xs
xsm
sm
md
lg

ราคาทองคำรอบใหม่มาถึงแล้ว ?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์คุยกับผู้จัดการกองทุน
ณัฐพัชร์ ลัคนาธรรมพิชิต
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บีที จำกัด
0-2686-9500


เมื่อปลายเดือนกรกฎคม ผมได้เขียนไว้ในบทความว่า "ราคาทองคำก็ลดลงจากระดับ 988 เหรียญต่อออนซ์ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ลงลึกไปถึงระดับ 893 เหรียญ เมื่อ 30 ก.ค. ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 909 เหรียญ แนวรับที่ยังคงทำให้เป็นตลาดขาขึ้น (Bull Market) อยู่คือที่ 888 เหรียญ (ละม้ายคล้ายวันเปิดกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่ง วันที่ 8 เดือน 8 ปี 08)" แล้วในวันที่ 5 ส.ค. ราคาทองคำก็หลุดแนวรับดังกล่าว ทำให้ตลาดขาขึ้นมีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จนไปแตะระดับต่ำสุด 736 เหรียญ เมื่อ 11 ก.ย. (911) ที่ผ่านมา ราคาลดลงจากแนวรับถึง 17%

ล่าสุด ราคาทองคำได้ขยับสูงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในวันที่ 17 ก.ย. วันเดียวราคาสูงขึ้นถึง 85 เหรียญ หรือ ประมาณ 11% จาก 777 เหรียญ มาเป็น 863 เหรียญต่อออนซ์ และเมื่อวันจันทร์ที่ 22 ก.ย. ก็ได้ขยับขึ้นเหนือแนวรับเดิมที่ 888 เหรียญได้สำเร็จ ทำให้มีคำถามเกิดขึ้นตามชื่อบทความของสัปดาห์นี้ว่า ราคาทองคำรอบใหม่มาถึงแล้ว จริงหรือ จึงต้องย้อนกลับมาดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอีกครั้งด้วยกราฟรายเดือน

การเลือกใช้กราฟสำคัญมาก ขึ้นกับว่าผู้ลงทุนต้องการลงทุนในระยะเวลาสั้นหรือยาวแค่ไหน ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นระยะสั้น 2 – 3 เดือน ก็ควรจะใช้กราฟรายวัน แต่ถ้าขยับมาเป็นกราฟรายสัปดาห์ ก็อาจจะเหมาะกับระยะเวลาการลงทุนตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป สำหรับกราฟรายเดือนที่เลือกมาครั้งนี้ เพื่อให้เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้ โดยมีระยะเวลาการลงทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งสามารถรองรับความผันผวนของราคาในระยะสั้นได้ดีกว่าผู้ลงทุนระยะสั้น

เนื่องจากตัวชี้วัดในกราฟของแต่ละระยะเวลา บางครั้งไม่ได้มีสัญญาณเกิดขึ้นพร้อมกัน เช่น ระยะสั้นมีสัญญาณให้ขาย ในขณะที่ระยะยาวยังไม่มีสัญญาณ เป็นต้น แต่ถ้าเมื่อใดที่สัญญาณในทุกระยะเวลาเกิดขึ้นพร้อมกัน เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ที่ระดับราคาจะเป็นไปตามสัญญาณที่เกิดขึ้น ตัวอย่างล่าสุด สัญญาณรายวัน MACD ของราคาทองคำเกิดขึ้นในวันที่ 15 ก.ย. และสัญญาณรายสัปดาห์ MACD ก็ยืนยันการเกิดขึ้นในสัปดาห์เดียวกัน ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นต่อได้

จากกราฟจะเห็นว่ามีสัญญาณกระทิง (Bull) มาตั้งแต่เดือน ต.ค. 2001 ที่ระดับราคาทองคำ 279.40 เหรียญ และราคาไม่เคยปิดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ Bollinger Band ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 2 เดือนล่าสุดที่ราคาระหว่างเดือนเริ่มต่ำกว่าค่าเฉลี่ย นอกจากนี้ทุกครั้งที่ Modified Stochastic ลงมาที่ระดับ 60 กว่าราคาทองคำก็มักจะดีดตัวกลับได้เสมอ จึงมีน้ำหนักพอสมควรที่จะกล่าวว่า ราคาทองคำรอบใหม่ได้เริ่มแล้ว ยกเว้นว่าราคาทองคำจะลดลงจนเกิดระดับต่ำใหม่ (New Low) คือหลุด 736 เหรียญ ก็จะเป็นการยืนยันถึงการปรับตัวอีกครั้งของกระทิงรอบนี้ โดยมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 616 เหรียญ

ท่านผู้อ่าน อย่าลืมนะครับว่า การลงทุนในทองคำ เป็นเพียงอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน (Alternative Investment) ซึ่งตามหลักทฤษฎีการลงทุน (Investment Theory) แล้ว ควรมีสัดส่วนเพียง 10% ของพอร์ตโฟลิโอ หรือสูงสุดไม่ควรเกิน 20% และ การลดความเสี่ยงในการลงทุนที่ใช้ได้เสมอตลอดมาก็คือ การกระจายความเสี่ยง (Diversification) หรือหลีกเลี่ยงการกระจุกตัวของความเสี่ยง (Concentration Risk) เพราะปัญหาวิกฤติในสถาบันการเงิน มีหนึ่งสาเหตุที่ตรงกันเสมอ คือ แต่ละสถาบันมีการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทเดียวกัน (Asset Class) มากเกินไป เช่น กรณี Sub-prime CDO ที่ผ่านมา

บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ แต่อย่างใดทั้งสิ้น ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือมีคำถามใดๆ ส่งมาได้ที่ n9l99@yahoo.com (เอ็นเก้าแอลเก้าเก้า)

"การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต"
กำลังโหลดความคิดเห็น