xs
xsm
sm
md
lg

"ฟิลลิปผสมเพื่อการเลี้ยงชีพ" ถือยาวอุ่นใจผลตอบแทนโตตามตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"การลงทุนใน PMIXRMF เป็นการลงทุนระยะยาว สามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนได้ตลอดเวลา ซึ่งในส่วนของการลงทุนในหุ้นเอง บริษัทมองว่าน่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ และการที่กองทุนต้องถือไปจนกว่าจะครบอายุ 55 ปีบริบูรณ์ จึงจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ ทำให้เป็นการออมเงินเพื่อใช้จ่ายยามเกษียณได้ดี"


ผ่านมา 10 เดือนใกล้จะถึงปลายปีกันแล้ว ตอนนี้ใครหลายคนคงกำลังเตรียมเงินลงทุนเพื่อหาจังหวะเข้าซื้อหน่วยของกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หวังใช้เป็นหนทางในการแสวงหาผลตอบแทนระยะยาวและใช้เป็นหนทางในการลดหย่อนภาษีกันยกใหญ่ แน่นอนว่าเป็นโอกาสทองสำหรับเหล่าบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) ทั้งหลายที่จะงัดโปรโมชันกระตุ้นการลงทุนเช่นเดียวกัน

ตอนนี้มองไปมองมาในอุตสาหกรรมกองทุนรวมจะพบได้ว่ากองทุน LTF และ RMF ของไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนโยบายการลงทุนก็เริ่มแปลกใหม่ มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทุกประเภท ดังนั้นวันนี้คอลัมน์ “MutualFund IPO” ขอแนะนำ "กองทุนเปิดฟิลลิปผสมเพื่อการเลี้ยงชีพ (PMIXRMF)" ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพน้องใหม่ที่ผสมผสานการลงทุนทั้งในส่วนของตราสารหนี้และตราสารทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อจับความต้องการของนักลงทุนที่อยากได้ผลตอบแทนสูง แต่ไม่อยากรับความเสี่ยงมาก ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.ฟิลลิป จำกัดโดยกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่มีนโยบายลงทุนแบบผสม ทั้งในตลาดตราสารทุนและตลาดพันธบัตร กำหนดเสนอขายขั้นต่ำ 5,000 บาท และจะเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกในวันที่ 27 ตุลาคม 2551 ถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2551

ทั้งนี้กองทุนเปิดฟิลลิปผสมเพื่อการเลี้ยงชีพมีนโยบายการลงทุนแบบผสม (Mixed Fund) ระหว่างตราสารหนี้ และตราสารทุนโดยกองทุนจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝาก ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารแห่งทุน รวมถึงหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่น สำหรับสัดส่วนการลงทุนจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัทจัดการตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ขณะที่กองทุนจะลงทุนในตราสารทุน และ/หรือ ตราสารแห่งหนี้ และ/หรือ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนที่มีความมั่นคงและมีพื้นฐานดี โดยเน้นความมั่นคงของผู้ออกตราสารเป็นหลัก และกองทุนอาจมีการลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่เสนอขายในต่างประเทศ
นอกจากนี้กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนด และกองทุนจะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)

วรรธนะ วงศ์สีนิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟิลลิป จำกัด แนะนำกองทุนน้องใหม่ของบริษัทกองนี้ว่า ช่วงแรกกองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลก่อน เนื่องจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ปัจจุบันมีความเสี่ยงและความผันผวนค่อนข้างสูง อีกทั้งยังจับทิศทางการลงทุนได้ยาก ประกอบกับมองว่าราคาหุ้นยังสามารถที่จะปรับตัวลดลงไปได้อีกจากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ขณะเดียวกันราคาหุ้นที่ปรากฎอยู่ ยังไม่สามารถมองหาจุดต่ำของราคาได้

ขณะที่สถานการณ์ความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติภาคสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาที่ขยายวงเข้าสู่ทวีปยุโรป ผนวกกับทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาลง จากการที่นานาประเทศต้องประคับประคองเศรษฐกิจ ทำให้การลงทุนในกองทุนเปิดฟิลลิปผสมเพื่อการเลี้ยงชีพที่ผสมผสานระหว่างการลงทุนในตราสารหนี้กับตราสารทุน ภายใต้การบริหารจัดการและดูแลอย่างใกล้ชิดของผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ จะเป็นทางเลือกที่หลากหลายสำหรับนักลงทุน

ขณะเดียวกันการลงทุนในกองทุนเปิดฟิลลิปผสมเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นการลงทุนระยะยาว จึงทำให้สามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนได้ตลอดเวลา ซึ่งในส่วนของการลงทุนในหุ้นเอง บริษัทมองว่าน่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ และการที่กองทุนต้องถือไปจนกว่าจะครบอายุ 55 ปีบริบูรณ์ จึงจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ ทำให้เป็นการออมเงินเพื่อใช้จ่ายยามเกษียณได้ดี ขณะเดียวกันยังได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และปลูกฝังนิสัยรักการออมให้กับนักลงทุนด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

“เราเชื่อมั่นว่า กองทุนดังกล่าวจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เนื่องจากในขณะนี้รัฐบาลได้นำเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงมาตรการเกี่ยวกับการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษีของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพหรือ RMF ที่เตรียมขยายวงเงินลงทุนจาก 5 แสนบาทเป็น 7 แสนบาท น่าจะกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ประกอบกับในช่วงปลายปีเช่นนี้ จะเป็นช่วงที่นักลงทุนนิยมเข้ามาลงทุนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในโค้งสุดท้าย” นายวรรธนะกล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจกองทุนดังกล่าวสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-635-3033
กำลังโหลดความคิดเห็น