xs
xsm
sm
md
lg

ASP-ASIANยิลด์เหนือเบนซ์มาร์ก พอร์ตลงทุน345ล.เน้นหุ้นกว่า83%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน –“แอสเซทพลัสเอเชี่ยนสเปเชี่ยลซิททูเอชั่นส์”ฟื้นตัว ล่าสุดผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนแตะ -32.09% เหนือเกณฑ์มาตรฐาน ข้อมูลในพอร์ตล่าสุด ณ 31 ตุลาคม ลงทุนในหุ้นถึง 83% ส่วนที่เหลือแบ่งลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้งธนาคารพาณิชย์ ด้านเอดีบีเตือนปีหน้าเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ฉุดการชะลอตัวของเอเชีย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซทพลัส จำกัด ได้รายงานผลการดำเนินงานกองทุนรวมประเภทต่างๆ ณ วันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมานำเสนอแก่ผู้ลงทุนทั่วไป โดยพบว่า จากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจการเงินที่ผ่านมาได้สร้างผลกระกบต่อกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ แต่กองทุนเปิดแอสเซทพลัสเอเชี่ยนสเปเชี่ยลซิททูเอชั่นส์ (ASP-ASIAN) ของบริษัท ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ -32.09% เหนือกว่าเกณฑ์มาตรฐาน -34.17% โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 345.80 ล้านบาท

โดยจากจากข้อมูลพบว่า ณ สิ้นเดือนตุลาคม กองทุนดังกล่าวลงทุนในตราสารทุนรวมทั้งสิ้น 83.08% ที่เหลือ 16.92% เป็นการลงทุนในด้านอื่นๆ ซึ่งแบ่งเป็นการลงทุนผ่านกลุ่มตราสารภาครัฐ และตราสารภาครัฐต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 7.22% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ หรือ 24,974,315.30 บาท ขณะเดียวกันกองทุนได้ลงทุนในกลุ่มตราสารที่มีธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น รวมถึงธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุน เป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล ผู้สลักหลัง หรือผู้ค้ำประกัน 9.70% คิดเป็นมูลค่า 33,534,778.73 บาท

สำหรับกองทุน ASP-ASIAN มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ซึ่งบริหารและจัดการโดย Fidelity Management & Research Company (FMR) โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยบริษัทจัดการอาจพิจารณาจัดให้มีการประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ขณะเดียวกันกรณีที่บริษัทจัดการเห็นว่าการลงทุนในกองทุน Fidelity Advisor World-Asian Special Situations Fund ไม่เหมาะสมอีกต่อไป บริษัทจัดการสงวนสิทธิที่จะนำเงินลงทุนไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศอื่นที่มีนโยบายการลงทุนใกล้เคียงกัน ทำให้กองทุนนี้เป็นเหมือนการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้กับนักลงทุนทั่วไปที่ต้องการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ และมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดี แต่ผู้ลงทุนควรมีความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงของการลงทุนในต่างประเทศได้

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลผลดำเนินงานย้อนหลังจากช่วง 3 เดือนขึ้นไป พบว่า รอบผลดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุน ASP-ASIAN อยู่ที่ -38.81% ย้อนหลัง 1ปี -50.42% และนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน -51.91% จากเกณฑ์มาตรฐาน 6 เดือน-43.40% เกณฑ์มาตรฐาน 1ปี -50.17% และเกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่จัดตั้ง -49.20%

ส่วนผลดำเนินงานในอดีต โดยไตรมาส1/2551 กองทุนมีผลดำเนินงาน -18.42% ขณะที่ไตรมาส2/2551 ผลดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 2.25% ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอีกครั้งในไตรมาส3/2551 อยู่ที่ -15.21%

อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียหรือเอดีบีเตือนว่าเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยพร้อมคาดการณ์ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะชะลอลงอีกในปีหน้าท่ามกลางความต้องการสินค้าส่งออกจากภูมิภาคเอเชียดังกล่าวชะลอลง

โดยนายราจัต แน็ก ผู้อำนวยการเอดีบี กล่าวว่า ข้อมูลการค้า การจ้างงานและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงในระยะที่ผ่านมาส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจโลกจะติดลบ และความต้องการสินค้าที่ผลิตในภูมิภาคเอเชียจะลดลง

"การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นภาวะถดถอยได้สูง ขณะเดียวกันการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มจะชะลอตัวลงอีกในปีหน้า" นายแน็กกล่าว

โดยรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียต่างปรับลดประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ เนื่องจากวิกฤติการเงินที่เริ่มเกิดขึ้นในสหรัฐฯ เมื่อปีที่ผ่านมาได้ลุกลามไปทั่วโลก กำลังฉุดรั้งความเชื่อมั่นนักลงทุนและผู้บริโภค

"ระบบการเงินและเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มอยู่ภายใต้แรงกดดันเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเศรษฐกิจที่พึ่งพอการส่งออกของภูมิภาคเอเชียยังต้องเผชิญกับการชะลอตัวรุนแรง เนื่องจากความต้องการทั่วโลกชะลอลง" นายแน็ก กล่าว

ชี้แจงยิลด์2กองบอนด์ใหม่
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้จนถึง 18 พฤศจิกายน 2551 บริษัทฯ กำลังเปิดเสนอขายครั้งแรก 2 ทางเลือกการลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟพันธบัตร 4 (ASP-ACGOV4) เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง และหุ้นกู้ระยะสั้นหรือเงินฝาก รอบระยะเวลาการลงทุนแรก ประมาณ 3 เดือน โดยคาดว่าจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง รุ่น TB09204B อายุ 3 เดือน ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 80% ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.15% และหุ้นกู้ระยะสั้นธนาคารกสิกรไทย หรือเงินฝาก ในสัดส่วน 20% ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.65%* ทั้งนี้ คาดว่าผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนจะอยู่ที่ 3.25% ต่อปี และหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.15% แล้ว จะสามารถให้ผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 3.10% ต่อปี

ส่วนอีกกองที่จะเปิดขายคือ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 4 (ASP-ACFIXED4) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนในประเทศ ทั้งตั๋วแลกเงิน และหุ้นกู้ ของสถาบันการเงิน อายุ 3 เดือน ที่ผู้ออกตราสารได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- ขึ้นไป เช่น ตั๋วแลกเงินของบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนตราสาร 3.95% ธนาคารทิสโก้ 3.88% และบริษัท บัตรเครดิตกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 4.15% และหุ้นกู้ของธนาคารกสิกรไทย ผลตอบแทนตราสาร 3.85% โดยมีสัดส่วนการลงทุนตราสารละ 25% ทั้งนี้ คาดว่าผลตอบแทนของตราสารในพอร์ตการลงทุนอยู่ที่ระดับ 3.96%** ต่อปี เมื่อหักค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.31% แล้วจะสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนได้ 3.65% ต่อปี
กำลังโหลดความคิดเห็น