xs
xsm
sm
md
lg

เอ็มเอฟซีขยายงานธุรกิจที่ปรึกษา ตั้ง2บริษัทFAด้านการเงิน&อสังหาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.เอ็มเอฟซี เดินหน้าตั้ง 2 บริษัทที่ปรึกษา “เอ็มเอฟซี แอดไวเซอรี่” และ “เอ็มเอฟซี เรียลเอสเตท แอสเซท เมเนจเม้นท์” ขยายธุรกิจให้คำปรึกษาทางการเงิน-อสังหาริมทรัพย์ หวังดันรายได้ค่าธรรมเนียม พร้อมทั้งสร้างความต่างรับการแข่งขัน รับมือสถานการณ์การเงินที่เปลี่ยนแปลง

นายศุภกร สุนทรกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เปิดเผยว่า บริษัทได้ตั้ง 2 บริษัทที่ปรึกษา คือ บริษัท เอ็มเอฟซี แอดไวเซอร์รี่ เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาทางการเงิน (FA) ให้กับบริษัทนอกตลาด ซึ่งมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือให้คำปรึกษาในการปรับปรุงโครงสร้างทางธุรกิจ ปรับโครงสร้างทางการเงิน และบริษัท เอ็มเอฟซี เรียลเอสเตท แอสเซท เมเนจเม้นท์ ทำหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยทั้ง 2 บริษัทที่จัดตั้ง บลจ.เอ็มเอฟซี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

สำหรับบริษัท เอ็มเอฟซี แอดไวเซอร์รี่ ลักษณะการทำธุรกิจจะเน้นการให้คำปรึกษาทางการเงิน การวางแผนธุรกิจ การเตรียมพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยใช้ทีมงานผู้จัดการกองทุน หรือทีมงานของบลจ.เอ็มเอฟซี ที่มีความพร้อมด้านนี้อยู่แล้ว

ส่วนบริษัท เอ็มเอฟซี เรียลเอสเตท แอสเซท เมเนจเม้นท์ จะมุ่งเน้นการให้คำแนะนำปรึกษาด้านการเงินให้กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ การจัดโครงสร้าง หรือวางแผนการเงิน ไม่ว่าจะเป็นแผนการกู้เงิน หรือการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์)

นายศุภกร กล่าวว่า การตั้งบริษัทที่ปรึกษาทั้งสองแห่ง ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้จดทะเบียนจัดตั้งกับกระทรวงพาณิชย์แล้วเช่นกัน โดยทีมงานส่วนใหญ่ยังคงเป็นทีมงานที่ปรึกษาทางการเงิน และฟันด์เมเนเจอร์ของบลจ.เอ็มเอฟซี ที่มีความชำนาญด้านการให้คำปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าทีมงานที่ปรึกษาทางการเงินของบลจ.เอ็มเอฟซี มีความชำนาญเป็นอย่างมาก เห็นได้จากผลงานในช่วงที่ผ่านมา มีการวางแผนหรือการออกแบบผลิตภัณฑ์กองทุนรวม เพื่อตอบสนองความต้องการในการใช้เงินของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมวายุภักษ์ กองทุนสึนามิ กองทุนคันทรี่ฟันด์ หรือแมทชิ่งฟันด์ต่างๆ
รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี กล่าวด้วยว่า การวางโครงสร้างบริษัทให้มีความชัดเจนจะช่วยทำให้บริษัทสามารถคิดค่าธรรมเนียมบริหารจัดการ และกำหนดค่าธรรมเนียมได้อย่างมีความเหมาะสม และในอนาคตบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินจะเข้ามามีส่วนสำคัญในการผลักดันสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมให้กับบริษัท เพราะอนาคต ผู้ประกอบการมีความจำเป็นต้องวางแผนการเงิน และจัดวางโครงสร้างการเงินให้มีความเหมาะสม เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน

นอกจากนี้ ยังเป็นการเตรียมความพร้อมในการแข่งขันในธุรกิจกองทุนรวมของบลจ.เอ็มเอฟซี เนื่องจากบริษัทไม่มีธนาคารพาณิชย์เป็นบริษัทแม่ ทำให้จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเงินที่เปลี่ยนไปด้วย

ก่อนหน้านี้นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี เปิดเผยว่า ถึงแม้ในช่วงปีที่ผ่านถึงปัจจุบันรวมถึงอนาคต แนวโน้มการลงทุนและภาวะตลาดจะไม่เอื้อต่อการระดมทุนมากนัก แต่บริษัทมั่นใจว่าหลังจากนี้ไปจนถึงสิ้นปี จะสามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย 2.4 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตทั้งปี 10% ที่ได้ตั้งเป้าไว้ ซึ่งในระยะยาว บลจ.เอ็มเอฟซีเองตั้งเป้าหมายเป็นบริษัทชั้นนำด้านการบริหารความมั่งคั่งและการให้บริการที่เป็นเลิศในระดับภูมิภาคภายในปี 2555 และเป็นบริษัทจัดการกองทุนชั้นนำที่มีอัตราการเติบโตเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปี หรือมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการกว่า 450,000 ล้านบาทในปี 2555
กำลังโหลดความคิดเห็น