บลจ.พรีมาเวสท์จับจังหวะตลาดทุนผันผวนสูง เศรษฐกิจไม่แน่นอน เข็ญกองทุนความเสี่ยงต่ำเอาใจนักลงทุนใจสะออน ส่งKP-Cash เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐเปิดขายธันวาคมนี้
นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด บริษัทฯ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับนักลงทุนที่ต้องการความเสี่ยงต่ำในช่วงที่ตลาดผันผวน
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ตราสารเงิน หรือ KP-Cash ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ หรือเงินฝากที่ออกโดยสถาบันการเงินที่มีความมั่นคง เพื่อรองรับนักลงทุนที่ต้องการการลงทุนที่มั่นคง ความเสี่ยงต่ำ สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวน ไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กองทุน KP-Cash ยังอยู่ระหว่างการขอพิจารณาอนุมัติจัดตั้งกองทุนจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และคาดว่าจะเปิดเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปได้ประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้
“ในสถานการณ์ปัจจุบัน บลจ.พรีมาเวสท์มองว่าตลาดหุ้นยังคงมีความผันผวนอยู่มาก ภาวะเศรษฐกิจก็ยังไม่แน่นอน นักลงทุนยังคงมองหาช่องทางการลงทุนที่มีความปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำ และสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ บลจ.พรีมาเวสท์ จึงเพิ่มทางเลือกแก่นักลงทุนด้วยการส่งกองทุน KP-Cash ที่เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ออกมาเสนอขายประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งคาดว่ากองทุนนี้น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ” นางสาวศรีเนตรกล่าว
นอกจากนี้กองทุน KP-Cash ยังมีสภาพคล่องสูง นักลงทุนสามารถซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวัน จึงเหมาะกับการเป็นแหล่งพักเงินระยะสั้น สำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการพลาดการลงทุน เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในขณะรอจังหวะที่จะไปลงทุนในหลักทรัพย์อื่นๆ
อนึ่ง บลจ.พรีมาเวสท์ มีกองทุนที่มีลักษณะใกล้เคียงกันได้แก่ “กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ มันนี่(KPM)” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงวที่ผ่านมา แต่ความเสี่ยงอาจจะต่างกันเล็กน้อย
สำหรับ กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ มันนี่(KPM) ถือเป็นกองทุนที่มีความมั่นคงและสภาพคล่องสูง โดยมีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของสถาบันการเงินระยะสั้น ทำให้นักลงทุนสามารถขายคืนได้ทุกวัน
นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของกองทุน KPM ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ซึ่ง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2551 มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.28% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.08% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.96% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.42% ต่อปี
นางสาวศรีเนตร ฤทธิรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด บริษัทฯ ในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับนักลงทุนที่ต้องการความเสี่ยงต่ำในช่วงที่ตลาดผันผวน
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ตราสารเงิน หรือ KP-Cash ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ หรือเงินฝากที่ออกโดยสถาบันการเงินที่มีความมั่นคง เพื่อรองรับนักลงทุนที่ต้องการการลงทุนที่มั่นคง ความเสี่ยงต่ำ สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวน ไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กองทุน KP-Cash ยังอยู่ระหว่างการขอพิจารณาอนุมัติจัดตั้งกองทุนจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และคาดว่าจะเปิดเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปได้ประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้
“ในสถานการณ์ปัจจุบัน บลจ.พรีมาเวสท์มองว่าตลาดหุ้นยังคงมีความผันผวนอยู่มาก ภาวะเศรษฐกิจก็ยังไม่แน่นอน นักลงทุนยังคงมองหาช่องทางการลงทุนที่มีความปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำ และสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ บลจ.พรีมาเวสท์ จึงเพิ่มทางเลือกแก่นักลงทุนด้วยการส่งกองทุน KP-Cash ที่เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ออกมาเสนอขายประมาณต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งคาดว่ากองทุนนี้น่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ” นางสาวศรีเนตรกล่าว
นอกจากนี้กองทุน KP-Cash ยังมีสภาพคล่องสูง นักลงทุนสามารถซื้อ ขาย สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวัน จึงเหมาะกับการเป็นแหล่งพักเงินระยะสั้น สำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการพลาดการลงทุน เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในขณะรอจังหวะที่จะไปลงทุนในหลักทรัพย์อื่นๆ
อนึ่ง บลจ.พรีมาเวสท์ มีกองทุนที่มีลักษณะใกล้เคียงกันได้แก่ “กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ มันนี่(KPM)” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงวที่ผ่านมา แต่ความเสี่ยงอาจจะต่างกันเล็กน้อย
สำหรับ กองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์ มันนี่(KPM) ถือเป็นกองทุนที่มีความมั่นคงและสภาพคล่องสูง โดยมีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของสถาบันการเงินระยะสั้น ทำให้นักลงทุนสามารถขายคืนได้ทุกวัน
นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของกองทุน KPM ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ซึ่ง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2551 มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 3.28% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.08% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.96% และตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.42% ต่อปี