xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่เริ่มฟื้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เปิดพอร์ตกองทุนหุ้นอีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต พบสัญญาณเริ่มปรับตัวดีขึ้น "ทหารไทย Emerging Markets Equity Index" ได้อานิสงส์ ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเกือบเท่าตัว

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด รายงานถึงผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดทหารไทย Emerging Markets Equity Index (TMBEMEQ) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้านี้ โดย ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2552 กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 14.83% สูงกว่าดัชนีมาตรฐาน MSCI Emerging Markets (สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ) อยู่ที่ 8.84% ขณะที่ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -43.73% ดีกว่าดัชนีมาตรฐานอยู่ที่ -50.53% ส่วนผลดำเนินงานย้อนหลัง 1ปีอยู่ที่ -46.34% ปรับตัวดีขึ้นจากดัชนีมาตรฐานซึ่งอยู่ที่ -52.38% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -45.21% ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -52.82% ขณะเดียวกันเมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI Emerging Markets (สกุลเงินบาท) กองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลังอยู่ที่ 9.66% -48.33% -49.73% -51.49% ตามลำดับ

สำหรับกองทุนเปิดทหารไทย Emerging Markets Equity Index (TMBEMEQ) เป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมพิเศษ มีมูลค่าทรพย์สินสุทธิ 577 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนให้ได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี MSCI Emerging Markets โดยจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี MSCI Emerging Markets โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน และมีนโยบายการลงทุนใน กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุน เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนี MSCI Emerging Markets ให้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม กองทุนดังกล่าวยังมีความเสี่ยงในเรื่องต่างๆ ได้แก่ ความเสี่ยงจากภาวะตลาด (Market Risk) ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงดัชนี MSCI EMERGING MARKETS ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Risk) ความเสี่ยงที่ราคา ETF ในตลาดหลักทรัพย์ของกองทุนต่างประเทศอาจมากกว่าหรือน้อยกว่ามูลค่าหน่วยลงทุน กองทุนต่างประเทศ (NAV) ความเสี่ยงจากการเข้าทำธุรกรรมซื้อขายตราสารล่วงหน้า รวมถึง ความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) และ ความเสี่ยงในเรื่องของเสถียรภาพทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ ตลาดทุนของประเทศ (Country Risk

ด้าน บลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต - ปันผล ที่ลงทุนอยู่ในตราสารหนี้ของประเทศเกิดใหม่ทั่วโลก พบว่า ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2551 มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนที่ -15.99% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน Benchmark JP Morgan EMBI - Global Diversified Investment Grade ซึ่งอยู่ที่ -12.42% ขณะที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 13.27% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 11.96% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -6.04% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่มี -4.71%

โดยกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต - ปันผล (ING Thai Global Emerging Market - Dividend Fund) เป็นกองทุนประเภทกองทุนรวมผสมไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่มีกำหนด มีเงินทุนโครงการ 3,000 ล้านบาท มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารหนี้ที่เสนอขายในประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคต่างๆของโลก เหมาะสำหรับ นักลงทุนที่มีระยะเวลาการลงทุนค่อนข้างยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนที่สูง และสามารถรับความเสี่ยงของความผันผวนและความไม่สม่ำเสมอของอัตราผลตอบแทนได้ ซึ่งกองทุนมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล ไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของ กำไรสุทธิของแต่ละงวดบัญชีหรืองวดอื่นใดที่จะจ่ายเงินปันผลนั้น

สำหรับกองทุนพรีมาเวสท์-อลิอันซ์ จีไอ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต บอนด์ ฟันด์ (PEM) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตลาดเกิดใหม่เช่นกัน ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 26 ธันวาคม 255 1 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -11.20% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน JP Morgan Emerging Markets Bond Index Global ซึ่งอยู่ที่ -5.55 โดยย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -18.64% ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ -7.50% และย้อนหลัง 1 ปี -18.64% ต่ำกว่าเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ -7.50%

กองทุนดังกล่าว เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Foreign Investment Fund) มีจำนวนเงินทุนโครงการ 1,700 ล้านบาท ผ่านหน่วยลงทุนของกองทุน PIMCO Funds : Global Investors Series plc - Emerging Markets Bond Fund (Emerging Markets Bond Fund) ซึ่งเป็นกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail fund) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลืออาจจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก หรือตราสารแห่งหนี้ทั่วไป หรือเงินฝากในสถาบันการเงินตามกฎหมายไทย ที่มีอายุของตราสารหรือสัญญา หรือระยะเวลาการฝากเงิน แล้วแต่กรณี ต่ำกว่า 1 ปี

ทั้งนี้ จากทั้ง 3 กองทุนที่นำเสนอมาข้างต้นจะพบว่า หากเป็นการลงทุนในหุ้นของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในขณะนี้ ผลตอบแทนจะมีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตามภาวะตลาดในภูมิภาคดังกล่าวที่เริ่มผ่อนคลายจากผลกระทบของภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ของกลุ่มประเทศเหล่านี้ ผลตอบแทนที่ได้รับยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด เนื่องจากข้อมูลที่บริษัททำการชี้แจง ณ ปัจจุบัน ยังเป็นผลตอบแทนของช่วงปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น