xs
xsm
sm
md
lg

บีทีปัดฝุ่นกองอสังหาฯโกดังสินค้า เล็งตั้งกองโรงแรมเพิ่มทางเลือกต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – บลจ. บีที ชี้ "เศรษฐกิจ-การเมือง" เริ่มคลี่คลาย กระตุ้นบรรยากาศกองทุนรวมปีวัวกลับมาคึกคัก เล็งส่งกองทุนเก่าปัดฝุ่นออกขายอีกครั้ง โดยเฉพาะ "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 สโตร์เรจ" ล่าสุด ยื่นขอ ก.ล.ต. พิจารณาแล้ว คาดเปิดขายได้มีนาคมนี้ พร้อมเดินหน้าสำรวจโรงแรม ตั้งพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์กองใหม่ เน้นจับกลุ่มนักท่องเที่ยวในประเทศ หวั่นต่างชาติขาดความเชื่อมั่น หยุดเที่ยวไทยยาว
     นายนกุล ไชยนิล ผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ มองว่ายังคงไม่ปกติดีเท่าที่ควร เนื่องจากยังคงมีปัญหาเศรษฐกิจโลกและปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่คลี่คลายอยู่ ส่งผลให้นักลงทุนทั้งรายใหม่และรายเก่ายังคงต้องรอดูความชัดเจนให้มากขึ้น หรืออาจจะกำลังมองหาช่องทางใหม่ที่มีความเสี่ยงไม่มากนักให้กับตนเอง
    ทั้งนี้ จะเห็นได้จากในช่วงปีที่ผ่านมา นักลงทุนต้องประสบกับปัญหาวิกฤตที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้การลงทุนในกองทุนรวมอาจจะไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อความเสี่ยงอยู่ จึงต่อเนื่องถึงการลงทุนในกองทุนรวมอาจจะดูหงอยเหงาไปบ้าง

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ถึงแม้ว่ายังคงมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่คาดว่าจะไม่มีความรุนแรงมากเหมือนปีที่ผ่านมา และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลายลงไปได้ เพราะจะเห็นได้ว่าในปีนี้ ผู้จัดการกองทุนต่าง ๆ ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาสู้กันตั้งแต่ต้นปี หลังจากที่อัดอั้นเก็บไว้ในปีที่ผ่านมาทำให้ไม่ได้ออกกองทุนใหม่ ๆ มากนัก เช่นเดียวกับ บลจ. บีที ที่ก่อนหน้านี้มีแผนที่จะออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 สโตร์เรจ (101 Storage Property Fund หรือ STOR) แต่ต้องมาเจอกับปัญหาทางการเมืองทำให้ต้องชะงักเลื่อนการขายออกไปเช่นเดียวกัน
   นายนกุล กล่าวว่า สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 สโตร์เรจ ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการยื่นเรื่องให้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  (ก.ล.ต.) พิจารณาใหม่อีกครั้ง และคาดว่าจะสามารถเปิดขายกองทุนได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ และในช่วงไตรมาสสองของปีนี้บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์กองทุนที่สองต่อเนื่องกันไป
  โดยสินทรัพย์ที่จะเลือกลงทุนนั้น จะเป็นธุรกิจประเภทโรงแรม ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ทั้งที่จังหวัดภูเก็ต กระบี่ และสมุย โดยในเบื้องต้น กองทุนดังกล่าวจะมีมูลค่าโครงการประมาณ 500 – 700 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นการลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่มีนักท่องเที่ยวเป็นคนในประเทศมากกว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศ สาเหตุที่ต้องเลือกการลงทุนเช่นนี้ เนื่องจากว่าในช่วงปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบกับปัญหาในประเทศมากมาย ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติยังขาดความเชื่อมั่นอยู่ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา โดยคืบหน้าไปแล้วกว่า 70%
นายนกุล กล่าวว่า สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ จะเป็นนักลงทุนที่มีฐานะและสามารถซื้อสะสมไว้เก็งกำไรได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่าราคาที่ดิน ราคาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน มีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ  แต่สำหรับนักลงทุนสมัยใหม่ การเข้ามาลงทุนผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
  สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 สโตร์เรจ ที่คาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ในช่วงเดือนมีนาคม นี้ เป็นสินทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 101 บนเนื้อที่กว่า 39 ไร่ ด้วยมูลค่าโครงการ 603 ล้านบาท สำหรับจุดเด่นของกองทุนนี้จะลงทุนในอาคารรับฝากสินค้า ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนแรกของไทย โดยจะประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ 6 ปีแรก ในอัตราไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 7 ต่อปีโดยมีการค้ำประกันของธนาคารพาณิชย์ และผลตอบแทนของกองทุนจะจ่ายเป็นเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยไม่เกินปีละ 2 ครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น