xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.จ่อคิวพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ลุยปีฉลู การันตีผลตอบแทนดีเเม้เศรษฐกิจชะลอตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.จ่อคิวส่งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลุยตลาดปี 52 "ไอเอ็นจี" เชื่อ พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ตอบโจทย์การลงทุนในช่วงดอกเบี้ยต่ำ เล็งส่งกองทุนเปิดขายก่อน ม.ค.นี้ ส่วนบลจ.บีที วางเเผนยาว ไตรมาสเเรกเปิดขาย กองทุน "101 สโตร์เรจ"อีกครั้ง หลังต้องเลื่อนขายออกไป ส่วนไตรมาส 2 ออกกองทุนรวมอสังหาฯประเภทโรงเเรม การันตีผลตอบเเทนไม่น้อยกว่าร้อยละ 7 ต่อปี

นายมาริษ ท่าราบ
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงเเนวโน้มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ว่า น่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจากภาวะดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง โดยกองทุนอสังหาริมทรัพย์ยังคงให้ผลตอบเเทนที่สามารถชนะอัตราดอกเบี้ยได้ ประกอบกับกองทุนส่วนใหญ่จะการันตีผลตอบเเทนทำให้นักลงทุนมั่นใจเเม้ภาวะเศราฐกิจจะชะลอตัว

โดยทางบลจ.ไอเอ็นจี มีเเผนที่จะเปิดขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในปี 2552 นี้ประมาณ 2-3 กองทุน สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอ็กซ์ควิสิทที่เปิดขายไปเมื่อวันที่ 24 พศจิกายน 2551 ที่ผ่านมานั้นได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นต้นเดือนมกราคม เนื่องจากมีการปิดสนามบินในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องเลื่อนการขายออกไป เพราะระดมทุน 1 หมื่นล้านบาทคงทำได้ยาก แต่คาดว่าช่วงเดือนมกราคม น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
นายอนุสรณ์ บูรณกานนท์
ส่วนนายอนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. บีที จำกัด กล่าวถึงแผนงานในปี2551 ว่า ช่วงไตรมาส 2 ของปีบริษัทเตรียมออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นประเภทโรงแรมอีก 1 กองทุน โดยจะมีมูลค่าโครงการประมาณ 500 - 700 ล้านบาท ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นธุรกิจโรงแรมที่อยู่ทางภาคใต้ แต่จะเป็นโรงแรมที่เน้นนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลักมากกว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สาเหตุที่ต้องเน้นนักลงทุนในประเทศนั้นเนื่องจากว่า นักลงทุนต่างประเทศยังไม่มั่นใจในประเทศไทยกับภาวะทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่าน ดังนั้นบริษัทจึงเลือกโรงแรมที่เน้นเฉพาะนักลงทุนในประเทศเป็นหลักก่อน ซึ่งล่าสุดโครงการดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการติดต่อพิจารณาไปแล้วกว่า 60%

โดยในปีนี้ บริษัทจะขยายธุรกิจกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างแน่นอน ไม่ต่ำกว่า 6-8% ต่อปี ในอัตราสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ซึ่งผลตอบแทนดังกล่าวยังได้รับค้ำประกันโดยธนาคารพาณิชย์ในช่วงเวลา 3-5 ปี เพื่อลดความเสี่ยง ดังนั้นผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้จำกัด และต้องการลงทุนในรูปแบบรักษาเงินต้น จึงควรเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกองอสังหาริมทรัพย์ในตะกร้าการลงทุนด้วย

ส่วนไตรมาสแรกของปี2552 บริษัทเตรียมที่จะขยายธุรกิจกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบมีกรรมสิทธิ์ 101 สโตร์เรจ (101 Storage Property Fund หรือ STOR) ที่ก่อนหน้านี้ได้ทำการเปิดขายกองทุนไปเมื่อวันที่ 20 - 28 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา แต่ต้องเลื่อนการขายออกไปและคาดว่าจะสามารถเปิดขายได้อีกทีในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าซึ่งโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 101 บนเนื้อที่กว่า 39 ไร่ ด้วยมูลค่าโครงการ 603 ล้านบาท สำหรับจุดเด่นของกองทุนนี้จะลงทุนในอาคารรับฝากสินค้า ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนแรกของไทย โดยจะประกันผลตอบแทนขั้นต่ำ 6 ปีแรก ในอัตราไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 7 ต่อปีโดยมีการค้ำประกันของธนาคารพาณิชย์ และผลตอบแทนของกองทุนจะจ่ายเป็นเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยไม่เกินปีละ 2 ครั้ง

ก่อนหน้านี้ นายสมพร บุรินทรารธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บลจ.เอ็มเอฟซี กล่าวว่า ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น ต่อไปสภาพคล่องจะมีน้อยลง กองทุนที่จัดตั้งใหม่ และการเพิ่มทุนของกองทุนเดิมจะเกิดขึ้นได้น้อย เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อที่ลดลงจะส่งผลต่อทั้งอุปสงค์และอุปทาน โดยการพัฒนาโครงการใหม่จะน้อยลง ส่วนโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จอาจหยุดชะงัก หรือหยุดโครงการโดยสิ้นเชิง ขณะเดียวกันสินทรัพย์ที่ใช้ในการทำธุรกิจอย่างเช่น อพาร์ทเม้นต์ เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ โรงแรมจะประสบปัญหาจากจำนวนลูกค้าที่ลดลง ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ดังนั้นถ้าปัญหาวิกฤตการเงินยืดเยื้อ เรื่องดังกล่าวจะส่งผลต่อภาพรวมเป็นอย่างมาก

เช่นเดียวกับธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเราต้องดูตัวเลขการขอส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอให้ดี เพราะที่ผ่านมาตัวเลขดังกล่าวมีการลดลง อีกทั้งในหลายปีที่ผ่านมาจากข้อมูลพบว่านักลงทุนที่เข้ามาจะเป็นรายเล็กและผู้ประกอบการขนาดกลาง ซี่งมีบริษัทแม่อยู่มในต่างประเทศ เข้ามาเช่าพื้นที่และโรงงานในไทย ดังนั้นเมื่อบริษัทแม่เกิดปัญหานักลงทุนเหล่านี้พร้อมที่ถอนเงินออกจากไทยได้ในทันที ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนิคมอุตสาหกรรมเช่นกัน

โดยวิธีแก้ไขของผู้ประกอบการ คืออาจมีการเสนอขายโครงการใหม่ให้นักลงทุนที่ไม่มีความจำเป็นจะต้องกู้สินเชื่อในประเทศมากนัก หรือเป็นพวกแหล่งทุนที่มีเงินสดสูง ส่วนนักลงทุนที่สนใจมีความรู้ และประสบการณ์ด้านลงทุนที่สูง ส่วนการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาฯ นักลงทุนต้องให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของรายได้และโครงสร้างในการจัดการทรัพย์สินของกองทุนให้มากขึ้น รวมถึงปัจจัยในเรื่องสิทธิตามกฏหมายในการครอบครองสินทรัพย์ การสร้างดุลยภาพระหว่างความเสี่ยงในการลงทุนและการเติบโตของสินทรัพย์
กำลังโหลดความคิดเห็น