บลจ.แมนูไลฟ์ มั่นใจกลยุทธ์ลงทุน ยังไม่ปรับพอร์ตเดิม แม้ตลาดหุ้นผันผวนหนักตลอดทั้งปี ระบุคงสัดส่วนถือหุ้นเต็มที่ แต่ยังเหลือเงินสด 5% กันไว้เป็นสภาพคล่อง ย้ำกลยุทธ์ลงทุนระยะยาว ตามแบบแผนที่แมนูไลฟ์ทั่วโลกใช้ พร้อมประเมินภาพปีหน้า ตลาดเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วง 6 เดือนแรก ลุ้นสร้างผลตอบแทนเป็นบวกให้กองทุน
นายพนุกร จันทรประภพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย)จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการลงทุนในกองทุนหุ้นในปีที่ผ่านมา ค่อนข้างจะได้รับผลกระทบจากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาจากต้นปี ที่ 800 จุดลดลงมาเหลือเพียงแค่ 400 จุด จากวิกฤตเศรษบกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก จึงส่งผลให้กองทุนหุ้นมีมูลค่าหน่วยลงทุนปรับตัวลดลง โดยกองทุนหุ้นไม่ได้ปรับลดลงเฉพาะบลจ.หรือกองหุ้นกองใดกองหนึ่ง แต่ได้รับผลกระทบหมดทุกกองทุนหุ้นทุกบลจ. แต่ทั้งนี้ สำหรับการที่กองทุนของบริษัทสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเบนช์มาร์ก ถึงแม้ว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนจะมีการปรับตัวลดลง เนื่องจากนโยบายการบริหารของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้จากการคัดสรรค์การลงทุน
"การลงทุนในหุ้นของเรามีนโยบายการลงทุนในกองทุนหุ้นเหมือนกับบริษัทในเครือทั่วโลก โดยการลงทุนของบริษัทเน้นลงทุนหุ้นในสัดส่วนเกือบ 100% และมีการเฉลี่ยถือครองเงินสดไม่เกิน 5% ของเงินลงทุนทั้งหมด ซึ่งเน้นการลงทุนหุ้นในระยะยาวเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า อีกทั้งการลงทุนหุ้นระยะสั้นมีความผันผวนสูงมาก" นายพนุกร กล่าว
นายพนุกร กล่าวอีกว่า สำหรับผลตอบแทนของกองทุนที่ชนะเบนช์มาร์กอยู่ในขณะนี้ บลจ.ไม่ได้มีผลตอบชนะจากการถือครองเงินสด โดยมาจากการลงทุนในหุ้นที่บริษัทได้คัดสรรค์มาอย่างดี ซึ่งบริษัทได้มีฝ่ายการจัดการบริหารความเสี่ยงโดยเฉพาะ อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์เศรษฐกิจทั่วโลก มีการศึกษาข้อมูลของบริษัทพร้อมทั้งเข้าไปพูดคุยกับทีมผู้บริหารอย่างละเอียดก่อนที่เข้าไปลงทุน หลังจากนั้นผู้จัดการกองทุนจะต้องกลับมานั่งเขียนรายงานและรายละเอียดของบริษัทที่จะเลือกลงทุน
สำหรับการบริหารจัดการ เราเองมีการประสานงานร่วมมือกับบริษัทในเครือทั่วโลก โดยบริษัทสาขาใหญ่และบริษัทลูกได้มีนักเศรษฐศาสตร์ประจำอยู่เพื่อคอยวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจพร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก นอกจากนี้ การบริหารจัดการของบริษัทได้มีผู้จัดการกองทุนจากสาขาทั่วโลกมาร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นประจำเดือนละ 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการลงทุนในปี 2552 บริษัทยังคงถือนโยบายการบริหารกองทุนหุ้นอย่างเดิม โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าการลงทุนของบริษัทยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นในปี 2552 แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาไม่ดีนัก แต่ตลาดหุ้นได้รับรู้ข้อมูลสารที่แย่มากพอแล้วในปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน การลงทุนในตลาดหุ้นในปีหน้านี้ ถือว่ามีความน่าสนใจมาก โดยมองจากเงินปันผลของตลาด ดูค่าพี/อี และราคาหุ้นที่มีการปรับลดลงมาอย่างมาก อีกทั้งการจัดตั้งรับบาลใหม่ พร้อมทั้งออกนโยบายและมาตรการต่างมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นระยะ ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศไม่ได้แย่เหมือนที่นักลงทุนหลายคนได้คาดการณ์เอาไว้
"เมื่อมองถึงภาพรวมตลาดหุ้นในประเทศปี 2552 พบว่าตลาดเริ่มกำลังค่อยๆปรับตัวดีขึ้นในช่วง6 เดือนแรกของปี โดยเรามองว่าอีก 6 เดือนหลังตลาดหุ้นจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ในส่วนของกองทุนหุ้นของเราได้มีการลงทุนในหุ้นมากกว่าการถือครองเงินสด ซึ่งมีเพียงไม่เกิน 5% ของเงินลงทุนทั้งหมด ทั้งนี้ หากตลาดพลิกฟื้นกลับขึ้นมา กองทุนหุ้นจะสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกให้กับนักลงทุนได้ อีกทั้งหุ้นที่เราเลือกลงทุนเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีอนาคตการเติบโตที่ดี ที่ผ่านการคัดสรรค์ของทีมงานมาอย่างดี" นายพนุกร กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้น ณ เดือนพฤศจิกายน ของบลจ. แมนูไลฟ์ ได้แก่ กองทุนเปิดแมนูไลฟ์ สเตร็งค์ คอร์ อิควิตี้ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -38.50% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ -41.29% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -50.20% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ -51.80% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -49.03% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ -52.53% และผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -41.35% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ อยู่ที่ -48.23%
ขณะที่ กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ แวลู โดยมีผลตอบแทนย้อนหลังเดือน พฤศจิกายน โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ -36.91% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ -41.29% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ -47.41% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ -51.80% ผลตอบแทนย้อนหลัง1 ปี อยู่ที่ -46.98% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ -52.53% และผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -44.40% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ -50.66%
นายพนุกร จันทรประภพ ผู้อำนวยการฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย)จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการลงทุนในกองทุนหุ้นในปีที่ผ่านมา ค่อนข้างจะได้รับผลกระทบจากการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาจากต้นปี ที่ 800 จุดลดลงมาเหลือเพียงแค่ 400 จุด จากวิกฤตเศรษบกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก จึงส่งผลให้กองทุนหุ้นมีมูลค่าหน่วยลงทุนปรับตัวลดลง โดยกองทุนหุ้นไม่ได้ปรับลดลงเฉพาะบลจ.หรือกองหุ้นกองใดกองหนึ่ง แต่ได้รับผลกระทบหมดทุกกองทุนหุ้นทุกบลจ. แต่ทั้งนี้ สำหรับการที่กองทุนของบริษัทสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าเบนช์มาร์ก ถึงแม้ว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนจะมีการปรับตัวลดลง เนื่องจากนโยบายการบริหารของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้จากการคัดสรรค์การลงทุน
"การลงทุนในหุ้นของเรามีนโยบายการลงทุนในกองทุนหุ้นเหมือนกับบริษัทในเครือทั่วโลก โดยการลงทุนของบริษัทเน้นลงทุนหุ้นในสัดส่วนเกือบ 100% และมีการเฉลี่ยถือครองเงินสดไม่เกิน 5% ของเงินลงทุนทั้งหมด ซึ่งเน้นการลงทุนหุ้นในระยะยาวเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า อีกทั้งการลงทุนหุ้นระยะสั้นมีความผันผวนสูงมาก" นายพนุกร กล่าว
นายพนุกร กล่าวอีกว่า สำหรับผลตอบแทนของกองทุนที่ชนะเบนช์มาร์กอยู่ในขณะนี้ บลจ.ไม่ได้มีผลตอบชนะจากการถือครองเงินสด โดยมาจากการลงทุนในหุ้นที่บริษัทได้คัดสรรค์มาอย่างดี ซึ่งบริษัทได้มีฝ่ายการจัดการบริหารความเสี่ยงโดยเฉพาะ อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์เศรษฐกิจทั่วโลก มีการศึกษาข้อมูลของบริษัทพร้อมทั้งเข้าไปพูดคุยกับทีมผู้บริหารอย่างละเอียดก่อนที่เข้าไปลงทุน หลังจากนั้นผู้จัดการกองทุนจะต้องกลับมานั่งเขียนรายงานและรายละเอียดของบริษัทที่จะเลือกลงทุน
สำหรับการบริหารจัดการ เราเองมีการประสานงานร่วมมือกับบริษัทในเครือทั่วโลก โดยบริษัทสาขาใหญ่และบริษัทลูกได้มีนักเศรษฐศาสตร์ประจำอยู่เพื่อคอยวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจพร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก นอกจากนี้ การบริหารจัดการของบริษัทได้มีผู้จัดการกองทุนจากสาขาทั่วโลกมาร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นประจำเดือนละ 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการลงทุนในปี 2552 บริษัทยังคงถือนโยบายการบริหารกองทุนหุ้นอย่างเดิม โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าการลงทุนของบริษัทยังคงสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นในปี 2552 แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาไม่ดีนัก แต่ตลาดหุ้นได้รับรู้ข้อมูลสารที่แย่มากพอแล้วในปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน การลงทุนในตลาดหุ้นในปีหน้านี้ ถือว่ามีความน่าสนใจมาก โดยมองจากเงินปันผลของตลาด ดูค่าพี/อี และราคาหุ้นที่มีการปรับลดลงมาอย่างมาก อีกทั้งการจัดตั้งรับบาลใหม่ พร้อมทั้งออกนโยบายและมาตรการต่างมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นระยะ ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศไม่ได้แย่เหมือนที่นักลงทุนหลายคนได้คาดการณ์เอาไว้
"เมื่อมองถึงภาพรวมตลาดหุ้นในประเทศปี 2552 พบว่าตลาดเริ่มกำลังค่อยๆปรับตัวดีขึ้นในช่วง6 เดือนแรกของปี โดยเรามองว่าอีก 6 เดือนหลังตลาดหุ้นจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ในส่วนของกองทุนหุ้นของเราได้มีการลงทุนในหุ้นมากกว่าการถือครองเงินสด ซึ่งมีเพียงไม่เกิน 5% ของเงินลงทุนทั้งหมด ทั้งนี้ หากตลาดพลิกฟื้นกลับขึ้นมา กองทุนหุ้นจะสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกให้กับนักลงทุนได้ อีกทั้งหุ้นที่เราเลือกลงทุนเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีอนาคตการเติบโตที่ดี ที่ผ่านการคัดสรรค์ของทีมงานมาอย่างดี" นายพนุกร กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้น ณ เดือนพฤศจิกายน ของบลจ. แมนูไลฟ์ ได้แก่ กองทุนเปิดแมนูไลฟ์ สเตร็งค์ คอร์ อิควิตี้ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -38.50% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ -41.29% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -50.20% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ -51.80% ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -49.03% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ -52.53% และผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -41.35% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ อยู่ที่ -48.23%
ขณะที่ กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี้ แวลู โดยมีผลตอบแทนย้อนหลังเดือน พฤศจิกายน โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ -36.91% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ -41.29% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ -47.41% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ -51.80% ผลตอบแทนย้อนหลัง1 ปี อยู่ที่ -46.98% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ -52.53% และผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ -44.40% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ -50.66%