xs
xsm
sm
md
lg

เกาหลีหวังการบริโภคกระตุ้นศก. ส่วนค่าเงินวอนต้องรอลุ้มปีหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"เงินวอนของเกาหลีใต้เเละเงินรูปีของอินเดีย ซึ่งเป็นสกุลเงินที่เอเชียที่ร่วงลงหนักสุดในปีนี้ จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า เพราะได้รับปัจจัยหนุนที่นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจที่จะเข้าซื้อสกุลเงินของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เเละจากเศรษฐกิจโลกที่มีเเนวโน้มฟื้นตัวขึ้น"

ธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้ปรับประมาณการอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2552 ลดลงเหลือเพียง 2% โดยให้เหตุผลว่า เศรษฐกิจโลกมีโอกาสซบเซาอย่างต่อเนือง การฟื้นตัวอาจเกิดขึ้นไม่เร็วนัก ประกอบกับความเชื่อของมั่นของนักลงทุนเเละผู้บริโภคยังคงลดลงต่อเนื่องตั้งเเต่ กรกฏาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขพยากรณ์ดังกล่าวสอดคล้องการพยากรณ์ของ IMF ที่เพิ่งปรับประมาณการเช่นกัน

ส่วนกระทรวงการคลังของเกาหลีใต้ได้ปรับลดพยากรณ์ลงมาอยู่ในระดับ 3% ในด้านตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของเกาหลีใต้ที่ออกมาในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา เพียงยอดขายในห้างสรรพสินค้าเเละยอดขายในร้านสะดวกซื้อ โดยยอดขายในห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่สุด 3 เเห่งในเกาหลีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.5%YoY -

หลังจากที่ไม่ได้เติบโตเลยในเดือนก่อนหน้านี้ สาเหตุเพราะ มีการจัดโปรโมชั่นต่างๆเพื่อที่จะดึงดูดให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ส่วนยอดขายตามร้านสะดวกซื้อก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเติบโต 2.3% YoY หลังจากที่ติดลบมาสองเดือนติดต่อกัน
ทั้งนี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเกาหลีในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นมีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยคาดว่าการปรับขึ้นของยอดขายเหล่านี้จะเป็นผลชั่วคราวเท่านั้น เมื่อผ่านช่วงโปรโมชั่นหรือเทศกาลคริสต์มาสเเละปีใหม่ไป ยอดขายจะลดลงตามเเนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมของเกาหลี

ทางการของเกาหลีใต้ยังคงออกมาตรการออกมาเพื่อประคับประครองเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีการประกาศจัดหาสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเงินในปี 2552 เพื่อหนุนเศรษฐกิจผ่านทางการดำเนินการในตลาด เช่น การซื้อคืนพันธบัตร เเละจะมีการกระจายออกพันธบัตรรายเดือนอย่างเท่าเทียมกัน ปรับน้ำหนักการครบกำหนดอายุของพันธบัตร เเละจัดการซื้อคืนพันธบัตรอย่างยืดหยุ่น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับผลตอบเเทนพันธบัตร นอกจากนี้ยังวางเเผนที่จะเบิกจ่ายวงเงินสินเชื่อสกุลดอลลาร์งวดเเรกจาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องของธนาคารภายในประเทศ ซึ่งเป็นทางเลือกนอกเหนือจากการใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของเกาหลีใต้ โดยทางการเกาหลีใต้คาดว่าธนาคารในประเทศจะสามารถยืดเวลาในการชำระหนี้ต่างประเทศทั้งหมดที่จะครบกำหนดในช่วงครึ่งเเรกของปี 2552 โดยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเเละเเผนการของธนาคารกลางที่จะจัดสรรเงิน 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในการอัดฉีดสภาพคล่องสกุลเงินต่างประเทศให้กับตลาดเงิน

ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7% จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยดัชนี Kospi Composite ปิดที่ 1,180.97 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากระดับ 1,103.82 จุดในสัปดาห์ก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากที่รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศงบประมาณในปีหน้า โดยมีรายจ่ายประมาณ 284.5 ล้านล้านวอน โดยเฉพาะในส่วนของรายจ่ายเพื่อการก่อนสร้างที่เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน ซึ่งปัจจุบันหนุนหุ้นในกลุ่มก่อสร้างให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ค่าเงินวอนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวเเข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยมาอยู่ที่ 1,282 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสิ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือเเข็งค่าขึ้น 6.3% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน สาเหตุเนื่องจากนักลงทุนเกาหลี่ใต้ได้คลี่คลายลงในระดับหนึ่ง จากการที่เกาหลีใต้ประกาศทำ Swap Line กับจีน เเละญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลให้มีเงินลงทุนจากต่างชาติไหลเข้าเกาหลีอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางสัปดาห์
 
ทั้งนี้ Moogy's คาดการณ์ว่าค่าเงินวอนของเกาหลีใต้เเละเงินรูปีของอินเดีย ซึ่งเป็นสกุลเงินที่เอเชียที่ร่วงลงหนักสุดในปีนี้ จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า เพราะได้รับปัจจัยหนุนที่นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจที่จะเข้าซื้อสกุลเงินของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เเละจากเศรษฐกิจโลกที่มีเเนวโน้มฟื้นตัวขึ้น

อนึ่งผลสำรวจของสมาคมหอการค้าและอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ พบว่า กว่า 40% ของบริษัทในเกาหลีใต้ มีมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2552 โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่า ร้อยละ 3 ซึ่งต่ำกว่าที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 3 และต่ำกว่าที่ประธานาธิบดี ลี เมียง-บัค ตั้งเป้าไว้ที่ร้อยละ 4

ขณะเดียวกันผลสำรวจยังระบุด้วยว่า ร้อยละ 99.4 ของผู้ตอบรับการสำรวจมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันอยู่ในขั้น "ย่ำแย่" ขณะที่ ร้อยละ 77.5 มองว่าเศรษฐกิจอยู่ในขั้น "ย่ำแย่ที่สุด"

อีกทั้ง สถาบันการพัฒนาเกาหลี (KDI) เปิดเผยว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของ เกาหลีใต้ในปีหน้า จะแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีจากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจ ถดถอยทั่วโลก และวิกฤตการณ์การเงินในระดับโลก ส่วนบัญชีเดินสะพัดในปี 2009 จะเกินดุล 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจภายในประเทศปีพ.ศ.2552 จะขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 11 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยในระดับที่ลึกลงกำลังส่งผลให้ความต้องการสินค้าจากเกาหลีใต้ลดน้อยลงด้วย โดยคาดว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้ปี 2552 มีแนวโน้มขยายตัวเพียง 2% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 3.7% และคาดว่ายอดส่งออกจะขยายตัวเพียง 1.3% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 3.6%

**ธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์ว่า "คงเป็นเรื่องยากที่เศรษฐกิจเกาหลีใต้จะฟื้นตัวขึ้นในระดับเดิม เพราะอัตราการอุปโภคบริโภคภายในประเทศและยอดส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยลงในระดับที่ลึกขึ้น"**

ส่วน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้กำลังถดถอยอย่างรวดเร็ว และจะแตะระดับต่ำสุดในช่วงต้นปี2552 ก่อนที่จะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นหลังจากนั้น โดยการใช้จ่ายผู้บริโภค ยอดส่งออก และความเชื่อมั่นธุรกิจที่ร่วงลงอย่างหนัก เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้กำลังย่ำแย่

ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะขยายตัว 2% ในปีหน้า น้อยกว่าปีที่แล้วที่มีการขยายตัวกว่า 5% อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ในปีหน้า เช่นเดียวกับสภาพตลาดเงินและเศรษฐกิจโลกซึ่งมีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้าเช่นกัน

ที่มา:ฝ่ายวิจัย บลจ.กรุงไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น