บลจ. นครหลวงไทยฟุ้ง ผลงาน"กองทุนเปิดเอสซีไอ โกลบอล เฮลธ์แคร์" เผย 5 เดือนผลตอบแทนพุ่งสวนตลาด 8.66% ชนะดัชนี MSCI All Country World Index ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของกองทุนให้ผลตอบแทนที่ -5.44% พร้อมจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 1 ครั้ง 0.3 บาทต่อหน่วย
รายงานข่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด แถลงผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2551 ของกองทุนเปิดเอสซีไอ โกลบอล เฮลธ์แคร์ (SCI Global Health Care Fund : SCI GHC) ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (12 มีนาคม – 25 กรกฎาคม) หรือตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ ว่า กองทุนฯ ให้ผลตอบแทนสูงถึง 8.66% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน MSCI All Country World Index ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ –5.44% และดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ -17.11% และได้จ่ายปันผลไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2551 จำนวน 0.3 บาท ต่อหน่วยลงทุน ซึ่งบริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะจ่ายเงินปันผลให้ได้ทุก 3 เดือน ในกรณีที่กองทุนมีกำไร เพื่อให้ผู้ลงทุนทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ได้รับประโยชน์สูงสุด
โดยในปัจจุบันการลงทุนในตราสารการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำประเภทตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และในขณะเดียวกันการลงทุนในตราสารทุนหรือหุ้นมีความเสี่ยง เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวน แต่ยังมีหุ้นบางกลุ่มที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในสภาวะดังกล่าว เนื่องจากรายได้ของธุรกิจไม่แปรผันตามสภาวะเศรษฐกิจมากนัก เช่น กลุ่มอุตสาหกรรม Health Care ซึ่งถือว่าเป็น Defensive Stock คือ ราคาจะไม่ผันผวนตามราคาตลาดมากนักเนื่องจากผลประกอบการจะมีการเจริญเติบโตแบบสม่ำเสมอ และเป็นหุ้นที่บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำแนะนำให้นักลงทุนซื้อลงทุนในช่วงเวลานี้
ทั้งนี้ อุตสาหกรรม Health Care เป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีมากในระยะยาว เนื่องจากเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน และในอนาคต สัดส่วนของประชากรสูงอายุมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีโรคภัยไข้เจ็บใหม่ ๆ เกิดขึ้น เช่น ซาร์ส, ไข้หวัดนก เป็นต้น ในขณะเดียวกันโรคภัยไข้เจ็บที่มีมานานหลายร้อยปีอย่างไข้หวัดใหญ่ มาลาเรียและวัณโรคต่างก็มีการกลายพันธุ์ทำให้เกิดการดื้อยา ส่งผลให้อุตสาหกรรม Health Care เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความสำคัญเป็นอย่างสูงในเรื่องของการวิจัยเพื่อที่จะพัฒนาตัวยาและวิธีการรักษาแบบใหม่ไว้คอยรับมือกับโลกในอนาคตที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับกองทุนเปิดเอสซีไอ โกลบอล เฮลธ์แคร์ SCI Global Health Care Fund (SCI GHC) ซึ่งจัดตั้งและบริหารโดย บลจ. นครหลวงไทย เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม Exchange Traded Fund (ETF) ที่กระจายการลงทุนไปในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยมีดัชนีอ้างอิงเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพและ
การวิจัยทางการแพทย์ 4 กองทุนในสัดส่วนที่ใกล้เคียง คือ 1) iShares Dow Jones US Medical Devices Index Fund (IHI) ซึ่งมีดัชนีอ้างอิงคือ Dow Jones US Select Medical Equipment Index 2) iShares NASDAQ Biotechnology Index Fund (IBB) ซึ่งมีดัชนีอ้างอิงคือ NASDAQ Biotechnology Index 3) Wisdomtree International Health Care Sector Fund (DBR) ซึ่งมีดัชนีอ้างอิงคือ Wisdomtree International Health Care Sector Index และ 4) iShares S&P Global Health Care Sector Index Fund (IXJ)ซึ่งมีดัชนีอ้างอิงคือ S&P Global Health Care Sector Index
โดยกองทุนดังกล่าว มีลักษณะเป็นกองทุนเปิด ไม่กำหนดอายุโครงการ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท มีสภาพคล่องสูงสามารถซื้อได้ทุกวัน ขายคืนทุกวันทำการแรกของสัปดาห์ มูลค่าลงทุนขั้นต่ำแค่ 2,000 บาท สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรส่วนเกิน (Capital gain)
รายงานข่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด แถลงผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2551 ของกองทุนเปิดเอสซีไอ โกลบอล เฮลธ์แคร์ (SCI Global Health Care Fund : SCI GHC) ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (12 มีนาคม – 25 กรกฎาคม) หรือตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ ว่า กองทุนฯ ให้ผลตอบแทนสูงถึง 8.66% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน MSCI All Country World Index ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ –5.44% และดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ -17.11% และได้จ่ายปันผลไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2551 จำนวน 0.3 บาท ต่อหน่วยลงทุน ซึ่งบริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะจ่ายเงินปันผลให้ได้ทุก 3 เดือน ในกรณีที่กองทุนมีกำไร เพื่อให้ผู้ลงทุนทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ได้รับประโยชน์สูงสุด
โดยในปัจจุบันการลงทุนในตราสารการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำประเภทตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น และในขณะเดียวกันการลงทุนในตราสารทุนหรือหุ้นมีความเสี่ยง เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกมีความผันผวน แต่ยังมีหุ้นบางกลุ่มที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในสภาวะดังกล่าว เนื่องจากรายได้ของธุรกิจไม่แปรผันตามสภาวะเศรษฐกิจมากนัก เช่น กลุ่มอุตสาหกรรม Health Care ซึ่งถือว่าเป็น Defensive Stock คือ ราคาจะไม่ผันผวนตามราคาตลาดมากนักเนื่องจากผลประกอบการจะมีการเจริญเติบโตแบบสม่ำเสมอ และเป็นหุ้นที่บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำแนะนำให้นักลงทุนซื้อลงทุนในช่วงเวลานี้
ทั้งนี้ อุตสาหกรรม Health Care เป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตที่ดีมากในระยะยาว เนื่องจากเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน และในอนาคต สัดส่วนของประชากรสูงอายุมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลก็จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีโรคภัยไข้เจ็บใหม่ ๆ เกิดขึ้น เช่น ซาร์ส, ไข้หวัดนก เป็นต้น ในขณะเดียวกันโรคภัยไข้เจ็บที่มีมานานหลายร้อยปีอย่างไข้หวัดใหญ่ มาลาเรียและวัณโรคต่างก็มีการกลายพันธุ์ทำให้เกิดการดื้อยา ส่งผลให้อุตสาหกรรม Health Care เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความสำคัญเป็นอย่างสูงในเรื่องของการวิจัยเพื่อที่จะพัฒนาตัวยาและวิธีการรักษาแบบใหม่ไว้คอยรับมือกับโลกในอนาคตที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
สำหรับกองทุนเปิดเอสซีไอ โกลบอล เฮลธ์แคร์ SCI Global Health Care Fund (SCI GHC) ซึ่งจัดตั้งและบริหารโดย บลจ. นครหลวงไทย เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม Exchange Traded Fund (ETF) ที่กระจายการลงทุนไปในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยมีดัชนีอ้างอิงเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับสุขภาพและ
การวิจัยทางการแพทย์ 4 กองทุนในสัดส่วนที่ใกล้เคียง คือ 1) iShares Dow Jones US Medical Devices Index Fund (IHI) ซึ่งมีดัชนีอ้างอิงคือ Dow Jones US Select Medical Equipment Index 2) iShares NASDAQ Biotechnology Index Fund (IBB) ซึ่งมีดัชนีอ้างอิงคือ NASDAQ Biotechnology Index 3) Wisdomtree International Health Care Sector Fund (DBR) ซึ่งมีดัชนีอ้างอิงคือ Wisdomtree International Health Care Sector Index และ 4) iShares S&P Global Health Care Sector Index Fund (IXJ)ซึ่งมีดัชนีอ้างอิงคือ S&P Global Health Care Sector Index
โดยกองทุนดังกล่าว มีลักษณะเป็นกองทุนเปิด ไม่กำหนดอายุโครงการ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท มีสภาพคล่องสูงสามารถซื้อได้ทุกวัน ขายคืนทุกวันทำการแรกของสัปดาห์ มูลค่าลงทุนขั้นต่ำแค่ 2,000 บาท สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรส่วนเกิน (Capital gain)