เป็นที่แน่นอนแล้วว่า บารัค โอบามา ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต สามารถเอาชนะ จอห์น แมคเคน ผู้สมัครจากรีพับลิกัน ในการชิงตำแห่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...ซึ่งหลังจากปิดหีบเลือกตั้ง ปรากฏว่า "โอบามา" ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนขาดลอย และขึ้นเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ ในที่สุด
ซึ่งหลังจากชัดเจนแล้วว่า เขาได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ "โอบามา" ก็ออกมา กล่าวต่อหน้าผู้สนับสนุนกว่า 65,000 คนว่า “เป็นเวลานานกว่าจะมาถึง แต่คืนนี้ เพราะสิ่งที่เราทำในวันนี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ณ ช่วงเวลาที่แน่นอนนี้ การเปลี่ยนแปลงกำลังมาสู่อเมริกาแล้ว”
ถึงแม้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่เกี่ยวกับคนไทย แต่ในแง่ของเศรษฐกิจ มีความเกี่ยวข้องกันโดยตรง...ล่าสุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกมาระบุว่า นโยบายเศรษฐกิจของโอบามา กีดกันการค้ามากกว่า แมคเคน ทำให้คาดการณ์ว่า การส่งออกไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจาก ความต้องการสินค้านำเข้าของสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยจากต่างประเทศรวมทั้ง ไทย น่าจะปรับตัวลงตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐ ที่ยังเผชิญกับปัจจัยลบ ดังนั้น การส่งออกของไทยอาจได้รับผลกระทบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ในทางกลับกัน "ณรงค์ชัย อัครเศรณี" ประธานกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK ) กล่าวว่า การชนะเลือกตั้งของบารัก โอบามา จะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยมากนัก และเชื่อว่า นโยบายของสหรัฐฯ ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง แต่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศในแถบเอเชียดีขึ้น
ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (5 พ.ย.) ปิดตลาดดัชนีปรับลงไปเล็กน้อย 0.26 จุดมาอยู่ที่ระดับดัชนี 457.36 จุดด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19,131 ล้านบาท...โดยการซื้อขายหุ้นวานนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 478.68 จุด จากนั้นช่วงบ่ายดัชนีค่อยๆ อ่อนตัวลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบ ดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 453.94 จุด
ทั้งนี้ เนื่องจากมีแรงเทขายออกมา หลังรับรู้ปัจจัยไปค่อนข้างมาก ทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยโลก ภาวะเงินเฟ้อ แรงซื้อต่างชาติ และเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อีกทั้งตลาดขึ้นมาเกือบ 100 จุด ขึ้นมาค่อนข้างแรงทำให้เกิดแรงขายระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยง ดังนั้น นักวิเคราะห์จึงมีการคาดการณ์ว่า...วันนี้ (6พ.ย.) โอกาสเกิดแรงขายเป็นไปได้ ซึ่งทางเทคนิคมีโอกาสที่ดัชนีจะลงมาแถวระดับ 450 และ 430 จุด แนวต้าน 480 จุด
วานนี้ "ต้นกล้า"ได้มีโอกาสพบกับ พี่ไก่..ธีรพันธุ์ จิตตาลาน เอ็มดีคนใหม่แห่งนครหลวงไทย ที่ใจดีเปิดบ้านต้อนรับทีมงานที่มาเยี่ยมเยือน โดยรวมแล้วพี่ไก่รู้สึกภูมิใจกับบ้านหลังใหม่นี้มาก โดยเฉพาะ คอนเซ็ปต์ SCIB Familly ที่ตรงกับตัวพี่ไก่เองซึ่งเป็นคนรักครอบครัว (Familly Man) งานนี้สงสัยหลังจากปรับโครงสร้างองค์กรแล้วเสร็จ ปีหน้าฟ้าใหม่ใครจะมองข้ามบลจ.นครหลวงไทยไปไม่ได้ โดยเฉพาะในส่วนกองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวต ฟันด์) เพราะมีมือชั้นเซียนระดับอุปนายกสมาคมมานั่งกุมบังเหียน เช่นนี้น่าจะทำให้ค่ายนี้มีสีสันไม่น้อยหน้าใคร
ส่วนกองทุนรวมทั่วไปก็ไม่ต้องน้อยใจ เพราะเอ็มดีใหม่ แย้มเอาไว้ว่ามีแผนเด็ดไว้มัดใจนักลงทุนช่วงตลาดผันผวนไว้แล้ว หลังจากล่าสุดสั่งทีมงานปูพรมเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ทุกสัปดาห์ เพื่อรองรับความต้องการที่ยังมีอยู่สูง
สำนักงาน ก.ล.ต.ฝากข่าวประชาสัมพันธ์งานสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนในหัวข้อ“พลิกวิกฤตเป็นโอกาส..ต้องฉลาดลงทุน” โดย การสัมมนาดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป เพื่อให้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนการลงทุน รวมถึงช่องทางการลงทุนในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด...ซึ่งงานนี้ จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา 09.00-12.00 น. ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย...สำหรับผู้สนใจ สามารถเข้าร่วมงานสัมมนาในวันและเวลาดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย...ต้นกล้า
ซึ่งหลังจากชัดเจนแล้วว่า เขาได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ "โอบามา" ก็ออกมา กล่าวต่อหน้าผู้สนับสนุนกว่า 65,000 คนว่า “เป็นเวลานานกว่าจะมาถึง แต่คืนนี้ เพราะสิ่งที่เราทำในวันนี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ณ ช่วงเวลาที่แน่นอนนี้ การเปลี่ยนแปลงกำลังมาสู่อเมริกาแล้ว”
ถึงแม้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่เกี่ยวกับคนไทย แต่ในแง่ของเศรษฐกิจ มีความเกี่ยวข้องกันโดยตรง...ล่าสุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยออกมาระบุว่า นโยบายเศรษฐกิจของโอบามา กีดกันการค้ามากกว่า แมคเคน ทำให้คาดการณ์ว่า การส่งออกไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจาก ความต้องการสินค้านำเข้าของสหรัฐ โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยจากต่างประเทศรวมทั้ง ไทย น่าจะปรับตัวลงตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐ ที่ยังเผชิญกับปัจจัยลบ ดังนั้น การส่งออกของไทยอาจได้รับผลกระทบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ในทางกลับกัน "ณรงค์ชัย อัครเศรณี" ประธานกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK ) กล่าวว่า การชนะเลือกตั้งของบารัก โอบามา จะไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทยมากนัก และเชื่อว่า นโยบายของสหรัฐฯ ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง แต่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศในแถบเอเชียดีขึ้น
ส่วนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ (5 พ.ย.) ปิดตลาดดัชนีปรับลงไปเล็กน้อย 0.26 จุดมาอยู่ที่ระดับดัชนี 457.36 จุดด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19,131 ล้านบาท...โดยการซื้อขายหุ้นวานนี้ ช่วงเช้าดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 478.68 จุด จากนั้นช่วงบ่ายดัชนีค่อยๆ อ่อนตัวลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบ ดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 453.94 จุด
ทั้งนี้ เนื่องจากมีแรงเทขายออกมา หลังรับรู้ปัจจัยไปค่อนข้างมาก ทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยโลก ภาวะเงินเฟ้อ แรงซื้อต่างชาติ และเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อีกทั้งตลาดขึ้นมาเกือบ 100 จุด ขึ้นมาค่อนข้างแรงทำให้เกิดแรงขายระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยง ดังนั้น นักวิเคราะห์จึงมีการคาดการณ์ว่า...วันนี้ (6พ.ย.) โอกาสเกิดแรงขายเป็นไปได้ ซึ่งทางเทคนิคมีโอกาสที่ดัชนีจะลงมาแถวระดับ 450 และ 430 จุด แนวต้าน 480 จุด
วานนี้ "ต้นกล้า"ได้มีโอกาสพบกับ พี่ไก่..ธีรพันธุ์ จิตตาลาน เอ็มดีคนใหม่แห่งนครหลวงไทย ที่ใจดีเปิดบ้านต้อนรับทีมงานที่มาเยี่ยมเยือน โดยรวมแล้วพี่ไก่รู้สึกภูมิใจกับบ้านหลังใหม่นี้มาก โดยเฉพาะ คอนเซ็ปต์ SCIB Familly ที่ตรงกับตัวพี่ไก่เองซึ่งเป็นคนรักครอบครัว (Familly Man) งานนี้สงสัยหลังจากปรับโครงสร้างองค์กรแล้วเสร็จ ปีหน้าฟ้าใหม่ใครจะมองข้ามบลจ.นครหลวงไทยไปไม่ได้ โดยเฉพาะในส่วนกองทุนส่วนบุคคล (ไพรเวต ฟันด์) เพราะมีมือชั้นเซียนระดับอุปนายกสมาคมมานั่งกุมบังเหียน เช่นนี้น่าจะทำให้ค่ายนี้มีสีสันไม่น้อยหน้าใคร
ส่วนกองทุนรวมทั่วไปก็ไม่ต้องน้อยใจ เพราะเอ็มดีใหม่ แย้มเอาไว้ว่ามีแผนเด็ดไว้มัดใจนักลงทุนช่วงตลาดผันผวนไว้แล้ว หลังจากล่าสุดสั่งทีมงานปูพรมเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ทุกสัปดาห์ เพื่อรองรับความต้องการที่ยังมีอยู่สูง
สำนักงาน ก.ล.ต.ฝากข่าวประชาสัมพันธ์งานสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนในหัวข้อ“พลิกวิกฤตเป็นโอกาส..ต้องฉลาดลงทุน” โดย การสัมมนาดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป เพื่อให้เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการวางแผนการลงทุน รวมถึงช่องทางการลงทุนในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด...ซึ่งงานนี้ จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา 09.00-12.00 น. ณ หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย...สำหรับผู้สนใจ สามารถเข้าร่วมงานสัมมนาในวันและเวลาดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย...ต้นกล้า