บลจ.ทหารไทย เตรียมปรับโฉม ช่องทางให้บริการอินเตอร์เน็ตของลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หลังกฏหมายเอื้อให้ลูกจ้างจัดพอร์ตลงทุนเองได้ ทั้งเปลี่ยนอัตราส่วนเงินลงทุน พร้อมกับกำหนดอัตราส่วนการลงทุนให้เหมาะสม ขณะที่ลูกค้ากองทุนรวมไม่น้อยหน้า บลจ.เตรียมโชว์การลงทุนเเบบ Average Cost เเเละกำไรขาดทุนให้กับลูกค้าที่ลงทะเบียนในอินเตอร์เน็ต คาดจะเริ่มใช้ได้จริงต้นปี 2552 นี้
นายสิเวศ โรจนสุนทร รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเเละเทคโนโลยี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กำลังดำเนินงานเพิ่มบริการทางอินเตอร์เน็ตให้กับลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พร้อมกับพัฒนาระบบให้กับเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลของบลจ.เพื่อจะบันทึกข้อมูลการลงทุนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้สะดวกเเละรวดเร็วยิ่งขึ้น
หลังจากประกาศใช้พระราชบัญญติ (พรบ.) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฉบับปรับปรุงใหม่ขึ้น ทำให้มีช่องทางการลงทุนให้กับลูกจ้างมากขึ้น โดยเฉพาะ Employee’s Choices โดยกระบวนการที่เรากำลังพัฒนาคือ เมื่อเงินเข้ามาถึงบลจ.เเล้วเราจะทำการนำเงินเข้าไปลงทุนในกองทุนรวมที่ลูกจ้างเลือกไว้ เช่น กองทุนเปิดธนบดี กองทุนเปิดธนรัฐ เเละกองทุนเปิดทหารไทย SET 50 ขณะที่กองทุนรวมต่างประเทศ( FIF) เช่นกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index หรือ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ก็ได้รับความสนใจเช่นกัน
"โดยบริษัจะทำการส่งเงินที่หักจากนายจ้างเเละลูกจ้าง มายังบลจ.โดยจะจ่ายเเพียงเช็ค 1 ใบ ซึ่งระบบที่เราจะพัฒนาใหม่นี้จะเลือกลงทุนตามที่ลูกจ้างกำหนดไว้ เช่น ความเสี่ยงกลาง 50% ความเสี่ยงสูง 20% เเเละความเสี่ยงต่ำ 10% ทำให้ประหยัดเวลาในการบันทึกข้อมูลมากขึ้น เเละทำให้ประหยัดทรัพยากรบุ คคลอีกด้วย " นายสิเวศ กล่าว
ทั้งนี้ บลจ.ได้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้เข้ากับ Employee’s Choice ภายใต้ชื่อว่า We allocate เเละ We balance โดยตัว We allocate หรือการปลี่ยอัตราเงินส่วนใหม่ที่ไหลเข้ามาลงทุนนั้นจะเป็นการเเบ่งการลงทุนจากที่ลงทุนในหุ้น 70% ลงทุนในตราสารหนี้ 30% มาลงทุนในตราสารหนี้ 100% เเทนเนื่องจากภาวะตลาดหุ้น ณ ช่วงเวลานั้นอาจจะทำให้ขาดทุนได้ ซึ่งตรงนี้เองระบบอินเตอร์เน็ตจะสามาถทำรายการได้ทันทีโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ขณะที่ We balance นั้นจะป็นการเปลี่ยนอัตราเงินในการลงทุน เช่นกรณี ตลาดหุ้นเป็นช่วงขาขึ้นส่งผลให้เปอร์เซ็นต์ของหุ้นในพอร์ตมากขึ้น เราก็สามารถเปลี่ยนอัตราส่วนใหม่ได้ เช่น ลงทุนในหุ้น 10% เมื่อหุ้นโตขึ้นจนถึง 50%ในพอร์ต เราก็สามารถโยกเงินไปลงทุนตราสารหนี้ก็ได้ เรียกได้ว่าลุกค้าหรือลูกจ้างในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถ เปลี่ยนอัตราส่วนเงินที่เพิ่งจะเข้ามาลงทุน เเละเปลี่ยนอัตราส่วนของเงินที่อยู่ในกองได้อีกเช่นกัน
"คาดว่าระบบ คอมพิวเตอร์เเละระบบอินเตอร์เน็ตที่จะมาช่วยจัดการลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะเริ่มใช้ในต้นปี 2552 นี้ ขณะเดียวกันเราจะเพิ่มความสะดวกสะบายให้กับลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถล๊อกอินเข้ามาดูพอร์ตเเละปรับพร์อตการลงทุนของตนเองได้ เหมือนกับลูกค้ากองทุนรวม เเละที่บลจ.เรามีให้กับลูกค้าหรือลูกจ้างในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ไม่เหมือนกับที่อื่นคือ ระบบ We allocate ที่สามารถเปลี่ยนอัตราส่วนการลงทุนได้ตามที่ลูกค้าต้องการโดยไม่จำกัดจำนวน " นายสิเวศ กล่าว
นอกจากนี้เรายังมีบริการใหม่เพิ่มให้กับลูกค้ากองทุนรวม โดยเราจะทำใบรายการธุรกรรมการลงทุน หรือ สเตทเม้นท์ รายปีให้กับลูกค้า พร้อมกับเราจะทำรายการ Average Cost หรือการลงทุนเเบบถัวเฉลี่ย เเละกำไรขาดทุน เพิ่มในอินเตอร์เน็ตอีกด้วย
นายสิเวศ โรจนสุนทร รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเเละเทคโนโลยี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กำลังดำเนินงานเพิ่มบริการทางอินเตอร์เน็ตให้กับลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พร้อมกับพัฒนาระบบให้กับเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลของบลจ.เพื่อจะบันทึกข้อมูลการลงทุนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้สะดวกเเละรวดเร็วยิ่งขึ้น
หลังจากประกาศใช้พระราชบัญญติ (พรบ.) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ฉบับปรับปรุงใหม่ขึ้น ทำให้มีช่องทางการลงทุนให้กับลูกจ้างมากขึ้น โดยเฉพาะ Employee’s Choices โดยกระบวนการที่เรากำลังพัฒนาคือ เมื่อเงินเข้ามาถึงบลจ.เเล้วเราจะทำการนำเงินเข้าไปลงทุนในกองทุนรวมที่ลูกจ้างเลือกไว้ เช่น กองทุนเปิดธนบดี กองทุนเปิดธนรัฐ เเละกองทุนเปิดทหารไทย SET 50 ขณะที่กองทุนรวมต่างประเทศ( FIF) เช่นกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index หรือ กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ก็ได้รับความสนใจเช่นกัน
"โดยบริษัจะทำการส่งเงินที่หักจากนายจ้างเเละลูกจ้าง มายังบลจ.โดยจะจ่ายเเพียงเช็ค 1 ใบ ซึ่งระบบที่เราจะพัฒนาใหม่นี้จะเลือกลงทุนตามที่ลูกจ้างกำหนดไว้ เช่น ความเสี่ยงกลาง 50% ความเสี่ยงสูง 20% เเเละความเสี่ยงต่ำ 10% ทำให้ประหยัดเวลาในการบันทึกข้อมูลมากขึ้น เเละทำให้ประหยัดทรัพยากรบุ คคลอีกด้วย " นายสิเวศ กล่าว
ทั้งนี้ บลจ.ได้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้เข้ากับ Employee’s Choice ภายใต้ชื่อว่า We allocate เเละ We balance โดยตัว We allocate หรือการปลี่ยอัตราเงินส่วนใหม่ที่ไหลเข้ามาลงทุนนั้นจะเป็นการเเบ่งการลงทุนจากที่ลงทุนในหุ้น 70% ลงทุนในตราสารหนี้ 30% มาลงทุนในตราสารหนี้ 100% เเทนเนื่องจากภาวะตลาดหุ้น ณ ช่วงเวลานั้นอาจจะทำให้ขาดทุนได้ ซึ่งตรงนี้เองระบบอินเตอร์เน็ตจะสามาถทำรายการได้ทันทีโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ขณะที่ We balance นั้นจะป็นการเปลี่ยนอัตราเงินในการลงทุน เช่นกรณี ตลาดหุ้นเป็นช่วงขาขึ้นส่งผลให้เปอร์เซ็นต์ของหุ้นในพอร์ตมากขึ้น เราก็สามารถเปลี่ยนอัตราส่วนใหม่ได้ เช่น ลงทุนในหุ้น 10% เมื่อหุ้นโตขึ้นจนถึง 50%ในพอร์ต เราก็สามารถโยกเงินไปลงทุนตราสารหนี้ก็ได้ เรียกได้ว่าลุกค้าหรือลูกจ้างในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถ เปลี่ยนอัตราส่วนเงินที่เพิ่งจะเข้ามาลงทุน เเละเปลี่ยนอัตราส่วนของเงินที่อยู่ในกองได้อีกเช่นกัน
"คาดว่าระบบ คอมพิวเตอร์เเละระบบอินเตอร์เน็ตที่จะมาช่วยจัดการลงทุนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะเริ่มใช้ในต้นปี 2552 นี้ ขณะเดียวกันเราจะเพิ่มความสะดวกสะบายให้กับลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถล๊อกอินเข้ามาดูพอร์ตเเละปรับพร์อตการลงทุนของตนเองได้ เหมือนกับลูกค้ากองทุนรวม เเละที่บลจ.เรามีให้กับลูกค้าหรือลูกจ้างในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ไม่เหมือนกับที่อื่นคือ ระบบ We allocate ที่สามารถเปลี่ยนอัตราส่วนการลงทุนได้ตามที่ลูกค้าต้องการโดยไม่จำกัดจำนวน " นายสิเวศ กล่าว
นอกจากนี้เรายังมีบริการใหม่เพิ่มให้กับลูกค้ากองทุนรวม โดยเราจะทำใบรายการธุรกรรมการลงทุน หรือ สเตทเม้นท์ รายปีให้กับลูกค้า พร้อมกับเราจะทำรายการ Average Cost หรือการลงทุนเเบบถัวเฉลี่ย เเละกำไรขาดทุน เพิ่มในอินเตอร์เน็ตอีกด้วย