ASTV ผู้จัดการรายวัน - บลจ.อเบอร์ดีน ประกาศรุกตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล ล่าสุดลุยจีบลูกค้า 2-3 รายที่จะหมดสัญญากับเจ้าอื่น พร้อมเน้นเจาะตลาดบน ยืนยันไม่สนการตัดราคาดึงลูกค้าแน่นอน ผู้จัดการกองทุนชี้ เหตุที่เงินทุนจากต่างชาติยังไม่เข้าไทยเพราะวิกฤตยังไม่สิ้นสุด
นายชัยเกษม วัฒนศิริพงษ์ หัวหน้าฝ่ายจัดจำหน่าย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนส่วนบุคคลมากขึ้น โดยอาศัยฐานลูกค้าเดิมและทำการตลาดผ่านตัวแทนจำหน่าย โดยขณะนี้ได้เข้าไปติดต่อกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จะครบสัญญาแล้วประมาณ 2-3 ราย เพื่อแนะนำบริการของบริษัท
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่มีนโยบายที่จะแข่งขันด้วยการลดค่าธรรมเนียมการจัดการ เพราะการสู้ด้วยการตัดราคาค่าธรรมเนียมจะเป็นอีกตลาดหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย แต่จะแข่งด้วยศักยภาพในการลงทุนและการให้บริการมากกว่า
“เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่า จะต้องเพิ่มขนาดสินทรัพย์เป็นเท่าใด และไม่ได้คาดว่า จะมีการเติบโตอย่างหวือหวา เพราะเราต้องการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า ดังนั้นเราจะสู้ด้วยแนวทางการลงทุน ทั้งตราสารหนี้และตราสารทุน เพราะมีกลุ่มลูกค้าที่ชอบสไตล์การลงทุนของอเบอร์ดีน ที่เน้นการเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและลงทุนระยะยาว ซึ่งเป็นจุดขายของอเบอร์ดีน” นายชัยเกษม กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทจะเน้นไปที่ลูกค้าระดับบน โดยกำหนดขนาดกองทุนส่วนบุคคลไว้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่กำหนดขนาดกองทุนขั้นต่ำ แต่จะพิจารณาจากศักยภาพในการขยายกองทุน
สำหรับ การให้ความสำคัญกับทั้งสองธุรกิจในปีนี้ บลจ.อเบอร์ดีนยืนยันว่าไม่ได้เป็นเพราะกังวลที่ธุรกิจกองทุนรวมปีนี้จะไม่เติบโต แต่เป็นการเดินตามแผนงานที่วางไว้ หลังจากที่ผ่านธุรกิจกองทุนรวมเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะยังมีแผนที่จะขยายกองทุนรวมอย่างต่อเนื่อง
“ทั้งกองทุนส่วนบุคคลและกองทนุสำรองเลี้ยงชีพของอเบอร์ดีนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ธุรกิจกองทุนรวมยังคงเป็นตลาดสำคัญของเราอยู่” นายชัยเกษม กล่าว
ข้อมูลจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ระบุว่า ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2551 บลจ.อเบอร์ดีน มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 1 กองทุน จำนวนนายจ้าง 2 ราย จำนวนเงินกองทุน 1,492.21 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด 0.32% และกองทุนส่วนบุคคล 2 กองทุน จำนวนเงินลงทุน 3,281 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาด 1.95%
ด้านนายอดิเทพ วรรณพฤกษ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการลงทุน(ประเทศไทย) บลจ. อเบอร์ดีน ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ของราคาน้ำมันในขณะนี้ว่า ราคาน้ำมันช่วงนี้มีความผันผวนมาก โดยทิศทางของราคาน้ำมันนั้นจะปรับเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณว่าจะปรับตัวดีขึ้น แต่การลงทุนในน้ำมันนั้นเป็นเรื่องที่คาดการณ์แนวโน้มได้ยาก ซึ่งแตกต่างจากการลงทุนในหุ้นที่นักลงทุนสามารถมองเห็นแน้วโน้มข้างหน้าได้ชัดเจนมากกว่าราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ของวิกฤตเศรษฐกิจในต่างประเทศนั้นขณะนี้ยังไม่สิ้นสุดลง ซึ่งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศยังไม่กลับเข้ามาในเอเชียรวมทั้งในประเทศไทย เป็นเพราะยังมีหลายปัจจัยที่ยังส่งผลกระทบต่อการลงทุนอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการถอนเงินลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศออกจากแหล่งลงทุนทั่วโลกรวมทั้งในเอเชียและไทยนั้น ไม่น่าจะมีขึ้นมาอีกแล้วเพราะในช่วงที่ผ่านมามีการขายทรัพย์สินในต่างประเทศออกไปในจำนวนที่มากแล้ว
