ASTVผู้จัดการรายวัน-บลจ.กสิกรไทย ปรับนโยบายขายคืนกอง K-STAR รับการลงทุนผันผวน ระบุจะเป็นผลดีต่อนักลงทุน เหตุสามารถทำกำไรได้ในระยะสั้นถึงปานกลาง และยังรวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอให้เอ็นเอวีแตะ 11 บาท ตามนโยบายเดิม
นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้แก้ไขโครงการจัดการกองทุนเปิดเค สตาร์หุ้นทุนคืนกำไร (K-Strategic Trading Automatic Redemption Equity : K-STAR) ในประเด็นการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ (Automatic Redemption) โดยผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนหรือมีต้นทุนในการลงทุนที่ต่ำกว่า 11 บาท สามารถขายคืนอัตโนมัติได้เร็วขึ้นในทุกระดับราคา (เมื่อ NAV ผ่านจุดที่มีมูลค่า 5.00 บาท 6.00 บาท 7.00 บาท 8.00 บาท 9.00 บาท และ 10.00 บาท) โดยไม่ต้องรอตอนมูลค่าหน่วยลงทุนถึง 11 บาท อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม กองทุนจะยังคงขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในสัดส่วน 50% ของกำไรของผู้ลงทุนแต่ละราย และผลกำไรนั้นต้องไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทเช่นเดิม
นายรพี กล่าวอีกว่า กองทุน K-STAR เป็นกองทุนตราสารทุนที่มีนโยบายการลงทุนเหมาะกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นที่ผันผวนเช่นปัจจุบัน เน้นการลงทุนในระยะสั้นถึงปานกลาง พร้อมทั้งมีการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติแก่ผู้ลงทุน การแก้ไขโครงการที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 จึงน่าจะส่งผลดีต่อผู้ลงทุนซึ่งได้ลงทุนกับกองทุนดังกล่าวไปแล้ว ตลอดช่วงที่ตลาดหุ้นผกผันนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551 ในขณะที่มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ต่ำกว่า 10 บาท ซึ่งเท่ากับมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ลงทุนที่กำลังตัดสินใจจะเข้าลงทุนในกองทุนตราสารทุน โดยเฉพาะผู้ที่มีความสามารถในการรับความเสี่ยงได้สูง และต้องการแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น เนื่องจากไม่เพียงเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุนในกองทุน K-STAR ด้วยราคาที่ไม่แพงมากนัก ยังเป็นการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนคืนรวดเร็วยิ่งขึ้น แม้ว่าตลาดหุ้นจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ดัชนีประมาณ 400-500 จุดอีกด้วย
นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้แก้ไขโครงการจัดการกองทุนเปิดเค สตาร์หุ้นทุนคืนกำไร (K-Strategic Trading Automatic Redemption Equity : K-STAR) ในประเด็นการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ (Automatic Redemption) โดยผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนหรือมีต้นทุนในการลงทุนที่ต่ำกว่า 11 บาท สามารถขายคืนอัตโนมัติได้เร็วขึ้นในทุกระดับราคา (เมื่อ NAV ผ่านจุดที่มีมูลค่า 5.00 บาท 6.00 บาท 7.00 บาท 8.00 บาท 9.00 บาท และ 10.00 บาท) โดยไม่ต้องรอตอนมูลค่าหน่วยลงทุนถึง 11 บาท อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม กองทุนจะยังคงขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในสัดส่วน 50% ของกำไรของผู้ลงทุนแต่ละราย และผลกำไรนั้นต้องไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทเช่นเดิม
นายรพี กล่าวอีกว่า กองทุน K-STAR เป็นกองทุนตราสารทุนที่มีนโยบายการลงทุนเหมาะกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นที่ผันผวนเช่นปัจจุบัน เน้นการลงทุนในระยะสั้นถึงปานกลาง พร้อมทั้งมีการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติแก่ผู้ลงทุน การแก้ไขโครงการที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 จึงน่าจะส่งผลดีต่อผู้ลงทุนซึ่งได้ลงทุนกับกองทุนดังกล่าวไปแล้ว ตลอดช่วงที่ตลาดหุ้นผกผันนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551 ในขณะที่มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ต่ำกว่า 10 บาท ซึ่งเท่ากับมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ลงทุนที่กำลังตัดสินใจจะเข้าลงทุนในกองทุนตราสารทุน โดยเฉพาะผู้ที่มีความสามารถในการรับความเสี่ยงได้สูง และต้องการแสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น เนื่องจากไม่เพียงเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุนในกองทุน K-STAR ด้วยราคาที่ไม่แพงมากนัก ยังเป็นการเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนคืนรวดเร็วยิ่งขึ้น แม้ว่าตลาดหุ้นจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ดัชนีประมาณ 400-500 จุดอีกด้วย
