xs
xsm
sm
md
lg

กรุงไทยออก2กองทุนตราสารหนี้ IPO8-14ต.ค.ลุยบอนด์ไทยและตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.กรุงไทยเข็น 2 กองทุนตราสารหนี้ "กรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3 เดือน 1 - กรุงไทยธนทรัพย์ตราสารหนี้ 6 เดือน 1" กระจายลงทุนบอนด์ทั้งในและนอกประเทศ คาดผลตอบแทนไม่รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 3.80% และ 3.90% ตามลำดับ เปิดขายพร้อมกัน 8 - 14 ต.ค.นี้ ขณะที่ชี้การลงทุนต่างประเทศยังคงผันผวนต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้บริษัทจะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนของ 2 กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3 เดือน 1 (KTSIV3M1) และกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ตราสารหนี้ 6 เดือน 1 (KTSUP6M1) ในระหว่างวันที่ 8 -14 ตุลาคม 2551

ทั้งนี้กองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ทอินเวส 3 เดือน 1 มีอายุโครงการ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีคุณภาพ และมีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นสูง ซึ่งกองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า( Derivatives) และจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง( Structured Note) โดยคาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 3.80% ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของกองทุน

ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ตราสารหนี้ 6 เดือน 1 มีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ที่บริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยง ส่วนที่เหลืออาจจะพิจารณาลงทุนในเงินฝากของสถาบันการเงิน ตามที่คณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ความเห็นชอบ และคาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 3.90% ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของกองทุน

ทั้งนี้ภาวะตลาดตราสารหนี้ในปัจจุบันนั้น นายสมชัย กล่าวว่า ผลตอบแทนของพันธบัตรระยะไม่เกิน 1 ปี ได้เกิดการปรับตัวลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน โดยล่าสุดแกว่งตัวอยู่ในช่วง 3.40-3.60% ด้วยสาเหตุหลักจากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้ความเสี่ยงทางเครดิตเพิ่มขึ้น ดังนั้นนักลงทุนต่างๆ จึงหันมาลงทุนในพันธบัตรภาครัฐระยะสั้น ขณะเดียวกันในเดือนตุลาคมนี้กระทรวงการคลังไม่มีการเปิดประมูลตั๋วเงินคลัง จึงยิ่งกดดันให้ผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นปรับตัวลดลงต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่ที่ระดับ 3.75%

ทั้งนี้ในวันที่ 8 ตุลาคม 2551 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยตลาดส่วนใหญ่ยังคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย สำหรับแนวโน้มผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศยังมีความผันผวนสูงมากตามการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดปัจจุบันและตลาดล่วงหน้า ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากวิกฤตการณ์สถาบันการเงินในต่างประเทศ และการขาดแคลนเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ทำให้เกิดความไม่ปกติในตลาดการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติตตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

ก่อนหน้านี้นายสมชัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาวะสภาพคล่องทางการเงินที่ตึงตัวอย่างมาก ส่งผลทำให้ตลาดกู้ยืมระหว่างธนาคาร ตลาดตราสารหนี้ และตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศต่างๆ มีความผันผวน โดยภาวะดังกล่าวมีสาเหตุหลักจากวิกฤตการเงินในประเทศสหรัฐฯ และยุโรป โดยในส่วนของประเทศในภูมิภาคเอเชียเองก็ได้รับผลกระทบจากภาวะความผันผวนทางการเงินเช่นกัน แต่คาดว่าผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวจะอยู่ในวงจำกัด เพราะธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ได้มีการเข้ามาแทรกแซงผ่านการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเป็นระยะ

โดยภาวะความผันผวนที่เกิดขึ้น ทำให้บลจ.กรุงไทย ได้มีแผนชะลอการเปิดจำหน่ายกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศออกไป ส่วนกองที่เปิดจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ บริษัทขอยืนยันว่าในพอร์ตการลงทุนทุกกองทุน ไม่มีการถือครองตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินทั้งในสหรัฐฯ , ยุโรป และออสเตรเลียแต่อย่างใด โดยตราสารส่วนใหญ่ที่ถือครองอยู่เป็นตราสารการเงินของสถาบันการเงินภาครัฐเกาหลีใต้เป็นหลัก
กำลังโหลดความคิดเห็น