ผู้จัดการกองทุนเชื่อราคาน้ำมันมีสิทธิพุ่งอีกรอบถ้าโอเปกปรับลดเพดานการผลิต แต่แนะนักลงทุนจับจังหวะลงทุนหุ้นพลังงานระยะสั้นดีกว่าระยะยาว เหตุวิกฤตเศรษฐกิจกดดันดีมานด์ปริมาณการใช้พลังงาน ชี้ตอนนี้ราคาน้ำมันลดเพราะดอลลาร์แข็ง คาดปีหน้าเศรษฐกิจโลกถดถอยฉุดการใช้พลังงานชะลอตามไปด้วย
นายวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันที่หลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยส่วนตัวมองว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมานั้น จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก แต่จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึง 145 ดอลลาร์ต่อบาเรลหรือไม่ คงจะเป็นไปได้ยากมาก เนื่องจาก อะไรก็ตามที่ราคาตกเร็ว ก็มักจะรีบาวนด์ขึ้นมาได้ทุกชนิด ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากราคาน้ำมันที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้ แต่หากจะมองว่าโอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นมาในช่วงไหนนั้น หลายๆฝ่ายก็คงจะตอบไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลา
" หากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ กลุ่มโอเปก มีการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมัน เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับตัวลดลงไปอีกในตลาดโลกนั้น ทั้งนี้จะส่งผลดีต่อราคาน้ำมันในตลาดอย่างแน่นอน แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปอยู่ที่ 100-110 ดอลลาร์ต่อบาเรลภายในสิ้นปีนี้ ส่วนความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 40 เหรียญต่อบาเบล โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นมีน้อยมาก อีกทั้ง แนวโน้มราคาน้ำมันในขณะนี้จะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว"นายวิชชุ กล่าว
ขณะเดียวกันเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาวิกฤตทางการเงิน ส่งผลให้เศรษฐกิจปีหน้าของสหรัฐอเมริกาอยู่ในภาวะถดถอย ทำให้กิจกรรมที่จะต้องใช้น้ำมันลดน้อยลงไปด้วย ดังนั้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานบริษัทมองว่าหากเป็นการลงทุนในระยะเวลาสั้นนั้นยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ แต่หากมองในระยะยาวนั้น โอกาสที่ราคาน้ำมันจะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนนั้นจำเป็นที่จะต้องติดตามสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด เพราะราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้น ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก หากเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะถดถอยจะส่งผลให้กิจกรรมการผลิตที่ต้องอาศัยน้ำมันก็น้อยลงไปนั้นเอง
อย่างไรก็ตาม หากโอเปกมีการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมัน กลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมันอย่างโอเปก อย่างเช่น ประเทศรัสเซีย อาจจะเป็นโอกาสอันดีในการทำกำไร โดยเร่งการผลิตน้ำมันเพื่อขายให้กับประเทศที่รับซื้อน้ำมัน แทนที่การผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกก็เป็นไปได้
ในส่วนของ อัตราการแลกเปลี่ยนสกุลดอลลาร์สหรัฐกับแนวโน้มราคาน้ำมัน หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันนี้ ค่าเงินดอลลาร์มีการแข็งค่าขึ้นทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง แต่ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นเท่านั้น สาเหตุเนื่องมาจากขณะนี้สหรัฐอเมริกาได้เกิดวิกฤตการทางการเงินทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างเทขายหุ้น แล้วนำเงินสดกลับเข้าประเทศเพื่อช่วงเพิ่มสภาพคล่องให้กับประเทศของตนเอง หรือเพื่อระดมทุนไปช่วยพยุงธุรกิจการเงินของสหรัฐฯจึงทำให้ค่าเงินสหรัฐฯแข็งค่าขึ้น และส่งผลให้ราคาน้ำมันสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้น การลงทุนในระยะยาวจึงจำเป็นที่จะต้องดูสถานะการอีกครั้ง เนื่องจากปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ในภาวะถดถอย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว โอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไปได้สูง
ด้าน นาย อนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. บีที กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่โอเปก ปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันลง เนื่องมาจากราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มโอเปกต้องการที่จะพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับลดราคาลง จนขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 70 ดอลลาร์ต่อบาเรล โดยในส่วนของแนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงที่เหลืออยู่นั้นไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้อย่างแน่นอน จากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และหากกลุ่มโอเปกมีการปรับลดกำลังการผลิตจะส่งผลให้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน หากโอเปกมีการลดเพดานการผลิตลง ในส่วนของประเทศส่งออกน้ำมันที่นอกเหนือจากกลุ่มโอเปกจะได้รับอานิสงส์จากเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้มีการเจรจารเพื่อหาข้อสรุปในการลดเพดานการผลิต โดยหากกลุ่มโอเปกลดเพดานการผลิตแต่กลุ่มประเทศที่นอกเหนือจากกลุ่มโอเปกไม่ลดกำลังการผลิตตามไปด้วยก็จะไม่ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีการรักษาราคาน้ำมันไม่ให้ปรับตัวลดลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะถดถอยทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดน้อยลงไปด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องรักษาราคาน้ำมันไม่ให้ลดลงไปมากว่านี้ หรือเป็นการลดอุปทานให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นกลุ่มโอเปกและกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันควรที่จะมีความเหนียวแน่น ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
นอกจากนี้ ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์ ส่วนหนึ่งนั้นมาจากทางด้านเทคนิค โดนค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่ามาก เนื่องมาจากสหรับอเมริกากำลังเกิดปัญหาวิกฤตการเงิน ทำให้นักลงทุนเกิดการเทขายหุ้น เพื่อให้มีเงินสดเพิ่มขึ้น อีกทั้งการถือครองเงินสกุลดอลลาร์นั้นถือว่าเป็นค่าเงินที่มีสภาพคล่องและมีความต้องการจากนักลงทุนสูง อีกนอกจากนี้ได้รับอนิสงส์จากตลาดโลกด้วย ซึ่งค่าเงินที่นักลงทุนนิยมถือกันส่วนใหญ่คือ ค่าเงินดอลลาร์ และค่าเงินเยน ดังนั้น หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงผู้ส่งออกน้ำมันจะปรับเพิ่มราคาน้ำมันในตลาด และในทางกลับกัน หากค่าเงินดอลลาร์มีการแข็งค่าขึ้นราคาน้ำมันก็จะปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน แต่ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มหรือลดในช่วงค่าเงินดอลลาร์แข็งค่านั้นขึ้นอยู่กับประเทศผู้ส่งออกจะเลือกปรับลดราคาน้ำมันหรือไม่
"สำหรับแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์จะมีการแข็งค่าขึ้นในช่วงสั้นๆเนื่องมาจากการลงทุน แต่สำหรับระยะกลางและระยะยาวค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง เพื่อสะท้อนสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ โดยในปีหน้านี้สภาพเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะถดถอย อีกทั้งสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาจึงเป็นไปไม่ได้ที่ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าในระยะยาว"นายอนุสรณ์กล่าว
นายวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันที่หลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยส่วนตัวมองว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมานั้น จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก แต่จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจนถึง 145 ดอลลาร์ต่อบาเรลหรือไม่ คงจะเป็นไปได้ยากมาก เนื่องจาก อะไรก็ตามที่ราคาตกเร็ว ก็มักจะรีบาวนด์ขึ้นมาได้ทุกชนิด ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากราคาน้ำมันที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้ แต่หากจะมองว่าโอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นมาในช่วงไหนนั้น หลายๆฝ่ายก็คงจะตอบไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับระยะเวลา
" หากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ กลุ่มโอเปก มีการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมัน เพื่อช่วยพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับตัวลดลงไปอีกในตลาดโลกนั้น ทั้งนี้จะส่งผลดีต่อราคาน้ำมันในตลาดอย่างแน่นอน แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปอยู่ที่ 100-110 ดอลลาร์ต่อบาเรลภายในสิ้นปีนี้ ส่วนความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 40 เหรียญต่อบาเบล โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นมีน้อยมาก อีกทั้ง แนวโน้มราคาน้ำมันในขณะนี้จะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว"นายวิชชุ กล่าว
ขณะเดียวกันเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาวิกฤตทางการเงิน ส่งผลให้เศรษฐกิจปีหน้าของสหรัฐอเมริกาอยู่ในภาวะถดถอย ทำให้กิจกรรมที่จะต้องใช้น้ำมันลดน้อยลงไปด้วย ดังนั้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานบริษัทมองว่าหากเป็นการลงทุนในระยะเวลาสั้นนั้นยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ แต่หากมองในระยะยาวนั้น โอกาสที่ราคาน้ำมันจะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนนั้นจำเป็นที่จะต้องติดตามสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด เพราะราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้น ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก หากเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะถดถอยจะส่งผลให้กิจกรรมการผลิตที่ต้องอาศัยน้ำมันก็น้อยลงไปนั้นเอง
อย่างไรก็ตาม หากโอเปกมีการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมัน กลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมันอย่างโอเปก อย่างเช่น ประเทศรัสเซีย อาจจะเป็นโอกาสอันดีในการทำกำไร โดยเร่งการผลิตน้ำมันเพื่อขายให้กับประเทศที่รับซื้อน้ำมัน แทนที่การผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกก็เป็นไปได้
ในส่วนของ อัตราการแลกเปลี่ยนสกุลดอลลาร์สหรัฐกับแนวโน้มราคาน้ำมัน หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงจะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ปัจจุบันนี้ ค่าเงินดอลลาร์มีการแข็งค่าขึ้นทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง แต่ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นเท่านั้น สาเหตุเนื่องมาจากขณะนี้สหรัฐอเมริกาได้เกิดวิกฤตการทางการเงินทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างเทขายหุ้น แล้วนำเงินสดกลับเข้าประเทศเพื่อช่วงเพิ่มสภาพคล่องให้กับประเทศของตนเอง หรือเพื่อระดมทุนไปช่วยพยุงธุรกิจการเงินของสหรัฐฯจึงทำให้ค่าเงินสหรัฐฯแข็งค่าขึ้น และส่งผลให้ราคาน้ำมันสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้น การลงทุนในระยะยาวจึงจำเป็นที่จะต้องดูสถานะการอีกครั้ง เนื่องจากปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ในภาวะถดถอย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว โอกาสที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นไปได้สูง
ด้าน นาย อนุสรณ์ บูรณกานนท์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. บีที กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่โอเปก ปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันลง เนื่องมาจากราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มโอเปกต้องการที่จะพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับลดราคาลง จนขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 70 ดอลลาร์ต่อบาเรล โดยในส่วนของแนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงที่เหลืออยู่นั้นไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้อย่างแน่นอน จากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และหากกลุ่มโอเปกมีการปรับลดกำลังการผลิตจะส่งผลให้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน หากโอเปกมีการลดเพดานการผลิตลง ในส่วนของประเทศส่งออกน้ำมันที่นอกเหนือจากกลุ่มโอเปกจะได้รับอานิสงส์จากเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้มีการเจรจารเพื่อหาข้อสรุปในการลดเพดานการผลิต โดยหากกลุ่มโอเปกลดเพดานการผลิตแต่กลุ่มประเทศที่นอกเหนือจากกลุ่มโอเปกไม่ลดกำลังการผลิตตามไปด้วยก็จะไม่ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีการรักษาราคาน้ำมันไม่ให้ปรับตัวลดลงไปมากกว่าที่เป็นอยู่ รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะถดถอยทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดน้อยลงไปด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องรักษาราคาน้ำมันไม่ให้ลดลงไปมากว่านี้ หรือเป็นการลดอุปทานให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นกลุ่มโอเปกและกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันควรที่จะมีความเหนียวแน่น ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
นอกจากนี้ ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์ ส่วนหนึ่งนั้นมาจากทางด้านเทคนิค โดนค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่ามาก เนื่องมาจากสหรับอเมริกากำลังเกิดปัญหาวิกฤตการเงิน ทำให้นักลงทุนเกิดการเทขายหุ้น เพื่อให้มีเงินสดเพิ่มขึ้น อีกทั้งการถือครองเงินสกุลดอลลาร์นั้นถือว่าเป็นค่าเงินที่มีสภาพคล่องและมีความต้องการจากนักลงทุนสูง อีกนอกจากนี้ได้รับอนิสงส์จากตลาดโลกด้วย ซึ่งค่าเงินที่นักลงทุนนิยมถือกันส่วนใหญ่คือ ค่าเงินดอลลาร์ และค่าเงินเยน ดังนั้น หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงผู้ส่งออกน้ำมันจะปรับเพิ่มราคาน้ำมันในตลาด และในทางกลับกัน หากค่าเงินดอลลาร์มีการแข็งค่าขึ้นราคาน้ำมันก็จะปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน แต่ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มหรือลดในช่วงค่าเงินดอลลาร์แข็งค่านั้นขึ้นอยู่กับประเทศผู้ส่งออกจะเลือกปรับลดราคาน้ำมันหรือไม่
"สำหรับแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์จะมีการแข็งค่าขึ้นในช่วงสั้นๆเนื่องมาจากการลงทุน แต่สำหรับระยะกลางและระยะยาวค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง เพื่อสะท้อนสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ โดยในปีหน้านี้สภาพเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะถดถอย อีกทั้งสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาจึงเป็นไปไม่ได้ที่ค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าในระยะยาว"นายอนุสรณ์กล่าว
