บลจ.บัวหลวง สั่งยกเลิกกองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ หลังกองทุนหลักในต่างประเทศ ประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจการเงินของสหรัฐ นักลงทุนไถ่ถอน จนต้องปิดกองทุน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้จัดตั้งกองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ (Bualuang All Stars Fund หรือ BSTAR) เพื่อระดมเงินทุนจากผู้ลงทุนในประเทศไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศกองทุนเดียว ที่เน้นลงทุนในกองทุนหลัก ได้แก่ กองทุน Citigroup S&P Global STARS 80% Protected Portfolio Fund ที่คุ้มครองเงินลงทุนในอัตราร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่สูงที่สุดนับจากวันที่จัดตั้งกองทุนนั้น ขณะนี้กองทุนหลักดังกล่าวในต่างประเทศ ได้ประกาศปิดกองทุน เนื่องจากได้รับผลกระทบทางอ้อมจากวิกฤติการณ์ทางการเงินของสหรัฐอเมริกาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้กองทุนหลักถูกไถ่ถอนจากผู้ลงทุนในต่างประเทศจำนวนมาก หลังจากมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา จนทำให้กองทุนหลักมีขนาดทรัพย์สินลดลง จนทำให้ผู้จัดการกองทุนในต่างประเทศจำเป็นต้องเลิกกองทุนหลัก ส่งผลให้กองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไถ่ถอนเงินลงทุนทั้งหมดออกมาจากกองทุนหลักมาพักอยู่ในตราสารหนี้ที่มีความปลอดภัยในประเทศไทยเพื่อรอกลับไปลงทุนใหม่นั้น ไม่สามารถนำเงินที่นำมาพักไว้ในประเทศกลับไปลงทุนในกองทุนหลักดังกล่าวอีกได้
โดยบริษัทจัดการจึงเห็นสมควรให้เลิกกองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 และกำหนดหยุดรับคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุน พร้อมปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นไป และจะรีบดำเนินการเฉลี่ยเงินคืน และชำระบัญชีกองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ เพื่อจ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยลงทุนโดยเร็วที่สุดเพื่อให้นักลงทุนสามารถหาช่องทางเลือกการลงทุนเองได้อย่างเหมาะสม
“หลังจากกองทุนหลักที่ลงทุนในต่างประเทศประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจโลกจนต้องปิดตัวไป ส่งผลให้กองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ต้องปิดตัวลงด้วยเช่นกัน เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุน สามารถนำเงินไปลงทุนต่อตามที่ต้องการต่อไป” นางวรวรรณ กล่าว
สำหรับมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ หรือเอ็นเอวีอยู่ที่ 148.10 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 8.88 บาทต่อหน่วย ส่วนผลตอบแทนของกองทุนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.40% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Index (7) อยู่ที่ -12.06% ย้อนหลัง 6 เดือน -2.83% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Index (7) อยู่ที่ -35.67% ย้อนหลัง 1 ปี -4.95% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Index (7) อยู่ที่ -38.49% และย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -10.77%
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้จัดตั้งกองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ (Bualuang All Stars Fund หรือ BSTAR) เพื่อระดมเงินทุนจากผู้ลงทุนในประเทศไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศกองทุนเดียว ที่เน้นลงทุนในกองทุนหลัก ได้แก่ กองทุน Citigroup S&P Global STARS 80% Protected Portfolio Fund ที่คุ้มครองเงินลงทุนในอัตราร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่สูงที่สุดนับจากวันที่จัดตั้งกองทุนนั้น ขณะนี้กองทุนหลักดังกล่าวในต่างประเทศ ได้ประกาศปิดกองทุน เนื่องจากได้รับผลกระทบทางอ้อมจากวิกฤติการณ์ทางการเงินของสหรัฐอเมริกาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้กองทุนหลักถูกไถ่ถอนจากผู้ลงทุนในต่างประเทศจำนวนมาก หลังจากมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา จนทำให้กองทุนหลักมีขนาดทรัพย์สินลดลง จนทำให้ผู้จัดการกองทุนในต่างประเทศจำเป็นต้องเลิกกองทุนหลัก ส่งผลให้กองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไถ่ถอนเงินลงทุนทั้งหมดออกมาจากกองทุนหลักมาพักอยู่ในตราสารหนี้ที่มีความปลอดภัยในประเทศไทยเพื่อรอกลับไปลงทุนใหม่นั้น ไม่สามารถนำเงินที่นำมาพักไว้ในประเทศกลับไปลงทุนในกองทุนหลักดังกล่าวอีกได้
โดยบริษัทจัดการจึงเห็นสมควรให้เลิกกองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 และกำหนดหยุดรับคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุน พร้อมปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นไป และจะรีบดำเนินการเฉลี่ยเงินคืน และชำระบัญชีกองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ เพื่อจ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยลงทุนโดยเร็วที่สุดเพื่อให้นักลงทุนสามารถหาช่องทางเลือกการลงทุนเองได้อย่างเหมาะสม
“หลังจากกองทุนหลักที่ลงทุนในต่างประเทศประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจโลกจนต้องปิดตัวไป ส่งผลให้กองทุนเปิดบัวหลวงออลสตาร์ต้องปิดตัวลงด้วยเช่นกัน เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุน สามารถนำเงินไปลงทุนต่อตามที่ต้องการต่อไป” นางวรวรรณ กล่าว
สำหรับมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ หรือเอ็นเอวีอยู่ที่ 148.10 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 8.88 บาทต่อหน่วย ส่วนผลตอบแทนของกองทุนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 0.40% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Index (7) อยู่ที่ -12.06% ย้อนหลัง 6 เดือน -2.83% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Index (7) อยู่ที่ -35.67% ย้อนหลัง 1 ปี -4.95% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Index (7) อยู่ที่ -38.49% และย้อนหลังตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -10.77%
