xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด“อีลิท”งง“สุรพงษ์”หมกเม็ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน – “สุรพงษ์” หมกเม็ด เสนอบอร์ด โยกเงินอีลิทแค่ฝากแบงก์กินดอกเบี้ยสูง ทั้งที่เตรียมลงทุนในตราสารหนี้หรือพันธบัตร ผ่าน บลจ.ด้วย ขณะที่ แหล่งข่าว ระบุ ไม่มีการเสนอบอร์ดในประเด็นจะนำเงินไปลงทุนในพันธบัตร แนะเศรษฐกิจผันผวนควรเก็บเงินสดไว้เพื่อรักษาสภาพคล่อง เหตุมีลูกค้าต้องดูแลระยะยาวถึง 30 ปี  
นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย  ประธานกรรมการบริหาร และ รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด(ทีพีซี) เปิดเผยว่า บริษัทฯยืนยันต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด) ว่า จะนำเงินของบริษัทครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 350 ล้านบาท  ไปลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารหรือเรียกว่า แคช แมเนจเม้นท์ โดยจะเลือกลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น การซื้อตราสารหนี้ หรือพันธบัตร ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยจะมอบให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) เป็นผู้บริหารจัดการ
ทั้งนี้จากข้อมูลดังกล่าว  แหล่งข่าวจากบริษัท ทีพีซี  กล่าวว่า  ททท. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น 100% ไม่ต้องการให้นำเงินไปลงทุนระยะยาว เนื่องจากบริษัทฯมีเงินสดจำนวนไม่มากนักเพียง 600-700 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องสำรองกระแสเงินสดให้มีสภาพคล่องตลอดเวลา เพราะสัญญาที่ทีพีซี ทำไว้กับสมาชิก ว่าจะให้บริการตลอดชีพ หรือ ขั้นต่ำ 30 ปี  ดังนั้น การฝากธนาคาร แม้จะได้อัตราดอกเบี้ยน้อยแต่ก็ไม่เกิดความเสี่ยงเท่ากับการนำเงินไปลงทุนในรูปแบบอื่น
คณะผู้บริหาร ทีพีซี เสนอในที่ประชุมบอร์ด  เพียงว่า จะนำเงินไปฝากธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง หมุนเวียนไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้เสนอในประเด็นที่จะนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ หรือพันธบัตรระยะสั้นแต่อย่างใด  ซึ่งในสถานการณ์การเงินที่ผันผวนอยู่ในขณะนี้มองว่า การฝากธนาคารจะมีความเสี่ยงน้อยที่สุดและจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่สมควรที่จะไปลงทุนด้านอื่น อย่างน้อยก็ต้องฝากธนาคารไว้ตลอดปี 2552
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมบอร์ดค่อนข้างเห็นด้วย กับการปลดล็อกกฏการแลกเปลี่ยนเงิน ที่ไม่ต้องรอเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ด แต่ให้รอดูจังหวะที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถแลกเงินสกุลต่างประเทศกลับคืนมาเป็นเงินไทยได้มากที่สุด
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า โครงการ “จำใจจาก” หรือ เออรี่รีไทร์ ที่ทีพีซีจัดขึ้น เพื่อปรับโครงสร้างองค์กร  มีพนักงานเข้าร่วมโครงการ 23 คน แบ่งเป็นระดับผู้บริหาร 8 คน  และระดับพนักงานอีก 15 คน  ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่ต้องการพนักงานเข้าร่วมโครงการประมาณ 10 กว่าคน  ทำให้ต้องขออนุมัติบอร์ดขอเงินจ่ายชดเชยพนักงานเพิ่มเป็น  15 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมคาดว่าจะใช้เพียง 9 ล้านบาท  แต่การเข้าร่วมโครงการครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับพนักงานได้ปีละ 20 ล้านบาท  แต่ก็ยอมรับว่า พนักงานที่ลาออกจำนวนมากอาจกระทบกับการทำงาน จึงต้องมีการปรับโครงสร้างองค์กรอีกครั้ง ก่อนเปิดรับสมัครพนักงานใหม่มาแทนคนเก่าอีก 5-6 คน
อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้า การสรรหาผู้จัดการใหญ่ บริษัทฯแทนนายรพี ม่วงนนท์ ที่ลาออกไปแล้วนั้น ล่าสุด บอร์ด มีมติตั้งคณะกรรมการสรรหาแล้ว โดยมี นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวเป็นประธาน คาดว่า จะสามารถคัดเลือก ผู้จัดการใหญ่คนใหม่ได้แล้วเสร็จภายในต้นปีหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น