Q&A corner
วัยทำงานอยากสบายตอนแก่
คำถาม-ผมอายุ 23 ปี และเริ่มทำงานได้เพียง 1 ปี (เงินเดือนประมาณหมื่นต้น) แต่อยากจะแบ่งสัดส่วนรายได้ไว้ลงทุนเพื่อชีวิตหลังเกษียณด้วยการลงทุนผ่านกองทุนรวมประเภทต่างๆ จะจัดสรรเงินไว้ลงทุนอย่างไรดี และควรลงทุนในกองทุนประเภทไหน?
ตอบ: สำหรับน้องที่เขียนคำถามเข้ามาในเรื่องนี้ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับคำถามดีๆ ที่ส่งเข้ามา และขอตอบในเรื่องของการจัดสรรเงินลงทุนก่อนว่า สิ่งที่น้องควรพิจารณาเป็นอันดับแรกก่อนจะตัดสินใจลงทุนอะไรก็คือ"ตัวเอง" เป็นอันดับแรกว่าสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยขนาดไหน ซึ่งจะขอยกตัวอย่างอุปนิสัยของคนไทยกับความสามารถในการรับความเสี่ยงที่มี 5 ประการให้น้องได้พิจารณาก่อนว่าจะตรงกับตัวเองในข้อใดบ้าง
ประการที่ 1) อายุของคน คนที่มีอายุน้อยส่วนใหญ่มักจะสามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่าคนที่มีอายุมาก ซึ่งผู้เฒ่าสูงวัยมักจะต้องการความมั่นคงกับชีวิต แต่คนวัยทำงานมักจะยอมเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้นได้
ประการที่ 2.) ความมั่งคั่งโดยรวม คนที่มีฐานะดีก็สามารถรับความเสี่ยงได้มาก ซึ่งคนที่มีรายได้น้อยมักจะต้องการความมั่นคงและไม่อยากจะเสี่ยงเพื่อให้เงินที่มีอยู่สูญเสียไปกับความเสี่ยงที่สูง
ประการที่ 3.) ภาระทางการเงินที่มีอยู่ แน่นอนคนที่มีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงคงจะไม่นำเงินที่เหลือน้อยอยู่แล้วมาเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่กลับกันคนไม่มีภาระมากนักจะสามารถรับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น
ประการที่ 4.)ความมั่นคงทางอาชีพ อาชีพมั่นคงรับความเสียงได้สูง เช่น นักแสดงมีงานได้อีกไม่นาน หรือจิตรกรที่นานๆ จะขายรูปได้จะรับความเสียงได้ต่ำกว่าอาชีพที่มั่นคงที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ
ประการสุดท้ายคือ ความวิตกกังวลส่วนบุคคล คนบางคนมีเงินอยู่บ้างแต่มีความวิตกส่วนตัว และเมื่อสูญเสียเงินไปในส่วนที่เท่ากันแต่มีความวิตกมากว่าอีกคนที่เสียเงินในจำนวนที่เท่ากัน อย่างนี้ก็จะรับความเสี่ยงได้น้อยกว่าเช่นกัน
เมื่อรับทราบอย่างนี้แล้วน้องก็นำไปพิจารณาประกอบว่าขอไหนตรงกับเราบ้าง แต่ที่สำคัญนอกเหนือจากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นแล้ว สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ การพิจารณาตัวเองที่บางครั้งบางคนอาจจะไม่เป็นเหมือนสมมุติฐานข้างต้นก็เป็นได้ อย่างเช่น ผู้สูงอายุที่มั่งคั่งบางท่านอาจยังมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอยู่ก็เป็นได้
เลือกลงทุนในกองทุนประเภทไหน?
ตอบ: เมื่อประเมินความต้องการของตัวเองได้แล้ว กองทุนที่เลือกลงทุนจะมีหลายรูปแบบให้เลือกเช่นกัน ทั้งกองทุนตราสารทุน กองทุนตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศ แต่ที่น่าจะตรงกับความต้องการของน้อง น่าจะเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งมีหลายนโยบายให้เลือก ทั้งตัวที่มีความเสี่ยงน้อยที่ลงทุนในตราสารหนี้ และกองที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างกองที่ลงทุนในหุ้นเป็นส่วนใหญ่ หรือที่มีความเสี่ยงรองลงมาอย่างกองทุนผสม ส่วนจะเลือกบลจ.ไหน กองไหน ต้องดูกันอีกว่าชอบใจในนโยบายใด แต่ที่น่าจะเหมาะที่สุดให้ดูผลการดำเนินงานน่าจะพอเข้าใจง่ายกว่าว่ากองไหนมีผลการดำเนินงานดีหรือไม่อย่างไร (แต่อย่างลืมว่าผลการดำเนินงานในอดีตมิได้การันตีผลตอบแทนในอนาคตนะจะคุณทั้งหลาย)
สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับกองทุนรวม สามารถส่งคำถามเข้ามาได้ที่ fund@manager.co.th หรือโพสต์เป็นคำถามได้ที่www.manager.co.th หน้ากองทุนรวมครับ
วัยทำงานอยากสบายตอนแก่
คำถาม-ผมอายุ 23 ปี และเริ่มทำงานได้เพียง 1 ปี (เงินเดือนประมาณหมื่นต้น) แต่อยากจะแบ่งสัดส่วนรายได้ไว้ลงทุนเพื่อชีวิตหลังเกษียณด้วยการลงทุนผ่านกองทุนรวมประเภทต่างๆ จะจัดสรรเงินไว้ลงทุนอย่างไรดี และควรลงทุนในกองทุนประเภทไหน?
ตอบ: สำหรับน้องที่เขียนคำถามเข้ามาในเรื่องนี้ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับคำถามดีๆ ที่ส่งเข้ามา และขอตอบในเรื่องของการจัดสรรเงินลงทุนก่อนว่า สิ่งที่น้องควรพิจารณาเป็นอันดับแรกก่อนจะตัดสินใจลงทุนอะไรก็คือ"ตัวเอง" เป็นอันดับแรกว่าสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยขนาดไหน ซึ่งจะขอยกตัวอย่างอุปนิสัยของคนไทยกับความสามารถในการรับความเสี่ยงที่มี 5 ประการให้น้องได้พิจารณาก่อนว่าจะตรงกับตัวเองในข้อใดบ้าง
ประการที่ 1) อายุของคน คนที่มีอายุน้อยส่วนใหญ่มักจะสามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่าคนที่มีอายุมาก ซึ่งผู้เฒ่าสูงวัยมักจะต้องการความมั่นคงกับชีวิต แต่คนวัยทำงานมักจะยอมเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้นได้
ประการที่ 2.) ความมั่งคั่งโดยรวม คนที่มีฐานะดีก็สามารถรับความเสี่ยงได้มาก ซึ่งคนที่มีรายได้น้อยมักจะต้องการความมั่นคงและไม่อยากจะเสี่ยงเพื่อให้เงินที่มีอยู่สูญเสียไปกับความเสี่ยงที่สูง
ประการที่ 3.) ภาระทางการเงินที่มีอยู่ แน่นอนคนที่มีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงคงจะไม่นำเงินที่เหลือน้อยอยู่แล้วมาเสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่กลับกันคนไม่มีภาระมากนักจะสามารถรับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น
ประการที่ 4.)ความมั่นคงทางอาชีพ อาชีพมั่นคงรับความเสียงได้สูง เช่น นักแสดงมีงานได้อีกไม่นาน หรือจิตรกรที่นานๆ จะขายรูปได้จะรับความเสียงได้ต่ำกว่าอาชีพที่มั่นคงที่สามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ
ประการสุดท้ายคือ ความวิตกกังวลส่วนบุคคล คนบางคนมีเงินอยู่บ้างแต่มีความวิตกส่วนตัว และเมื่อสูญเสียเงินไปในส่วนที่เท่ากันแต่มีความวิตกมากว่าอีกคนที่เสียเงินในจำนวนที่เท่ากัน อย่างนี้ก็จะรับความเสี่ยงได้น้อยกว่าเช่นกัน
เมื่อรับทราบอย่างนี้แล้วน้องก็นำไปพิจารณาประกอบว่าขอไหนตรงกับเราบ้าง แต่ที่สำคัญนอกเหนือจากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นแล้ว สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ การพิจารณาตัวเองที่บางครั้งบางคนอาจจะไม่เป็นเหมือนสมมุติฐานข้างต้นก็เป็นได้ อย่างเช่น ผู้สูงอายุที่มั่งคั่งบางท่านอาจยังมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอยู่ก็เป็นได้
เลือกลงทุนในกองทุนประเภทไหน?
ตอบ: เมื่อประเมินความต้องการของตัวเองได้แล้ว กองทุนที่เลือกลงทุนจะมีหลายรูปแบบให้เลือกเช่นกัน ทั้งกองทุนตราสารทุน กองทุนตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศ แต่ที่น่าจะตรงกับความต้องการของน้อง น่าจะเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งมีหลายนโยบายให้เลือก ทั้งตัวที่มีความเสี่ยงน้อยที่ลงทุนในตราสารหนี้ และกองที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างกองที่ลงทุนในหุ้นเป็นส่วนใหญ่ หรือที่มีความเสี่ยงรองลงมาอย่างกองทุนผสม ส่วนจะเลือกบลจ.ไหน กองไหน ต้องดูกันอีกว่าชอบใจในนโยบายใด แต่ที่น่าจะเหมาะที่สุดให้ดูผลการดำเนินงานน่าจะพอเข้าใจง่ายกว่าว่ากองไหนมีผลการดำเนินงานดีหรือไม่อย่างไร (แต่อย่างลืมว่าผลการดำเนินงานในอดีตมิได้การันตีผลตอบแทนในอนาคตนะจะคุณทั้งหลาย)
สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับกองทุนรวม สามารถส่งคำถามเข้ามาได้ที่ fund@manager.co.th หรือโพสต์เป็นคำถามได้ที่www.manager.co.th หน้ากองทุนรวมครับ
