xs
xsm
sm
md
lg

ทิสโก้แนะปรับอายุลงทุนตราสารหนี้ ส่งกองหุ้นกู้ล็อกยิลด์รับดอกเบี้ยขาลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ทิสโก้ คาดดอกเบี้ยไทยขาลง แนะนักลงทุนปรับอายุตราสารหนี้ถือระยะยาวมากขึ้น พร้อมเตรียมเปิดขายกองหุ้นกู้เอกชนอีกระลอก ส่ง ทิสโก้ สเปเชี่ยล พลัส 10 ล่อใจนักลงทุนระหว่างวันที่ 18-25 มีนาคมนี้ มั่นใจเป็ทางเลือกที่ดีในการสร้างผลตอบแทนช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ
นายพิชา รัตนธรรม
นายพิชา รัตนธรรม หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่านักลงทุนให้ความสนใจในตราสารหนี้เอกชนที่มีอายุยาวขึ้น เนื่องจากมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าทางเลือกการลงทุนประเภทอื่นๆ เช่น เงินฝากและพันธบัตรรัฐบาล

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทจึงเตรียมทำการเปิดขาย“กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล พลัส 10” ในระหว่างวันที่ 18-25 มี.ค. นี้เพื่อรองรับความต้องการจากนักลงทุนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเคยเปิดขาย“กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล พลัส 6-9"ไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา

“ที่ผ่านมาเรามีการเสนอขายกองทุนหลายประเภทเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าตามจังหวะเวลาและความเหมาะสม โดยพบว่ากองทุนตราสารหนี้เอกชนในประเทศได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่แสวงหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆ ที่มีโอกาสรับผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินในธนาคาร เนื่องจากให้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มหรือ Credit spread ที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุใกล้เคียงกัน”

สำหรับ“กองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล พลัส 10”จะอายุโครงการประมาณ 2 ปี และมูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท โดยกองทุนนี้จะมีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้เอกชนภายในประเทศที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทเอกชนในประเทศที่มีคุณภาพ ระยะเวลาลงทุนประมาณ 2 ปี แต่จะมีการเพิ่มสภาพคล่องให้นักลงทุนด้วยการจ่ายผลตอบแทนสม่ำเสมอ (Auto Redemption) ทุกๆ 6 เดือน

นายพิชา กล่าวอีกว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างต่อเนื่องของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกอบกับความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐระยะสั้นที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากกองทุนตลาดเงินระยะสั้น กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น จึงเป็นไปได้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจปรับตัวลดลงได้อีก การลงทุนระยะสั้นจึงมีความเสี่ยงที่การลงทุนรอบใหม่จะได้ผลตอบแทนลดลง ดังนั้นการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีเรตติ้งดี ตั้งแต่ A- ขึ้นไป จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการล็อกผลตอบแทนที่แน่นอนที่จะได้รับในช่วงเวลาประมาณ 2 ปี ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะลดต่ำลงไปอีก ซึ่งเชื่อว่าเมื่อกองทุนครบอายุ ผู้ลงทุนจะได้ลงทุนต่อในอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า ดังนั้นกองทุนดังกล่าวจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงอัตราดอกเบี้ยตกต่ำ

อนึ่ง การเปิดขายกองทุนในกลุ่ม"ทิสโก้ สเปเชี่ยลพลัส ของบลจ.ทิสโก้ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าได้รับการตอบจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยการเปิดขายกองทุนจำนวน 9 กองมียอดการระดมทุนไปแล้วถึงกว่า 1 พันล้านบาท โดยมีกองทุนที่ครบอายุตามโครงการไปแล้วจำนวน 1 กองทุน

ทั้งนี้ บลจ.ทิสโก้ ได้มีการวางเป้าการออกกองทุนช่วงครึ่งปีแรกสำหรับกองทุนตราสารหนี้ สเปเชี่ยล พลัสไว้ที่ 12 กอง โดยจะออกประมาณเดือนละ 2 กองทุน ส่วนการออกกองทุนตราสารทุนจะเป็นกองทุนต่างประเทศประเภททาร์เก็ตฟันด์ได้แก่ กองทุนเปิด เอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ทริกเกอร์ 15% ซึ่งจะทำการเสนอขายให้กับนักลงทุนประมาณเดือนละ 1 กอง โดยในปีนี้ บลจ.ทิสโก้เป้าการเติบโตของสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหาร(AUM)ในปีนี้ เอาไว้ที่ประมาณ 20%

สำหรับ AUM ของบลจ.ทิสโก้ในปีที่ผ่านมาพบว่า อยู่ที่ 106,985 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 68,525 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 64.1%, กองทุนส่วนบุคคล 23,848 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 22.3% และกองทุนรวม 14,612 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 13.7%
กำลังโหลดความคิดเห็น