บลจ. บีที พร้อมเปิดขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทฟรีโฮลที่ลงทุนในศูนย์กระจายสินค้าย่านลาดพร้าว 22 สิงหาคมนี้ หลังรอการอนุมัติจาก ก.ล.ต. อีกครั้ง ผู้บริหารเผยได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพียบ เหตุให้ผลตอบแทนสูงถึง 7% แถมการันตียิลด์ช่วง 6 ปีแรก เตรียมทุ่มงบโฆษณาผ่านทางหนังสือพิมพ์และอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บีที จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทซื้อกรรมสิทธิ์ (ฟรีโฮด) ที่ลงทุนในศูนย์กระจายสินค้าย่านลาดพร้าวซอย 101 ที่บริษัทวางแผนจะออกเสนอขายหน่วยลงทุนนั้น ขณะนี้กำลังรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ และคาดว่าจะสามารถทำการเปิดขายไอพีโอได้ในช่วงกลางเดือนนี้
ทั้งนี้ก่อนที่จะทำการเปิดขายครั้งแรกบริษัทได้ทำการทดสอบตลาดในกลุ่มเป้าหมายแล้ว ซึ่งปรากฎว่ามีนักลงทุนหลายรายให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากกองทุนดังกล่าวมีลักษณะการลงทุนแบบฟรีโฮด ซึ่งนักลงทุนจะมีสิทธิเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์นั้น นอกจากนี้กองทุนยังมีการคาดการณ์ว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนในระดับสูงถึง 7%ต่อปี อีกทั้งยังการันตีผลตอบแทนในช่วง 6 ปีแรกโดยธนาคารพาณิชย์อีกด้วย ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการประมาณ 600-620 ล้านบาท
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการที่กองทุนจะเข้าไปลงทุนนั้น มีจุดเด่นตรงตั้งอยู่ในย่านพื้นที่ใจกลางเมืองที่ขนส่งสินค้าได้สะดวกสบาย นอกจากนี้ภายในโครงการยังมีสตูดิโอภาพยนตร์และพื้นที่โฆษณาให้เช่าอีกด้วย ขณะที่พื้นที่คลังสินค้านั้น ปัจจุบันมีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการแล้วกว่า 90% โดยส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ารายใหญ่ เช่น เบียร์ช้าง กรีนสปอต รวมทั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ อีกหลายแห่ง
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีพื้นที่ประมาณ 40,000 ตารางเมตร และมีโอกาสได้กำไรจากมูลค่าที่ดินซึ่งน่าจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต โดยเชื่อว่าในระยะเวลา 10 ปี มูลค่าที่ดินจะสูงขึ้นจากปัจจุบันที่มีมูลค่า 3-4 หมื่นล้านบาทต่อตารางเมตร ขณะที่สินทรัพย์ที่ลงทุนยังมีสถานที่ถ่ายทำโฆษณา ละครให้เช่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับกองทุนมากขึ้นเช่นเดียวกัน
"กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุนในช่วงที่ภาวะอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ถึง 9.2% ซึ่งถ้านักลงทุนจะเข้ามาลงทุนในช่วงนี้เพื่อให้ชนะเงินเฟ้อควรเลือกเข้ามาลงทุนในระยะยาวเพื่อให้สามารถได้รับผลตอบแทนที่ดีด้วย" นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในส่วนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองทุนที่ 2 ของบริษัทนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเซ็นสัญญาซื้อสินทรัพย์อาคารสำนักงานในเขตกรุงเทพอยู่ ซึ่งเชื่อว่าภายในปีนี้บริษัทจะสามารถเปิดขายกองทุนรวมอสังหาประเภทฟรีโฮล ที่มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีก 1กองทุน
ขณะเดียวกันนายนกุล ไชยนิล ผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ บลจ.บีที เปิดเผยว่า กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทฟรีโฮล ที่ลงทุนในศูนย์กระจายสินค้าย่านลาดพร้าวซอย 101 นั้น คาดว่าจะสามารถเปิดขายครั้งแรกได้ในวันที่ 22 สิงหาคม 2551 ซึ่งขณะนี้กำลังรอการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) หลังจากที่ต้องกลับมาแก้ไขข้อมูลบางส่วน และคาดว่าก.ล.ต. น่าจะอนุมัติได้ไม่เกินวันที่ 18 สิงหาคม 2551
ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีขนาดโครงการไม่ใหญ่มากนัก ทำให้คาดหมายว่าจะสามารถขายหน่วยลงทุนได้หมด เนื่องจากกองทุนสามารถให้ผลตอบแทนสูง 7%ต่อปี อีกทั้งยังการันตีโดยธนาคารพาณิชย์ 6 ปีด้วย และเป็นกองทุนประเภทฟรีโฮลอีกด้วย นอกจากนี้คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่เป็นลูกค้าธนาคารไทยธนาคารเป็นหลัก รวมถึงนักลงทุนสถาบันด้วย สำหรับในส่วนของการใช้งบโฆษณาในกองทุนดังกล่าวนั้น บริษัทจะทำการโฆษณาผ่านทางหนังสือพิมพ์และอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก