เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ก็อยากอวยพรให้มีแต่เรื่องดีเกิดขึ้น ทั้งเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุนภายในประเทศ หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องเผชิญกับภาวะเทขายของต่างชาติ และผลกระทบของเศรษฐทั่วโลกกระหน่ำซ้ำจนบอบช้ำ แต่คงจะเป็นไปไม่ได้ในระยะสั้น ยังไงก็ขอให้เห็นสัญญาณอะไรดีบ่งบอกบ้างแล้วกัน
ส่วนที่ต้องจับตาในช่วงนี้เห็นจะเป็นเรื่องการปรับลด การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ ซึ่งหลายสำนักฟันธงเอาไว้ว่า น่าจะมีความโน้มเอียงในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น Fed Funds ลงอีกร้อยละ 0.25-0.50 จากร้อยละ 1.50 มาที่ร้อยละ 1.00-1.25 เนื่องจากเชื่อว่า ถึงแม้สภาวะตลาดเงินจะเริ่มทยอยปรับตัวดีขึ้นในระยะสั้น แต่สถานะทางด้านเครดิตที่ยังมีปัญหาและคงต้องใช้เวลาในการเยียวยาอีกยาวนาน น่าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดยังมีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินและใช้เครื่องมือทางการเงินที่มีอยู่ไปในเชิงที่ผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจการเงินในภาพรวมให้คืนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว...แหมไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน แต่เชื่อว่าบรรยากาศ และความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนในการแก้ปัญหาคงจะดีขึ้นไม่มากก็น้อยละน่า สู้โว้ยๆๆๆ
หันมาดูเรื่องราคาน้ำมันกันบ้าง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก จนทำให้ประเทศในกลุ่มโอเปกต้องประกาศลดกำลังการผลิตลงอีก 1.5 ล้านบาเรลล์ แต่เชื่อว่าดีมานด์ในช่วงฤดูหนาวนั้น จะเป็นตัวกระตุ้นให้ราคาของมันปรับตัวขึ้นได้อีกเล็กน้อย โดยช่วงนี้มีการแนะนำให้ลงทุนเกี่ยวกับน้ำมันในระยะสั้นเช่นกัน ส่วนจะดีไม่ดีอย่างไรนั้น คุณวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ บอกว่า คงจะแหล่มแน่ๆ คับพี่น้อง
หันมาดูตลาดหุ้นกันบ้าง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปิดตลาดที่ 432.87 จุด ลดลง 32.37 จุด หรือ 6.96% และคิดเป็นการลดลงจากดัชนีเปิดต้นสัปดาห์ที่ 471.31 จุด จำนวน 38.44 จุด หรือ 8.15% การซื้อขายรวมตลอดสัปดาห์มีมูลค่า 41,896.37 ล้านบาท โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 486 จุด ในวันที่ 21 ต.ค.51 และทำจุดต่ำสุดที่ 426.52 จุดในวันสุดท้ายของสัปดาห์ (24 ต.ค.51) เห็นความผันผวนแบบนี้แล้ว คงจะคิดหนักเอาการ แต่ถ้าพอรับได้แล้ว หลายคนฟันธงว่าระยะยาวหุ้นไทยจะปรับตัวดีขึ้นอย่างแน่นอน...ลุ้นกันต่อไป
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าสัปดาห์นี้คงต้องจับตามองไปที่การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ว่าจะส่งผลกระทบต่อดัชนีดาวน์โจนส์เพียงใด เพราะตลาดหุ้นไทยคงจะหนีผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวไม่พ้น
ดูแล้วเหมือนจะมีเรื่องให้ต้องกังวลมากเหลือเกิน แต่อย่าลืมว่าท่ามกลางวิกฤตยอมมีโอกาส สำหรับนักแสวงหาทุกท่าน เพียงแต่ต้องระมัดระวังก่อนถึงเส้นชัยเท่านั้นเอง... ฝากไว้หน่อยแล้วกัน
ปิดท้ายกับงานดีๆ ที่นำมาฝากกันเช่นเคยกับการอบรมการซื้อขายอนุพันธ์ทางอินเทอร์เน็ต โดย บล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ที่ห้องคอมพิวเตอร์ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในเวลา 12.30-16.30 น. งานนี้เข้าเน้นอบรมเชิงปฏิบัติการโดยวิทยากรจากโบรกเกอร์ และเปิดโอกาศให้ผู้เรียนทดลองหัดใช้ระบบจริง กับเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 20 เครื่อง รองรับได้เต็มที่ 40 ท่าน (2 คนต่อ 1 เครื่อง) เลยทีเดียว แต่ที่ดีเห็นจะเป็นค่าใช้จ่ายแค่ 100 บาท และเมื่อหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศล ส่วนใครสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บล.บัวหลวง โทร. 02-231-3777 ต่อ 1042...ต้นกล้า
ส่วนที่ต้องจับตาในช่วงนี้เห็นจะเป็นเรื่องการปรับลด การประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ต.ค.นี้ ซึ่งหลายสำนักฟันธงเอาไว้ว่า น่าจะมีความโน้มเอียงในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น Fed Funds ลงอีกร้อยละ 0.25-0.50 จากร้อยละ 1.50 มาที่ร้อยละ 1.00-1.25 เนื่องจากเชื่อว่า ถึงแม้สภาวะตลาดเงินจะเริ่มทยอยปรับตัวดีขึ้นในระยะสั้น แต่สถานะทางด้านเครดิตที่ยังมีปัญหาและคงต้องใช้เวลาในการเยียวยาอีกยาวนาน น่าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดยังมีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินและใช้เครื่องมือทางการเงินที่มีอยู่ไปในเชิงที่ผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจการเงินในภาพรวมให้คืนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว...แหมไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยได้มากน้อยขนาดไหน แต่เชื่อว่าบรรยากาศ และความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนในการแก้ปัญหาคงจะดีขึ้นไม่มากก็น้อยละน่า สู้โว้ยๆๆๆ
หันมาดูเรื่องราคาน้ำมันกันบ้าง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก จนทำให้ประเทศในกลุ่มโอเปกต้องประกาศลดกำลังการผลิตลงอีก 1.5 ล้านบาเรลล์ แต่เชื่อว่าดีมานด์ในช่วงฤดูหนาวนั้น จะเป็นตัวกระตุ้นให้ราคาของมันปรับตัวขึ้นได้อีกเล็กน้อย โดยช่วงนี้มีการแนะนำให้ลงทุนเกี่ยวกับน้ำมันในระยะสั้นเช่นกัน ส่วนจะดีไม่ดีอย่างไรนั้น คุณวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ บอกว่า คงจะแหล่มแน่ๆ คับพี่น้อง
หันมาดูตลาดหุ้นกันบ้าง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปิดตลาดที่ 432.87 จุด ลดลง 32.37 จุด หรือ 6.96% และคิดเป็นการลดลงจากดัชนีเปิดต้นสัปดาห์ที่ 471.31 จุด จำนวน 38.44 จุด หรือ 8.15% การซื้อขายรวมตลอดสัปดาห์มีมูลค่า 41,896.37 ล้านบาท โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ 486 จุด ในวันที่ 21 ต.ค.51 และทำจุดต่ำสุดที่ 426.52 จุดในวันสุดท้ายของสัปดาห์ (24 ต.ค.51) เห็นความผันผวนแบบนี้แล้ว คงจะคิดหนักเอาการ แต่ถ้าพอรับได้แล้ว หลายคนฟันธงว่าระยะยาวหุ้นไทยจะปรับตัวดีขึ้นอย่างแน่นอน...ลุ้นกันต่อไป
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าสัปดาห์นี้คงต้องจับตามองไปที่การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ว่าจะส่งผลกระทบต่อดัชนีดาวน์โจนส์เพียงใด เพราะตลาดหุ้นไทยคงจะหนีผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวไม่พ้น
ดูแล้วเหมือนจะมีเรื่องให้ต้องกังวลมากเหลือเกิน แต่อย่าลืมว่าท่ามกลางวิกฤตยอมมีโอกาส สำหรับนักแสวงหาทุกท่าน เพียงแต่ต้องระมัดระวังก่อนถึงเส้นชัยเท่านั้นเอง... ฝากไว้หน่อยแล้วกัน
ปิดท้ายกับงานดีๆ ที่นำมาฝากกันเช่นเคยกับการอบรมการซื้อขายอนุพันธ์ทางอินเทอร์เน็ต โดย บล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ที่ห้องคอมพิวเตอร์ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในเวลา 12.30-16.30 น. งานนี้เข้าเน้นอบรมเชิงปฏิบัติการโดยวิทยากรจากโบรกเกอร์ และเปิดโอกาศให้ผู้เรียนทดลองหัดใช้ระบบจริง กับเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 20 เครื่อง รองรับได้เต็มที่ 40 ท่าน (2 คนต่อ 1 เครื่อง) เลยทีเดียว แต่ที่ดีเห็นจะเป็นค่าใช้จ่ายแค่ 100 บาท และเมื่อหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศล ส่วนใครสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บล.บัวหลวง โทร. 02-231-3777 ต่อ 1042...ต้นกล้า