"ไทคอนฯ" ขายโรงงานและคลังสินค้าเข้ากองทุนรวมอสังหาฯ TFUND ตามแผนแล้ว หลังจากการเพิ่มทุนรอบ3 ประสบความสำเร็จ โดยมีมูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 2,157 ล้านบาท
นายสุธีร์ คันธารวงสกุล ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ ฝ่ายจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่าในฐานะบริษัทขอแจ้งสรุปข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญเกี่ยวกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของกองทุนรวม เมื่อวันที่ 11ธันวาคมว่า บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON) ได้ขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ TFUND เพิ่มเติมแล้ว
โดยสินทรัพย์ที่TFUND ซื้อได้แก่ โรงงานและคลังสินค้ารวม 46 หลัง รวมพื้นที่ใช้สอย 115,568 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนที่ดินเนื้อที่รวม 173 ไร่ 79.6 ตารางวา แบ่งเป็นโรงงานจํานวน 38 โรงงาน ตั้งอยู่ในนิคม/สวน/เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม 7 แห่ง ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยรวม 95,968 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนที่ดินเนื้อที่รวม 149 ไร่ 2 งาน 68.6 ตารางว ซึ่งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้จำนวน 4 โรงงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จำนวน 7 โรงงานนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จำนวน 1 โรงงานนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จำนวน 12 โรงงาน เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร จำนวน 6 โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองจำนวน 2 โรงงาน สวนอุตสาหกรรมโรจนะจำนวน 6 โรงงาน พร้อมทั้ง คลังสินค้าจำนวน 8 หลัง ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ไทคอน-บางนา โดยมีพื้นที่รวม 19,600 ตารางเมตร บนที่ดินเนื้อที่รวม 23 ไร่ 2 งาน 11 ตารางวาสำหรับมูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนอยู่ที่ 2,157.78 ล้านบาท โดยจะรับชำระในวันโอนกรรมสิทธิ์มูลค่าขอ
ทั้งนี้ สินทรัพย์ที่จะซื้อได้มีการประเมินราคารวมจากผู้ประเมินอิสระ 2 ราย ซึ่งใช้วิธีพิจารณาจากรายได้ - Income Approach ณ วันที่19 สิงหาคม 2551 โดย บริษัท เอ็น แอนด์ เอ แอพไพรซัล จำกัด ได้ประเมิณราคาที่ 2,452.81 ล้านบาท ขณะที่บริษัท 15 ที่ปรึกษาธุรกิจ จำกัด ได้ประเมินราคาที่ 2,302.00 ล้านบาท นอกจากนี้เกณฑ์ในการกำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทนมูลค่าซื้อขายได้พิจารณาจากอัตราผลตอบแทนการเช่าและราคาประเมินโดยเฉพาะประโยชน์ที่ได้รับจากการขายทรัพย์สิน ซึ่งมีได้รายได้จากค่าเช่า ที่เป็นไปตามการขออนุมัติทำรายการตามมติที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนที่ได้อนุมัติไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเนื่องจากการเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนครั้งที่ 3 กองทุนรวมได้เงินทุนไม่ครบเต็มตามที่ได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน บริษัทจัดการจึงได้พิจารณาเลือกซื้อสินทรัพย์ที่ดีที่สุดสำหรับกองทุนรวม โดยคำนึงถึงผลตอบแทนสูงสุดที่กองทุนรวมจะได้รับ ซึ่งได้แก่ โรงงานจำนวน 38 โรงงาน และ คลังสินค้าจำนวน 8 หลัง ดังกล่าว ข้างต้น ทั้งนี้บริษัทจัดการขอเรียนว่า อัตราการเช่าสินทรัพย์ดังกล่าว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ คิดเป็นร้อยละ 100
ในส่วนTICON ซึ่งเป็นผู้ขายนั้น ถือเป็นลักษณะทั่วไปของรายการซื้อสินทรัพย์แต่ขนาดรายการอยู่ที่ร้อยละ34.16 ของมูลค่า สินทรัพย์สุทธิ ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 ซึ่งเข้าข่ายเกณฑ์การได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์โดยได้รับมติอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุนร้อยละ61.95 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิออกเสียงโดยไม่นับรวมส่วนของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีส่วนได้เสีย
นายสุธีร์ คันธารวงสกุล ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ ฝ่ายจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่าในฐานะบริษัทขอแจ้งสรุปข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญเกี่ยวกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของกองทุนรวม เมื่อวันที่ 11ธันวาคมว่า บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) (TICON) ได้ขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ TFUND เพิ่มเติมแล้ว
โดยสินทรัพย์ที่TFUND ซื้อได้แก่ โรงงานและคลังสินค้ารวม 46 หลัง รวมพื้นที่ใช้สอย 115,568 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนที่ดินเนื้อที่รวม 173 ไร่ 79.6 ตารางวา แบ่งเป็นโรงงานจํานวน 38 โรงงาน ตั้งอยู่ในนิคม/สวน/เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม 7 แห่ง ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยรวม 95,968 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนที่ดินเนื้อที่รวม 149 ไร่ 2 งาน 68.6 ตารางว ซึ่งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้จำนวน 4 โรงงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จำนวน 7 โรงงานนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จำนวน 1 โรงงานนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค จำนวน 12 โรงงาน เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร จำนวน 6 โรงงาน นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองจำนวน 2 โรงงาน สวนอุตสาหกรรมโรจนะจำนวน 6 โรงงาน พร้อมทั้ง คลังสินค้าจำนวน 8 หลัง ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมโลจิสติคส์ไทคอน-บางนา โดยมีพื้นที่รวม 19,600 ตารางเมตร บนที่ดินเนื้อที่รวม 23 ไร่ 2 งาน 11 ตารางวาสำหรับมูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนอยู่ที่ 2,157.78 ล้านบาท โดยจะรับชำระในวันโอนกรรมสิทธิ์มูลค่าขอ
ทั้งนี้ สินทรัพย์ที่จะซื้อได้มีการประเมินราคารวมจากผู้ประเมินอิสระ 2 ราย ซึ่งใช้วิธีพิจารณาจากรายได้ - Income Approach ณ วันที่19 สิงหาคม 2551 โดย บริษัท เอ็น แอนด์ เอ แอพไพรซัล จำกัด ได้ประเมิณราคาที่ 2,452.81 ล้านบาท ขณะที่บริษัท 15 ที่ปรึกษาธุรกิจ จำกัด ได้ประเมินราคาที่ 2,302.00 ล้านบาท นอกจากนี้เกณฑ์ในการกำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทนมูลค่าซื้อขายได้พิจารณาจากอัตราผลตอบแทนการเช่าและราคาประเมินโดยเฉพาะประโยชน์ที่ได้รับจากการขายทรัพย์สิน ซึ่งมีได้รายได้จากค่าเช่า ที่เป็นไปตามการขออนุมัติทำรายการตามมติที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนที่ได้อนุมัติไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเนื่องจากการเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนครั้งที่ 3 กองทุนรวมได้เงินทุนไม่ครบเต็มตามที่ได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน บริษัทจัดการจึงได้พิจารณาเลือกซื้อสินทรัพย์ที่ดีที่สุดสำหรับกองทุนรวม โดยคำนึงถึงผลตอบแทนสูงสุดที่กองทุนรวมจะได้รับ ซึ่งได้แก่ โรงงานจำนวน 38 โรงงาน และ คลังสินค้าจำนวน 8 หลัง ดังกล่าว ข้างต้น ทั้งนี้บริษัทจัดการขอเรียนว่า อัตราการเช่าสินทรัพย์ดังกล่าว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ คิดเป็นร้อยละ 100
ในส่วนTICON ซึ่งเป็นผู้ขายนั้น ถือเป็นลักษณะทั่วไปของรายการซื้อสินทรัพย์แต่ขนาดรายการอยู่ที่ร้อยละ34.16 ของมูลค่า สินทรัพย์สุทธิ ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 ซึ่งเข้าข่ายเกณฑ์การได้มาหรือจําหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์โดยได้รับมติอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุนร้อยละ61.95 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิออกเสียงโดยไม่นับรวมส่วนของผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีส่วนได้เสีย
