“บลจ.วรรณ” ปลดล็อกกองทุนแอลทีเอฟ 3 โครงการตามเพื่อนบลจ.อื่นๆแล้ว พร้อมเพิ่มความคล่องตัวให้ลูกค้า พร้อมปรับนโยบายลงทุนคลายเกณฑ์ให้ยืดหยุ่นลุยดัชนีและอนุพันธ์ได้เพื่อช่วยลดความเสี่ยง รวมทั้งยกเลิกกำหนดมูลค่ากองทุนขั้นต่ำ50 ล้านบาท ซึ่งพ่วงกองทุนเปิด ONE-G เข้ามาด้วย
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด รายงานว่าในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟหุ้นระยะยาว (1S-LTF) กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟโกรทหุ้นระยะยาว (1SG-LTF) และกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาว (1SMART-LTF) ทั้งนี้บริษัทขอประกาศแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนดังกล่าว ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดทรัพย์( ก.ล.ต.) ตามหนังสือที่ น. 2348/2551 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2551 ในส่วนของคำจำกัดความนโยบายการลงทุน ลักษณะพิเศษของกองทุน การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน การเลิกโครงการจัดการกองทุนรวม และการดำเนินการของบริษัทจัดการ เมื่อเลิกโครงการจัดการกองทุนรวม เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ทั้งนี้ บลจ.วรรณ จะแก้ไขในหัวข้อ “นโยบายการลงทุน” โดยให้การลงทุนในตราสารแห่งทุนซึ่งผลตอบแทนของตราสารดังกล่าวอ้างอิงกับผลตอบแทนของหุ้นหรือกลุ่มหุ้นของบริษัทจดทะเบียน สามารถนับรวมกับสัดส่วนที่กองทุนจะต้องลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัทจดทะเบียน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
อีกทั้ง บริษัทได้แก้ไขในหัวข้อ “การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน” โดยเปลี่ยนแปลงวันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของแต่ละกองทุน เริ่มตั้งแต่ กองทุนเปิด1S-LTF เปลี่ยนแปลงวันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน เป็นทุกวันทำการ เช่นเดียวกับกองทุนเปิด 1SG-LTF
ส่วนกองทุนเปิด 1SMART-LTF เปลี่ยนแปลงวันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน เป็นทุกวันทำการสุดท้ายก่อนหน้าวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม เดือนมิถุนายน เดือนกันยายน และ เดือนธันวาคม โดยผู้ถือหน่วยลงทุนต้องส่งคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 1 วันทำการก่อนหน้าวันทำการ รับซื้อคืนหน่วยลงทุน (หรือส่งคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทำการก่อนหน้าวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม เดือนมิถุนายน เดือนกันยายน และเดือนธันวาคม)
นอกจากนี้ บริษัทได้แก้ไขในหัวข้อ “การเลิกโครงการจัดการกองทุนรวม” โดยยกเลิกเงื่อนไขการเลิกกองทุน ในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน เมื่อเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันสิ้นปีปฏิทินที่สองที่จัดตั้งกองทุนเป็นต้นไป และ ในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด เมื่อเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันสิ้นปีปฏิทินที่สองที่จัดตั้งกองทุนเป็นต้นไป
ทั้งนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมโครงการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป ยกเว้นเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการเกี่ยวกับวันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2552 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดเอกทวีคูณ (ONE-G) บลจ.วรรณ จึงขอประกาศแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนดังกล่าว ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ตามหนังสือที่ น. 2348/2551 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2551 ในส่วนของการเลิกโครงการจัดการกองทุนรวม และการดำเนินการของบริษัทจัดการ เมื่อเลิกโครงการจัดการกองทุนรวม โดยยกเลิกเงื่อนไขการเลิกกองทุนในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของ หน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาท เป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน และ ในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของ หน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ สข/น.32/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน (ฉบับที่ 10) และการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด รายงานว่าในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟหุ้นระยะยาว (1S-LTF) กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟโกรทหุ้นระยะยาว (1SG-LTF) และกองทุนเปิดวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาว (1SMART-LTF) ทั้งนี้บริษัทขอประกาศแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนดังกล่าว ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดทรัพย์( ก.ล.ต.) ตามหนังสือที่ น. 2348/2551 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2551 ในส่วนของคำจำกัดความนโยบายการลงทุน ลักษณะพิเศษของกองทุน การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน การเลิกโครงการจัดการกองทุนรวม และการดำเนินการของบริษัทจัดการ เมื่อเลิกโครงการจัดการกองทุนรวม เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
ทั้งนี้ บลจ.วรรณ จะแก้ไขในหัวข้อ “นโยบายการลงทุน” โดยให้การลงทุนในตราสารแห่งทุนซึ่งผลตอบแทนของตราสารดังกล่าวอ้างอิงกับผลตอบแทนของหุ้นหรือกลุ่มหุ้นของบริษัทจดทะเบียน สามารถนับรวมกับสัดส่วนที่กองทุนจะต้องลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัทจดทะเบียน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
อีกทั้ง บริษัทได้แก้ไขในหัวข้อ “การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน” โดยเปลี่ยนแปลงวันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของแต่ละกองทุน เริ่มตั้งแต่ กองทุนเปิด1S-LTF เปลี่ยนแปลงวันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน เป็นทุกวันทำการ เช่นเดียวกับกองทุนเปิด 1SG-LTF
ส่วนกองทุนเปิด 1SMART-LTF เปลี่ยนแปลงวันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน เป็นทุกวันทำการสุดท้ายก่อนหน้าวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม เดือนมิถุนายน เดือนกันยายน และ เดือนธันวาคม โดยผู้ถือหน่วยลงทุนต้องส่งคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 1 วันทำการก่อนหน้าวันทำการ รับซื้อคืนหน่วยลงทุน (หรือส่งคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 วันทำการก่อนหน้าวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม เดือนมิถุนายน เดือนกันยายน และเดือนธันวาคม)
นอกจากนี้ บริษัทได้แก้ไขในหัวข้อ “การเลิกโครงการจัดการกองทุนรวม” โดยยกเลิกเงื่อนไขการเลิกกองทุน ในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาทเป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน เมื่อเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันสิ้นปีปฏิทินที่สองที่จัดตั้งกองทุนเป็นต้นไป และ ในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของหน่วยลงทุน ลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด เมื่อเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันสิ้นปีปฏิทินที่สองที่จัดตั้งกองทุนเป็นต้นไป
ทั้งนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมโครงการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป ยกเว้นเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการเกี่ยวกับวันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2552 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนเปิดเอกทวีคูณ (ONE-G) บลจ.วรรณ จึงขอประกาศแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุนดังกล่าว ตามที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ตามหนังสือที่ น. 2348/2551 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2551 ในส่วนของการเลิกโครงการจัดการกองทุนรวม และการดำเนินการของบริษัทจัดการ เมื่อเลิกโครงการจัดการกองทุนรวม โดยยกเลิกเงื่อนไขการเลิกกองทุนในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของ หน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 50 ล้านบาท เป็นเวลา 5 วันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนติดต่อกัน และ ในกรณีที่กองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนที่ขายได้แล้วทั้งหมดโดยคำนวณตามมูลค่าที่ตราไว้ของ หน่วยลงทุนลดลงเหลือน้อยกว่า 30 ล้านบาทในวันทำการใด เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ สข/น.32/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจัดการกองทุน (ฉบับที่ 10) และการแก้ไขเพิ่มเติมโครงการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป
