อัตราส่วนข้างต้น จะมินำมาใช้บังคับในกรณีต่อไปนี้1.ช่วงระยะเวลาประมาณ 7 วันทำการนับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม 2.ช่วงระยะเวลาประมาณ 7 วันทำการก่อนวันทำการขาย-รับซื้อคืนหน่วยลงทุนภายหลังจากการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในแต่ละรอบ เเละ3.ช่วงระยะเวลาประมาณ 7 วันทำการหลังวันทำการขาย-รับซื้อคืนหน่วยลงทุนภายหลังจากการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในแต่ละรอบสำหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในตราสารที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ของธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งและ/หรือตราสารแห่งหนี้ทั่วไปที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้
ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structure Note)
ขณะเดียวกันบลจ.กรุงไทยกำลังเปิดขายหน่วยลงทุนตราสารหนี้อีก 2 กองทุนคือ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6เดือน23 (KTFIF6M23 ) ที่ลงทุนในในตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ ประเภท Euro Commercial Paper (ECP)/Euro Medium Term Note (EMTN) โดยกองทุนจะลงทุนใน Export –Import Bank of Korea, Korea Development Bank ในสัดส่วนสถาบันละ 35% และลงทุนใน Industrial Bank of Korea ในสัดส่วน 30% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่งผลให้กองทุนได้รับอัตราผลตอบแทนประมาณการที่ 3.50% ต่อปี โดยเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน 6 (KTSIV6M6)มีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2552 โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในสถาบันการเงินและตราสารหนี้ระยะสั้นของบริษัทเอกชนในประเทศที่มีอันดับเครดิต A- ขึ้นไป ซึ่งกองทุนจะลงทุนใน เงินฝาก /บัตรเงินฝาก /ตั๋วแลกเงิน ของธนาคารสินเอเชีย และธนาคารทิสโก้ ในสัดส่วนสถาบันละ 12.50% ลงทุนในหุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 25% และลงทุนในตั๋วแลกเงินของบมจ.บัตรกรุงไทย และบมจ.ปตท.อะโรเมติกส์ และการกลั่น ในสัดส่วนสถาบันละ 25% ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.70% ต่อปี โดยจะเปิดขายไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2552 อีกด้วย
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดกการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทกำลังอยู่ในช่วงเปิดขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 1(KTFIX3M1) อีกครั้งตั้งเเต่วันนี้ถึง วันที่ 2 เมษายน 2552 โดยกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบเเทน 0.80% ต่อปี
สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น1 จะลงทุนในตราสารที่มุ่งจะให้เกิดความคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก หรือทรัพย์สินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย ทั้งนี้ โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์เเละตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.
โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารข้างต้นเพื่อเป็นทรัพย์สินของกองทุนรวมมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 98 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ อัตราส่วนข้างต้น จะมินำมาใช้บังคับในกรณีต่อไปนี้1.ช่วงระยะเวลาประมาณ 7 วันทำการนับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม 2.ช่วงระยะเวลาประมาณ 7 วันทำการก่อนวันทำการขาย-รับซื้อคืนหน่วยลงทุนภายหลังจากการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในแต่ละรอบ เเละ3.ช่วงระยะเวลาประมาณ 7 วันทำการหลังวันทำการขาย-รับซื้อคืนหน่วยลงทุนภายหลังจากการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในแต่ละรอบสำหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในตราสารที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ของธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งและ/หรือตราสารแห่งหนี้ทั่วไปที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้
ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative) และตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structure Note)
ขณะเดียวกันบลจ.กรุงไทยกำลังเปิดขายหน่วยลงทุนตราสารหนี้อีก 2 กองทุนคือ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารต่างประเทศ 6เดือน23 (KTFIF6M23 ) ที่ลงทุนในในตราสารหนี้สถาบันการเงินภาครัฐต่างประเทศ ประเภท Euro Commercial Paper (ECP)/Euro Medium Term Note (EMTN) โดยกองทุนจะลงทุนใน Export –Import Bank of Korea, Korea Development Bank ในสัดส่วนสถาบันละ 35% และลงทุนใน Industrial Bank of Korea ในสัดส่วน 30% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่งผลให้กองทุนได้รับอัตราผลตอบแทนประมาณการที่ 3.50% ต่อปี โดยเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6 เดือน 6 (KTSIV6M6)มีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เปิดจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2552 โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในสถาบันการเงินและตราสารหนี้ระยะสั้นของบริษัทเอกชนในประเทศที่มีอันดับเครดิต A- ขึ้นไป ซึ่งกองทุนจะลงทุนใน เงินฝาก /บัตรเงินฝาก /ตั๋วแลกเงิน ของธนาคารสินเอเชีย และธนาคารทิสโก้ ในสัดส่วนสถาบันละ 12.50% ลงทุนในหุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 25% และลงทุนในตั๋วแลกเงินของบมจ.บัตรกรุงไทย และบมจ.ปตท.อะโรเมติกส์ และการกลั่น ในสัดส่วนสถาบันละ 25% ส่งผลให้กองทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 1.70% ต่อปี โดยจะเปิดขายไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2552 อีกด้วย