xs
xsm
sm
md
lg

‘ยูไนเต็ด’ยันลูกค้าไม่หวั่นวิกฤตการเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

‘ยูไนเต็ด’ ยืนยันภาวะความเชื่อมั่นถดถอยไม่ส่งผลต่อลูกค้าไพรเวตฟันด์ที่บริหาร เหตุรายงานและชี้แจงให้แก่ผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ล่าสุดในพอร์ตปรับเกมถือเงินสดร่วม60% มองแนวโน้มกลุ่มหุ้นพลังงานยังมีโอกาสดี เช่นเดียวกับกลุ่มสื่อสาร

นายสุพรรณ เศษธะพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูไนเต็ด จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวการณ์ลงทุนในปัจจุบัน บริษัทในฐานะผู้บริหารกองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวต ฟันด์) ได้ทำการายงานการลงทุนแก่ลูกค้าอยู่เสมอ แต่ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะมีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนอยู่แล้ว จึงเข้าใจกับภาวการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดีและไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด

ทั้งนี้ บลจ.ยูไนเต็ด ยืนยันว่า จากผลกระทบวิกฤตการเงินในสหรัฐอเมริกา บริษัทไดดำเนินการปรับพอร์ตลงทุนรองรับสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว โดยหันกลับมาถือเงินสดในสัดส่วน 60% ของพอร์ตลงทุนทั้งหมด และลงทุนในหุ้นเพียง 30% ซึ่งจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร

โดยมุมมองสำหรับหุ้นกลุ่มพลังงาน ผอ.ฝ่ายการลงทุน บลจ.ยูไนเต็ด ให้เหตุผลว่าถึงแม้ราคาน้ำมันจะปรับลดลงมาจากเดิมมาก เนื่องจากดีมานต์ลดลง และมีกฏเณฑ์ในด้านอื่นเข้ามาบังคับ สุดท้ายคนผลิต (โอเปก) ซึ่งมีต้นทุนอยู่ในระดับหนึ่ง ก็จะสามารถคงราคาไว้ได้ กล่าวคือเชื่อว่าโอเปกคงไม่ยอมให้ราคาน้ำมันลดลงต่ำไปกว่านี้มากแน่นอน

“ที่ผ่านมาสถานการณ์ราคาน้ำมัน โดยเฉพาะในเรื่องปริมาณความต้องการยอมรับว่าลดลงมาเกินคาด แต่เชื่อว่าเมื่อทุกอย่างเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ปริมาณการบริโภคก็จะกลับมาอยู่ในระดับเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ราคาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกในระดับหนึ่งได้”

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี-สื่อสาร ยังมองว่าในกลุ่มผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออย่าง ADNAVC และ DTAC เป็นหุ้นที่มีศักยภาพ และมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยตรงจุดนี้หากไม่มองในเรื่องของเทคโนโลยี3G ต้องยอมรับว่าโดยธรรมชาติธุรกิจประเภทนี้มีความเสี่ยงไม่มาก และปัจจุบันโทรศัพท์มือถือนั้นถือเป็นช่องทางการสื่อสารที่ทุกคนนิยมใช้

ปัจจุบัน บริษัทได้เริ่มติดต่อนักลงทุนผ่านทางตัวแทนขายและพันธมิตรอย่าง Corevarian แล้ว โดยกลุ่มเป้าหมายยังเป็นไปตามเดิมนั่นคือกลุ่มนักลงทุนจากประเทศผู้ค้าน้ำมัน โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง และนักลงทุนตะวันออกกลาง ซึ่งเข้ามาทำธุรกิจในไทย เนื่องจากเชื่อว่ากำลังลงทุนของลูกค้ากลุ่มนี้ยังอยู่ในระดับสูง

โดย บลจ.ยูไนเต็ด ยืนยันว่าศักยภาพของตลาดทุนในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะไทยยังมีอยู่สูง เมื่อเทียบกับตลาดทุนใหญ่อย่างดาวโจนส์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งดัชนีปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงมากกว่า50-60% จากวิกฤตสถาบันการเงินในประเทศ

ทั้งนี้ เนื่องจาก โครงสร้างของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่ จะเริ่มต้นธุรกิจจากระบบครอบครัว (แฟมิลี บิสซิเนส) ซึ่งเจ้าของธุรกิจจะมีฐานเงินทุนเพียงพอต่อการซื้อหุ้นคืน หรือพยุงราคาหุ้นของตัวเองไว้ได้ ไม่เหมือนกับในสหรัฐฯ ที่บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่จะเป็นไปในลักษณะสาธารณชนตั้งแต่เริ่มจัดตั้ง

ขณะเดียวกัน จากวิกฤตการเงินที่เงินขึ้นในสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงมาก แต่คาดว่าราคาในปัจจุบันยังไม่ราคาที่แท้จริงของบริษัทจดทะเบียนเหล่านี้ ซึ่งจะตรงข้ามกับราคาหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย เพราะประเทศไทยเคยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจไปแล้วเมื่อปี 2540 ทำให้มีประสบการณ์ และราคาหุ้นและโครงสร้างการดำเนินธุรกิจมีความแข็งแกร่ง และน่าเชื่อถือมากกว่า

ส่วน กรณีเข้าบริหารเงินประมาณ 100 ล้านบาทจาก APF International Insurance ซึ่งเป็นบริษัทประกันในเครือ A.P.F Group กลุ่มทุนจากญี่ปุ่นด้วยกันนั้น ทางบลจ.ยูไนเต็ดคาดว่าเรื่องดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ เพราะได้ผ่านการพิจารณาและตรวจสอบจนเป็นที่เรียกร้อยแล้ว เหลือเพียงรอการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เท่านั้น

ก่อนหน้านี้ นายวีระเจตน์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ยูไนเต็ด ได้ให้ความเห็นถึงการเซ็นสัญญากับพันธมิตรใหม่คือ Corevarian ว่า เป็นบริษัทฯจากทางตะวันออกกลางที่จะคอยให้ความช่วยเหลือในการแนะนำลูกค้าจากทางตะวันออกมาให้บริษัทช่วยบริหารเงินลงทุนลักษณะ Private Fund เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้มีเงิน US มากจากการขายน้ำมัน ปิโตรเคมี และในเร็ว ๆ นี้บริษัทมีแผนที่จะออกไปโรดโชว์ที่ตะวันออกกลาง โดยคาดว่าเม็ดเงินลงทุนจะเข้ามาใน 1-2 เดือนนับจากนี้

โดยในสิ้นปีนี้ บลจ.ยูไนเต็ด คาดว่าจะมีเม็ดเงิน Private Fund ประมาณ 500 ล้านบาท จากขณะนี้ที่มีเม็ดเงินบริหารจำนวน 60 ล้านบาท ซึ่งบริษัทกำลังดีลกับ APF International Insurance คาดว่าจะได้เม็ดเงินมาบริหารอีก 100 ล้านบาท และยังกำลังเจรจากับบริษัทประกันอีก 2 ราย ส่วนปีหน้า บริษัทตั้งเป้าเม็ดเงิน Private Fund ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น