xs
xsm
sm
md
lg

พรีมาเวสท์ทยอยใส่เงินสดซื้อหุ้น ประเมินดัชนีมีโอกาสปรับฐานได้อีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.พรีมาเวสท์ ทยอยใส่เงินสดซื้อหุ้น ดันสัดส่วนขยับแตะระดับ 90% จากเดิม 75-78% หลังแผนกู้วิกฤตการเงินโลก เริ่มเห็นผล เผยช่วงที่ดัชนีดีดตัว มีการเทคโพรฟิตออกมาบ้าง ส่วนผลตอบแทนกองทุนหุ้นล่าสุด ยังเหนือ SET Index ส่วนแนวโน้มหุ้นไทย ยังมีโอกาสปรับฐานให้เห็นได้อีก พร้อมระบุต่างชาติยังไม่กลับเข้ามาลงทุนช่วงนี้ เหตุยังไม่วางใจสถานการณ์การเมืองในประเทศ

นางสาวศิริพร สุวรรณการ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ว่า เราได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นมากขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 80% ปลายๆ ถึง 90% จากเดิมที่เราลดสัดส่วนลงเหลือประมาณ 75-78% ในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งถือว่าค่อนข่างต่ำวหรับกองทุนหุ้นปกติ หลังจากตลาดหุ้นปรับตัวลดลงไปต่ำกว่า 500 จุด ซึ่งการลงทุนของพรีมาเวสท์เอง มีระบบควบคุมความเสี่ยงในการลงทุนอยู่แล้ว ถ้าหากมีความผันผวนสูง ก็จะมีสัญญาณเตือนให้ปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลง

ทั้งนี้ หลังจากภาพรวมของตลาดเริ่มดูดีขึ้น จากแผนการกู้วิกฤตการเงินของธนาคารกลางในหลายประเทศ ทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น ในขณะเดียวกันพื้นฐานของตลาดเองก็ดูดีขึ้น ทำให้เราเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นดังกล่าว ซึ่งการลงทุนก็จะกระจายออกไปตามเซกเตอร์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ราคาปรับขึ้นแรงๆ เราก็มีการปรับพอร์ตด้วยการเทคโพรฟิตออกมาบ้าง

นางสาวศิริพรกล่าวว่า หลังจากนี้ มีโอกาสเช่นกันที่กองทุนหุ้นของเรา จะมีการลงทุนเต็มพอร์ต ซึ่งเงินลงทุนที่เราถืออยู่ในตอนนี้ ก็จะทยอยเข้าไปลงทุนเรื่อยๆ หากปัจจัยหลายๆ ปัจจัยเริ่มดูดีขึ้น แต่เราจะไม่เข้าทันที เพราะเราประเมินว่าหลังจากนี้ ตลาดหุ้นไทยอาจจะยังมีการปรับฐานให้เห็นอยู่เรื่อยๆ

สำหรับแนวโน้มของตลาดหุ้นไทยหลังจากนี้ นางสาวศิริพรกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ประเมินได้ค่อนข้างยาก ถึงแม้ว่าปัจจัยในต่างประเทศจะเริ่มดีขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังมีปัจจัยการเมืองในประเทศ รวมถึงความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทยกับกัมพูชา แต่คงไม่กระทบมากนัก ขณะเดียวกัน ในขณะนี้เม็ดเงินที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย เป็นเงินลงทุนของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ส่วนนักลงทุนต่างประเทศ เชื่อว่าน่าจะยังไม่กลับเข้ามาลงทุนในช่วงนี้ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การเมืองในประเทศ ถ้าเขายังไม่เห็นว่าจะดีขึ้นอย่างไร ก็จะยังไม่กลับมา

อย่างไรก็ตาม โดยพื้นฐานแล้ว ตลาดหุ้นบ้านเราถือว่าถูกมาก แต่หุ้นที่ราคาถูกดังกล่าวไม่สามารถดึงดูดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติได้ แม้ปัจจัยต่างประเทศจะเริ่มดูดีขึ้นก็ตาม เพราะเรายังมีปัญหาการเมืองในประเทศค้ำคออยู่ ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะไปลงทุนที่อื่นแทน เช่น สิงคโปร์ หรืออินโดนีเซีย เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะได้กำไรในเร็ววันหรือเปล่า หากการเมืองในบ้านเรายังไม่เรียบร้อย

"วันนี้มูลค่าพื้นฐานของหุ้นไม่ใช่ประเด็น เพราะความเสี่ยงของตลาดยังคลุมเคลืออยู่ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเข้ามาลงทุนในช่วงนี้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เรายังไม่เห็นการกลับเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งแน่นอนว่าหากเอเชียเริ่มฟื้นตัวขึ้น เขาต้องเลือกไปลงทุนที่อื่นก่อน"นางสาวศิริพรกล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานกองทุนหุ้นของบลจ.พรีมาเวสท์ ในช่วงที่ผ่านมา กองทุนส่วนใหญ่ยังติดลบ แต่ยังให้ผลตอบแทนเหนือการผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ มีเพียงกองทุนรวมหุ้นระยะยาวที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น 70% และตราสารหนี้ 30% เพียงกองเดียวที่ต่ำกว่า เพราะกองทุนดังกล่าวมีข้อจำกัดในการลดสัดส่วนการถือครองหุ้นว่าจะต้องไม่ต่ำกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ

ทั้งนี้ ในส่วนของลูกค้าเองก็ไม่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก ส่วนหนึ่งมีเงินลงทุนเข้ามาเพิ่มในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการลงทุนในปีนี้ ยังไม่เท่ากับปีก่อน เนื่องจากความกังวลไม่สูงเท่าปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น