บลจ.กรุงไทย เอาใจมนุษย์เงินเดือน ส่งแคมเปญกระตุ้นยอดกองทุนอาร์เอ็มเอฟ ลงทุนวันนี้ แถมประกันอุบัติเหตุกลุ่มให้กับผู้ลงทุน วงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 4 ล้านบาท
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของลูกค้า จึงได้เสาะแสวงหาสิ่งที่ดี และเป็นประโยชน์ มอบให้กับลูกค้าเสมอมา เช่น กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ1 ( RMF1) กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 ( RMF2) และกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ3 ( RMF3) ซึ่งเป็นกองทุนที่สามารถนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกบข.
โดยบริษัทขอมอบประกันอุบัติเหตุกลุ่มให้กับผู้ลงทุนทุกรายที่ลงทุนในกองทุน RMF1-3 วงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 4 ล้านบาท สำหรับผู้ลงทุนในกองทุนRMF 1 - 2 จะได้รับวงเงินคุ้มครองจาก บริษัททิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กองทุน RMF3 จากบริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยจะได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง รวมทั้งคุ้มครองการขับขี่ หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ การถูกฆ่า หรือถูกทำร้ายร่างกายโดยเจตนา
โดยผู้ลงทุนจะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ได้รับ จัดสรรหน่วยลงทุนในกองทุนดังกล่าว สำหรับเงินประกันจะเท่ากับมูลค่าหน่วยลงทุนสะสมที่ลงทุน คูณด้วย มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุน ณ วันที่เกิดอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 4 ล้านบาท
นายสมชัยกล่าวต่อไปว่า กองทุนRMF1-3 เป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ซึ่งกองทุน RMF 2-3 บริษัทสามารถบริหารกองทุนให้ติดอันดับผลตอบแทนดี 1 ใน3 ของลิปเปอร์ มาอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุน RMF2 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ที่ผู้ออกผู้รับรอง ผู้รับอาวัลมีความมั่นคง และมีความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งรวมถึงตราสารภาครัฐ และเงินฝาก ส่วนกองทุน RMF3 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกันและตราสารอื่น โดยผลตอบแทน YTD ณ วันที่ 12 กันยายน 2551 กองทุน RMF2 อยู่ที่ 5.53% กองทุน RMF3 อยู่ที่ 5.84% ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน AIMC อยู่ที่ 5.15%
ส่วนกองทุน RMF1 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ และตราสารทุน รวมทั้งเงินฝากหรือทรัพย์สินอื่น โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะการในแต่ละขณะ และนับว่าเป็นอีกกองทุนหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนที่ดี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และในช่วงเวลานี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมต่อการลงทุน สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะดัชนีได้มีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก และการลงทุนในกองทุน RMF เป็นการลงทุนระยะยาว อย่างน้อย5 ปี และอายุ 55 ปี ขึ้นไป จึงสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ ผู้ลงทุนจึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี
นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดโปรโมชั่นของสมนาคุณให้กับผู้ลงทุน โดยลงทุนตั้งแต่ 20,000-49,999 บาท รับปากกาไฟฉาย- เลเซอร์ ลงทุน 50,000-89,999 บาท รับกล่องอเนกประสงค์ ลงทุน 90,000-199,999 บาท รับเก้าอี้อเนกประสงค์ ลงทุน 200,000 -499,999 บาท รับพัดลมตั้งโต๊ะใบพัด 12 นิ้ว ลงทุน 500,000-899,999 บาท รับ Blue Tooth Jabra BT 2050 ลงทุน 900,000 บาทขึ้นไป รับ Blue Tooth Jabra 8040 ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธ บลจ. กรุงไทย ในงาน ตลาดนัดกองทุนรวม ในวันที่ 18 - 21 กันยายนนี้ ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของลูกค้า จึงได้เสาะแสวงหาสิ่งที่ดี และเป็นประโยชน์ มอบให้กับลูกค้าเสมอมา เช่น กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ1 ( RMF1) กองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 2 ( RMF2) และกองทุนเปิดกรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ3 ( RMF3) ซึ่งเป็นกองทุนที่สามารถนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกบข.
โดยบริษัทขอมอบประกันอุบัติเหตุกลุ่มให้กับผู้ลงทุนทุกรายที่ลงทุนในกองทุน RMF1-3 วงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 4 ล้านบาท สำหรับผู้ลงทุนในกองทุนRMF 1 - 2 จะได้รับวงเงินคุ้มครองจาก บริษัททิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กองทุน RMF3 จากบริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยจะได้รับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง รวมทั้งคุ้มครองการขับขี่ หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ การถูกฆ่า หรือถูกทำร้ายร่างกายโดยเจตนา
โดยผู้ลงทุนจะได้รับความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ได้รับ จัดสรรหน่วยลงทุนในกองทุนดังกล่าว สำหรับเงินประกันจะเท่ากับมูลค่าหน่วยลงทุนสะสมที่ลงทุน คูณด้วย มูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุน ณ วันที่เกิดอุบัติเหตุ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 4 ล้านบาท
นายสมชัยกล่าวต่อไปว่า กองทุนRMF1-3 เป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด ซึ่งกองทุน RMF 2-3 บริษัทสามารถบริหารกองทุนให้ติดอันดับผลตอบแทนดี 1 ใน3 ของลิปเปอร์ มาอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุน RMF2 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ที่ผู้ออกผู้รับรอง ผู้รับอาวัลมีความมั่นคง และมีความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งรวมถึงตราสารภาครัฐ และเงินฝาก ส่วนกองทุน RMF3 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกันและตราสารอื่น โดยผลตอบแทน YTD ณ วันที่ 12 กันยายน 2551 กองทุน RMF2 อยู่ที่ 5.53% กองทุน RMF3 อยู่ที่ 5.84% ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน AIMC อยู่ที่ 5.15%
ส่วนกองทุน RMF1 เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ และตราสารทุน รวมทั้งเงินฝากหรือทรัพย์สินอื่น โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะการในแต่ละขณะ และนับว่าเป็นอีกกองทุนหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนที่ดี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และในช่วงเวลานี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมต่อการลงทุน สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะดัชนีได้มีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก และการลงทุนในกองทุน RMF เป็นการลงทุนระยะยาว อย่างน้อย5 ปี และอายุ 55 ปี ขึ้นไป จึงสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ ผู้ลงทุนจึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี
นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดโปรโมชั่นของสมนาคุณให้กับผู้ลงทุน โดยลงทุนตั้งแต่ 20,000-49,999 บาท รับปากกาไฟฉาย- เลเซอร์ ลงทุน 50,000-89,999 บาท รับกล่องอเนกประสงค์ ลงทุน 90,000-199,999 บาท รับเก้าอี้อเนกประสงค์ ลงทุน 200,000 -499,999 บาท รับพัดลมตั้งโต๊ะใบพัด 12 นิ้ว ลงทุน 500,000-899,999 บาท รับ Blue Tooth Jabra BT 2050 ลงทุน 900,000 บาทขึ้นไป รับ Blue Tooth Jabra 8040 ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธ บลจ. กรุงไทย ในงาน ตลาดนัดกองทุนรวม ในวันที่ 18 - 21 กันยายนนี้ ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
