บลจ.กรุงไทยชี้สภาพคล่องทางการเงินโลกตึงตัว ทำภาวะการลงทุนผันผวน มั่นใจภูมิภาคเอเชียได้รับผลในวงจำกัด ระบุวิกฤตการเงินในสหรัฐฯ กระทบการลงทุนต่างประเทศ เหตุความเสี่ยงและต้นทุนเพิ่มขึ้น จนต้องชะลอแผนออกกองทุนบอนด์เอฟไอเอฟ "สมชัย" เผย เตรียมออกกองทุนตราสารหนี้ในประเทศประเภทคุ้มครองเงินต้น ตอบสนองความต้องการนักลงทุนไม่ชอบความเสี่ยง เสนอขาย 1-7 ต.ค.นี้
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาวะสภาพคล่องทางการเงินที่ตึงตัวอย่างมาก ส่งผลทำให้ตลาดกู้ยืมระหว่างธนาคาร ตลาดตราสารหนี้ และตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศต่างๆ มีความผันผวน โดยภาวะดังกล่าวมีสาเหตุหลักจากวิกฤตการเงินในประเทศสหรัฐฯ และยุโรป โดยในส่วนของประเทศในภูมิภาคเอเชียเองก็ได้รับผลกระทบจากภาวะความผันผวนทางการเงินเช่นกัน แต่คาดว่าผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวจะอยู่ในวงจำกัด เพราะธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ได้มีการเข้ามาแทรกแซงผ่านการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเป็นระยะ
"ภาวะวิกฤตการณ์ทางการเงินของสหรัฐฯ และยุโรปในปัจจุบัน ส่งผลให้มีความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น และทำให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ แม้จะให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง แต่ก็มีความผันผวนที่สูงเช่นเดียวกัน รวมถึงต้นทุนการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะสภาพคล่องในตลาดเงินโดยเฉพาะสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ค่อนข้างตึงตัว" นายสมชัย กล่าว
ขณะเดียวกันภาวะความผันผวนที่เกิดขึ้น ทำให้บลจ.กรุงไทย ได้มีแผนชะลอการเปิดจำหน่ายกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศออกไป ส่วนกองที่เปิดจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ บริษัทขอยืนยันว่าในพอร์ตการลงทุนทุกกองทุน ไม่มีการถือครองตราสารหนี้ที่ออกโดยสถาบันการเงินทั้งในสหรัฐฯ , ยุโรป และออสเตรเลียแต่อย่างใด โดยตราสารส่วนใหญ่ที่ถือครองอยู่เป็นตราสารการเงินของสถาบันการเงินภาครัฐเกาหลีใต้เป็นหลัก
นายสมชายกล่าวถึงภาวะการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี ยังทรงตัวใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยตลาดเงินระยะสั้นที่ระดับ 3.72% - 3.78% เนื่องจากยังมีความต้องการจากกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นในประเทศ และเป็นผลสืบเนื่องจากการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะไม่ปรับเพิ่มขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตามช่วงที่สถานการณ์การลงทุนในต่างประเทศมีความไม่แน่นอนเช่นในปัจจุบัน บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญในเงินลงทุนของลูกค้า จึงเน้นการเปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ในประเทศประเภทคุ้มครองเงินต้น โดยในระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคม 2551 บริษัทจะมีการจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น1 ( KTFIX6M1 ) ซึ่งมีอายุโครงการ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท
โดยกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 1 เป็นกองทุนที่มีนโยบายคุ้มครองเงินลงทุน หากถือครองหน่วยลงทุนต่อเนื่องตลอดระยะเวลาตามที่บริษัทกกำหนด กองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารภาครัฐไทย ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือบัตรเงินฝาก ที่บริษัทเงินทุนหรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เป็นผู้ออกเพื่อการกู้ยืมหรือรับเงินจากประชาชน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์หรือบัตรเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ออก หรือทรัพย์สินอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือมีความเสี่ยงที่เทียบเคียงได้กับตราสารภาครัฐไทย โดยได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานก.ล.ต. ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในทรัพย์สินดังกล่าวไม่น้อยกว่าร้อยละ 98 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม
