บลจ.บัวหลวงโล่ง กองทุน "TFUND" ระดมทุนผ่านฉลุย เผยผู้ถือหน่วยสถาบันทั้งใน-ต่างประเทศ จองซื้อเกินส่วนที่จัดสรรไว้ ด้วยยอดระดมทุนรวม 2,000.8 ล้านบาท ดันสินทรัพย์โตเป็น 7,771 ล้านบาท เดินหน้าใส่เงินซื้อโรงงานมาตรฐาน 38 โรงจากไทคอนต่อทันที ชี้กองอสังหาฯ เป็นทางเลือกช่วงหุ้นผันผวนสูง ผลตอบแทนตราสารหนี้ลด
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ได้ทำการเปิดขายหน่วยลงทุนไปเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการเพิ่มทุนครั้งที่ 3 ของกองทุนดังกล่าว ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยกองทุนสามารถระดมทุนได้กว่า 2,000.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวนหน่วยลงทุนทั้งสิ้น 195.2 ล้านหน่วย ส่งผลให้ขนาดของกองทุนภายหลังการจดทะเบียนเพิ่มทุนใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 7,771 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการเพิ่มทุนของกองทุน TFUND ครั้งนี้ ถือว่าได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี แม้ว่าบรรยากาศการลงทุนโดยรวมในช่วงเวลาเสนอขายจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม ซึ่งรวมถึงผู้ถือหน่วยประเภทสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่จองซื้อเข้ามามากกว่าส่วนที่จัดสรรไว้ให้ ซึ่งเมื่อรวมยอดจองของผู้ลงทุนเดิมและผู้ลงทุนใหม่แล้ว มียอดจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนในครั้งนี้ทั้งสิ้น 195.2 ล้านหน่วย ทำให้ระดมทุนได้รวม 2,000.8 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยได้ตามที่คาดการณ์ไว้ และภายหลังการนำหน่วยลงทุนใหม่ไปเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ จะทำให้ TFUND มีสภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดีขึ้น
นางวรวรรณ กล่าวว่า สำหรับเงินลงทุนที่ได้รับจากการเพิ่มทุนรอบใหม่ของกองทุนดังกล่าว บริษัทจะนำไปลงทุนด้วยการซื้อโรงงานมาตรฐาน 38 โรง จาก บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) และอาคารคลังสินค้า 8 โรง จาก บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานมาตรฐานและคลังสินค้าที่ตั้งอยู่ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม 7 แห่ง และ โครงการไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค บางนา 1 แห่ง
ทั้งนี้ กองทุน TFUND มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดีอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่จัดตั้งกองทุน โดยสามารถจ่ายเงินปันผลได้ปีละ 4 ครั้ง เฉลี่ยประมาณ 0.20 บาทต่อไตรมาส ทั้งนี้ เมื่อนับจากเริ่มจัดตั้งกองทุน จนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2551 กองทุนจ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 15 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2.93 บาทต่อหน่วยลงทุน นอกจากนี้ ราคาตลาด TFUND ยังมีความผันผวนน้อยกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และถือเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง โดยมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันเฉลี่ยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ สูงติดอันดับ 1 ใน 3 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ทำการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย ทั้งนี้ บลจ.บัวหลวง เชื่อมั่นว่าการลงทุนใน TFUND นี้ เป็นทางเลือกในการลงทุนที่ดีมากโดยเฉพาะเมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ในภาวะขาลง ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
นางวรวรรณ กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์ที่การลงทุนในตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง ขณะที่ผลตอบแทนจากตราสารหนี้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งแม้ปัจจุบันได้มีการปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็เป็นการปรับตัวตามความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จึงนับได้ว่า เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อรับเงินปันผล ไม่มีภาระหนี้สินจากการกู้ยืม ทำให้ไม่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ด้วย
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) ได้ทำการเปิดขายหน่วยลงทุนไปเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการเพิ่มทุนครั้งที่ 3 ของกองทุนดังกล่าว ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยกองทุนสามารถระดมทุนได้กว่า 2,000.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวนหน่วยลงทุนทั้งสิ้น 195.2 ล้านหน่วย ส่งผลให้ขนาดของกองทุนภายหลังการจดทะเบียนเพิ่มทุนใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 7,771 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการเพิ่มทุนของกองทุน TFUND ครั้งนี้ ถือว่าได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี แม้ว่าบรรยากาศการลงทุนโดยรวมในช่วงเวลาเสนอขายจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม ซึ่งรวมถึงผู้ถือหน่วยประเภทสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่จองซื้อเข้ามามากกว่าส่วนที่จัดสรรไว้ให้ ซึ่งเมื่อรวมยอดจองของผู้ลงทุนเดิมและผู้ลงทุนใหม่แล้ว มียอดจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนในครั้งนี้ทั้งสิ้น 195.2 ล้านหน่วย ทำให้ระดมทุนได้รวม 2,000.8 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยได้ตามที่คาดการณ์ไว้ และภายหลังการนำหน่วยลงทุนใหม่ไปเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ จะทำให้ TFUND มีสภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดีขึ้น
นางวรวรรณ กล่าวว่า สำหรับเงินลงทุนที่ได้รับจากการเพิ่มทุนรอบใหม่ของกองทุนดังกล่าว บริษัทจะนำไปลงทุนด้วยการซื้อโรงงานมาตรฐาน 38 โรง จาก บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) และอาคารคลังสินค้า 8 โรง จาก บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานมาตรฐานและคลังสินค้าที่ตั้งอยู่ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม เขตส่งเสริมอุตสาหกรรม 7 แห่ง และ โครงการไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค บางนา 1 แห่ง
ทั้งนี้ กองทุน TFUND มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดีอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่จัดตั้งกองทุน โดยสามารถจ่ายเงินปันผลได้ปีละ 4 ครั้ง เฉลี่ยประมาณ 0.20 บาทต่อไตรมาส ทั้งนี้ เมื่อนับจากเริ่มจัดตั้งกองทุน จนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2551 กองทุนจ่ายเงินปันผลเป็นจำนวน 15 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2.93 บาทต่อหน่วยลงทุน นอกจากนี้ ราคาตลาด TFUND ยังมีความผันผวนน้อยกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และถือเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง โดยมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันเฉลี่ยนับตั้งแต่ต้นปีนี้ สูงติดอันดับ 1 ใน 3 ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่ทำการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกด้วย ทั้งนี้ บลจ.บัวหลวง เชื่อมั่นว่าการลงทุนใน TFUND นี้ เป็นทางเลือกในการลงทุนที่ดีมากโดยเฉพาะเมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ในภาวะขาลง ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
นางวรวรรณ กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์ที่การลงทุนในตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง ขณะที่ผลตอบแทนจากตราสารหนี้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งแม้ปัจจุบันได้มีการปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็เป็นการปรับตัวตามความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์จึงนับได้ว่า เป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อรับเงินปันผล ไม่มีภาระหนี้สินจากการกู้ยืม ทำให้ไม่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ด้วย