xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตรับกระแสบอนด์เอกชน เปิดไอพีโอกองทุนใหม่21ม.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - บลจ.ธนชาต เผยวิกฤตเศรษฐกิจฉุดอำนาจซื้อสินค้าแบรนด์เนม เนื่องจากคนรวยขาดทุนจากการลงทุนสูงขึ้น ทำให้สินค้าแบนรด์เนมมียอดขายตกลง เป็นเหตุให้ผลดำเนินงาน "ธนชาตพรีเมียมแบรนด์ฟันด์ "ลดลงตาม ล่าสุดเตรียมเปิดขาย "ธนชาตตราสารหนี้พลัส 1" ในวันที่ 21-27 มกราคมคมนี้ อายุประมาณ 1 ปี 6 เดือน ลงทุนในตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐที่มีคุณภาพ ส่วนภาพรวมเชื่อว่าจะมีหุ้นกู้เอกชนออกขายเพิ่มขึ้นเพราะการกู้ยืมจากตลาดต่างประเทศทำได้ยากและมีต้นทุนสูง

นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าการบริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้ส่งผลมาถึงการใช้จ่ายของประชาชนในหลายประเทศ เนื่องจากวิกฤตครั้งนี้ส่งผลอย่างรุนแรงและทำให้เกิดปัญหาการว่างงานมากขึ้น

ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบมาถึงกองทุนเปิดธนชาตพรีเมียมแบรนด์ฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารทุนของกลุ่มธุรกิจสินค้าหรือบริการที่มีการวางตำแหน่งสินค้าหรือบริการอยู่ในระดับบน (premium brands sectors) ซึ่งสินค้าหรือบริการเหล่านี้เป็นสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพสูง โดยส่งผลให้ยอดขายสินค้าคุณภาพสูงเหล่านี้ตกลงไป ส่วนหนึ่งเป็นผลมากจากประชาชนที่มีอำนาจซื้อสูงประสบัญหาขาดทุนจากการลงทุน ทำให้อำนาจซื้อสินค้าราคาสูงลดลง
"โดยรวมแล้วยอดขายสินค้าแบรนด์เนมตกลง เพราะผลจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งคนรวยก็ประสบปัญหาเพราะขาดทุนจากการลงทุนเช่นกัน ทำให้ยอดขายสินค้าเหล่านี้ลดลงไป" นายตระกูลจิตร กล่าว

โดยผลการดำเนินงานของกองทุน ณ วันที่ 16 มกราคม 2552 กองทุนมีผลการดำเนิงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -7.35% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ดัชนี MSCI WCDI-BATH อยู่ที่ 4.70% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -34.53% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -30.67% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -33.55% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -33.26% และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -46.54% ซึ่งเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -45.43%

สำหรับกองทุนเปิด ธนชาตพรีเมียมแบรนด์ฟันด์ เป็นกองทุนประเภท กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Fund) ที่มีลักษณะเป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุน (Feeder Fund) ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (กองทุนเปิด) โดยมีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีตั้งแต่ร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ทั้งนี้กองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ กองทุน PICTET FUNDS (LUX) - PREMIUM BRANDS ซึ่งจดทะเบียนในประเทศ Luxembourg PICTET FUNDS (LUX) - PREMIUM BRANDS มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อแสวงหาการเติบโตของเงินลงทุน (capital growth strategy) โดยไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ เน้นลงทุนในตราสารทุนกลุ่มธุรกิจสินค้าหรือบริการที่มีการวางตำแหน่งสินค้าหรือบริการอยู่ในระดับบน (premium brands sectors) ซึ่งสินค้าหรือบริการเหล่านี้เป็นสินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพสูง โดยบริษัทหรือกิจการดังกล่าวได้รับประโยชน์ทางการตลาดหรือมีความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น มีจุดแข็งด้านการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าหรือการบริการของผู้บริโภค (strong market recognition) เนื่องจากสามารถเป็นผู้กำหนดหรือเป็นผู้มีอิทธิพลในการกำหนดแนวโน้มหรือกระแสความนิยมของผู้บริโภคได้ (consumers trends) รวมถึงการได้รับประโยชน์จากความสามารถในการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการของตน

ขณะเดียวกันรายงานข่าว บลจ. ธนชาต จำกัด รายงานว่า ทางบริษัท จะทำการเปิดขาย กองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 1 (TFixPlus1) มีอายุโครงการประมาณ 1 ปี 6 เดือน มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท ซึ่งจะเปิดขายเพียงครั้งเดียว(IPO)ในระหว่างวันที่ 21 - 27 มกราคม 2552

โดยที่ กองทุน TFixPlus1 มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งซึ่งตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐที่มีคุณภาพ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง และหรือเงินฝาก หรือตราสารที่เทียบเท่าเงินสด หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยในภาพรวมอยู่ในทิศทางขาลงต่อเนื่องในระยะ 1 ปีข้างหน้าและจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำหลังจากนั้นจนกว่าจะเริ่มมีการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจขึ้น ซึ่งจะใช้เวลา 2-3 ปีจากนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลกจะนำมาซึ่งการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังครั้งใหญ่

สำหรับประเทศไทย คณะกรรมการนโยบายการเงินปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงอีก 0.75% เหลือ 2.0% ณ วันที่ 14 มกราคม 2552 อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของสถาบันการเงินจะมีแนวโน้มลดลงตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายและจากการชะลอตัวของสินเชื่อตามสภาพเศรษฐกิจ ส่วนตลาดตราสารหนี้นั้นคาดว่าจะมีหุ้นกู้เอกชนออกเสนอขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากการกู้ยืมจากตลาดต่างประเทศทำได้ยากขึ้นและมีต้นทุนสูง ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะลดการออกพันธบัตรลงเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ระบบการเงินและเอื้อให้รัฐบาลสามารถออกพันธบัตรเพื่อทดแทนพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดเงินมากนัก โดยรัฐบาลน่าจะมีการออกพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 350,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น