“ก่อนที่จะทำการเปิดขายครั้งแรกบริษัทได้ทำการทดสอบตลาดในกลุ่มเป้าหมายแล้ว ซึ่งปรากฎว่ามีนักลงทุนหลายรายให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีลักษณะการลงทุนแบบฟรีโฮลด์ ซึ่งนักลงทุนจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ด้วย"
เมื่อเศรษฐกิจยังมีความผันผวนจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลเเละไม่กล้าเสี่ยงที่จะลงทุนในช่วงนี้ ดังนั้นการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หรือพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนที่เอาชนะเงินเฟ้อได้ และภาวะเช่นนี้ได้
ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด ได้จัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 สโตร์เรจ หรือ 101 Storage Property Fund (STOR) เป็นกองทุนที่มีลักษณะเฉพาะเจาะจง แบบไม่มีกำหนดอายุของโครงการ ทั้งนี้กองทุนมีมูลค่าโครงการ 603 ล้านบาท หรือคิดเป็น 60,300,000 หน่วย โดยกองทุนนี้ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งกองทุนไปเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2551 และเสนอขายกองทุนครั้งแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 20 – 28 พฤศจิกายน 2551
โดยกองทุนดังกล่าวจะระดมเงินทุนจากนักลงทุนทั่วไป ซึ่งจะนำเงินที่ได้ไปซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ และจัดหาผลประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ตลอดจนทำการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนาศักยภาพ หรือจำหน่ายทรัพย์สินต่างๆ ที่กองทุนได้ลงทุนไว้หรือมีไว้ ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่า ให้เช่าช่วง หรือขายหรือดำเนินการอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทรัพย์สิน เพื่อก่อให้เกิดรายได้ และการเพิ่มมูลค่าผลตอบแทนแก่กองทุนและผู้ถือหน่วยลงทุน รวมถึงการลงทุนในทรัพย์สินอื่นหรือหลักทรัพย์อื่นหรือการหาดอกผลอื่นโดยวิธีอื่นใด ตาม กฎหมายหลักทรัพย์หรือกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้องกำหนด
นายนกุล ไชยนิล ผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด บอกว่า จากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นนั้น จะไม่กระทบต่อแผนการขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ลงทุนในคลังสินค้า ซึ่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าและเปิดให้เช่าเป็นสตูดิโอถ่ายหนัง ซอยลาดพร้าว 101 พื้นที่ 4 หมื่นตารางเมตร ในครั้งนี้
สำหรับจุดเด่นของโครงการนี้ อยู่ที่เป็นกองทุนที่มีกรรมสิทธิ์ทั้งพื้นที่และคลังสินค้า รวมทั้งคาดผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 7% ต่อปี โดยมีธนาคารพาณิชย์ค้ำประกันผลตอบแทนดังกล่าวเป็นเวลา 6 ปี ซึ่งเชื่อว่าจะดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนได้ อีกทั้งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนเพื่อรับเงินปันผล เนื่องจากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เหมาะกับการลงทุนระยะยาว และการที่กองทุนเป็นเจ้าของที่ดิน จึงมีมูลค่าเพิ่มจากที่ดินเมื่อมีราคาสูงขึ้น
นอกจากนี้เจ้าของอาคารคลังสินค้ามีแผนจะเข้ามาลงทุนในกองทุนนี้ หลังจากขายอาคารให้กองทุนแล้ว โดยกองทุนนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอีเข้ามาระดมทุนผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นรายแรก
"การจ่ายเงินปันผลของกองทุนจะถูกพิจารณาจากผลการดำเนินงานของกองทุนรวม ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ สภาวะทางเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ ความสามารถของผู้เช่าในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ ต้นทุนในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นๆ การแข่งขัน การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน ภัยธรรมชาติ สภาวะทางการเมือง ดังนั้นหากมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ความเสี่ยงนี้อาจทำให้นักลงทุนจะไม่ได้รับเงินปันผลตามที่ได้ประมาณการเอาไว้ในปีที่เกิดเหตุ หรือกองทุนรวมจะไม่สามารถที่จะรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลหรือเพิ่มการจ่ายเงินปันผลได้ในปีต่อ ๆ ไป"
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บีที จำกัด บอกว่า ก่อนที่จะทำการเปิดขายครั้งแรกบริษัทได้ทำการทดสอบตลาดในกลุ่มเป้าหมายแล้ว ซึ่งปรากฎว่ามีนักลงทุนหลายรายให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีลักษณะการลงทุนแบบฟรีโฮลด์ ซึ่งนักลงทุนจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ด้วย