xs
xsm
sm
md
lg

คอลัมน์ "Best of Fund" อเบอร์ดีน สมอลแค็พ หุ้นจิ๋วแต่เเจ๋วด้วยผลตอบแทนอันดับ1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

   ตลอดช่วงปลายปี 2551 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ ตามดัชนีตลาดหลักทรัพย์มาโดยตลอด ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เชื่อว่านักลงทุนหลายท่าน คงพอจะทราบกันดี...แต่พอก้าวเข้าสู่ปี 2552 หรือปีวัว พบว่าในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เห็นผลตอบแทนของกองทุนหุ้นกลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ น่าจะพอสร้างขวัญและกำลังใจของนักลงทุนได้บ้าง (อย่างน้อย)
     ส่วนกองทุนใดที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้น...วันนี้ คอลัมน์ "Best of Fund" มีคำตอบมาฝากกัน พร้อมกับเปิดนโยบายการลงทุนของกองทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับ 1 ว่า มีกลยุทธ์การบริหารยังไงบ้าง
    สำหรับกองทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็น  อันดับ 1 ได้แก่ กองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมอลแค็พ   ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด ซึ่งกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีในรอบเดือนมกราคมอยู่ที่ 0.47% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนติดลบ 2.73% อยู่ที่ 3.20%
  อันดับ 2 กองทุนเปิดบัวหลวงธนคม  ของบลจ.บัวหลวง ด้วยผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีในรอบ 1 เดือนอยู่ที่ 0.40% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 3.13%
  อันดับ 3 กองทุนเปิดอเบอร์ดีน สยามลีดเดอร์ส   ของบลจ.อเบอร์ดีน ซึ่งเป็นกองทุนที่ 2 โดยกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -0.64% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 2.09%
  อันดับ 4. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์เพิ่มผลมั่นคง ภายใต้การบริหารของบลจ.ไทยพาณิชย์ ด้วยผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -0.80% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 1.93%
  อันดับ 5. กองทุนเปิดอเบอร์ดีนโกรท กองทุนที่ 3 ของบลจ.อเบอร์ดีนที่ติด 1 ใน 10 ซึ่งกองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -0.83% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 1.90%
  อันดับ 6. กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นทุนปันผล ภายใต้การบริหารของบลจ.กรุงไทย ด้วยผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -0.16% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 1.57%
  อันดับ 7. กองทุนเปิด อยุธยาหุ้นปันผล ของบลจ.อยุธยา กับผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีในรอบ 1 เดือนอยู่ที่ -1.40% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 1.33%
  อันดับ 8. กองทุนเปิด กรุงไทย-ทรีนีตี้ปันผล กองทุนที่ 2 ของบลจ.กรุงไทย ด้วยผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -1.40% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 1.33%
  อันดับ 9. กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มั่นคง อีกหนึ่งกองทุนใน 10 อันดับแรกของบลจ.ไทยพาณิชย์ ด้วยผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีในรอบ 1 เดือนอยู่ที่ -1.46% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 1.27%
 และอันดับ 10. กองทุนเปิดแอสเซทพลัสซีเล็คทีฟสต็อกส์ 18/18 ของบลจ.แอสเซทพลัส ด้วยผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีในรอบ 1 เดือนอยู่ที่ -1.50% สูงกว่าผลตอบแทนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 1.23%
   เปิดพอร์ตกองทุนอันดับ 1
   สำหรับกองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมอลแค็พ มีนโยบายลงทุนระยะปานกลางและระยะยาวในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี  โดยจะลงทุนในหุ้นทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และเน้นหนักการลงทุนหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีมูลค่าการตลาดไม่เกิน 20,000 ล้านบาท (ณ วันที่ลงทุนครั้งแรก) 
 
   อดิเทพ วรรณพฤกษ์  รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อเบอร์ดีน กล่าวว่า การที่กองทุนนี้ มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดเล็ก ทำให้ผลการดำเนินงานในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นไปตามตลาดมากนัก ซึ่งในช่วงดังกล่าว หุ้นในกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นหุ้นนำตลาด ปรับตัวลงไปพอสมควร สาเหตุจากราคาน้ำมันที่ปรับลงเยอะ จากความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา แต่ถึงแม้ว่าหุ้นในกลุ่มเคมีคอล ปรับลดลงไปค่อนข้างเยอะ แต่กองทุนก็ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่มีการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าวเลย
    ในขณะที่หุ้นที่กองทุนถืออยู่ ไม่ว่าจะเป็น บมจ.บิ้กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ บมจ.สยามแมคโคร บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป บมจ.กรุงเทพประกันภัย บมจ.ไทยรับประกันภัยต่อ บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิกส์ บมจ.หลักทรัพย์พัฒนสิน บริษัทเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่ยังแข็งแกร่ง มีงบการเเงินแข็งแกร่ง กระแสเงินสดดี และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่องซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้เองไม่ได้ลดลงไปตามตลาดมากนัก

   อย่างไรก็ตามพอร์ตการลงทุนของกองทุนนี้ ก็มีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนบ้าง โดยเฉพาะหากราคาหุ้นตัวไหนที่เราเห็นว่าปรับเพิ่มขึ้นไปเยอะแล้ว ก็จะขายทำกำไรออกมา ซึ่งการลงทุนในหุ้นแต่ละตัวเอง อเบอร์ดีนจะไม่ลงทุนเกินตัวละ 10% ของพอร์ต
กำลังโหลดความคิดเห็น