กองทุนหุ้นบลจ.อยุธยาฟอร์มดี ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือนชนะเกณฑ์มาตรฐานทั้ง 15 กองทุน โดย"หุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล 70/30" รั้งเเชมป์อันดับ 1 ผลตอบแทนย้อน 3 เดือนอยู่ที่ -7.97% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ถึง 9.12% "ประภาส" เผยเลือกลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี เเละบริษัทต้องจ่ายเงินปันผลเฉลี่ย 6% ต่อปี
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนตราสารทุนในรอบ 3 เดือนและ 6 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2551 ว่ากองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล 70/30 มีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ดีที่สุดในบริษัท โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -7.97% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ถึง 9.12% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 17.09% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -9.39% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 9.68% เเละเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 19.07%
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. อยุธยา กล่าวถึงการลงทุนกองทุนหุ้นว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทางบลจ.ไม่ได้มีปรับพอร์ตการลงทุน เนื่องจากการลงทุนในหุ้นต้องลงทุนระยะยาว ขณะเดียวกันช่วงที่ผ่านมาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ผลประกอบการดี มีราคาถูก เราจึงเข้าไปลงทุนเเละเก็บหุ้นเข้าพอร์ต ซึ่งตอนนี้กองทุนหุ้นทุกกองจะถือครองเงินสดเพียง 1-3% เพื่อให้กองทุนมีสภาพคล่อง
ส่วนกองทุนหุ้นระยะยาวอยุธยา 70/30 นั้นเรามีกรอบการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี บริษัทที่เลือกลงทุนต้องมีสภาพคล่องทางการเงินสูง มีการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ย 6% ต่อปีเเละมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ โดยการเติบโตของบริษัทที่กองทุนเข้าไปลงทุนนั้นจะต้องมีการเติบโตเฉลี่ย 5-10% เเม้การเติบโตไม่หวือหวา เเต่สิ่งที่สำคัญคือต้องมีการเติบโตของบริษัท ขณะที่ 30% ที่เหลือ กองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งอายุของตราสารหนี้จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าควรจะถือครองตราสารที่มีอายุเท่าไร ถึงจะให้ผลตอบเเทนที่ดีในช่วงสถานการณ์นั้น
กองทุนที่อยู่ในอันดับที่ 2 คือกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล 70/30 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -8.24% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 8.85% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -9.46% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 9.61% โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ขณะที่กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ อยู่ในอันดับที่ 3 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -10.49% สูงกว่าเกณฑ์มาตราฐานSET Index ถึง 6.6% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -12.19% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตาฐานถึง 6.88% ซึ่งกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหุ้นทุนอย่างน้อยร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีและหุ้นที่มีราคาหลักทรัพย์ตามราคาตลาดต่ำถึงปานกลาง
รายงานข่าวยังระบุต่อว่า อันดับที่ 4 คือ กองทุนหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -10.83% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.26% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -12.76% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 6.31% ขณะที่อันดับที่ 5 ได้เเก่กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล ซึ่งผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -10.93% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.7% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -12.44% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.63% เช่นกัน
อันดับที่ 6 คือกองทุนเปิดอยุธยาทุนทวีปันผล 70/30 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 11.75% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 5.34% ซึ่งผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -9.38% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 9.69% ส่วนอันดับที่ 7 คือกองทุนเปิดอยุธยาอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 14.93% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 2.16% เเละผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -12.23% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ถึง 6.84%
สำหรับกองทุนที่อยู่ในอันดับที่ 8 คือกองทุนเปิดอยุธยาทุนทวี 5 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -15.14% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 1.95% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -13.19% สูงกว่เกณฑ์มาตรฐานถึง 5.88% อันดับที่ 9 คือกองทุนเปิดอยุธยาทุนทวีปันผล มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 15.20% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET Index เพียง 1.89% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนดังกล่าวอยู่ที่ -12.57% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.5%
อันดับที่ 10 ได้เเก่กองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาอิควิตี้ มีผลการดำเนินงานย้อยหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -15.25% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 1.84% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -12.58% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.49% อันดับที่ 11 คือกองทุนเปิดอยุธยารักษ์ก้าวหน้า มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -15.45% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 1.64% เเละผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -14.03% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 5.04% ส่วนอันดับที่ 12 คือกองทุนเปิดอยุธยาอิควิตี้ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -15.59% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET Index เพียง 1.5% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนดังกล่าวอยู่ที่ 12.88% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.19%
ขณะที่กองทุนเปิดอยุธยาเอ็นเเฮนซ์เซ็ท 50 อยู่ในอันดับที่ 13 มีผลการดำเนินย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -17.73% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET 50 เพียง 1.1% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -18.83% โดยกองทุนดังกล่าวมีผลการดำเนินงานย้อหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -17.83% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 3.19% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 21.02% ส่วนอันดับที่ 14 คือกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยา SET 50 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -18.07% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 0.76% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -18.60% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.42% เเละอันดับที่ 15 คือกองทุนเปิดอยุธยา SET 100 เพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -18.13% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET 100 เพียง 1.08% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 19.21%โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนดังกล่าวอยู่ที่ -18.61% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 2.37% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -20.98%
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)อยุธยา จำกัด หรือเอวายเอฟ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกองทุนตราสารทุนในรอบ 3 เดือนและ 6 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2551 ว่ากองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล 70/30 มีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ดีที่สุดในบริษัท โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -7.97% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ถึง 9.12% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 17.09% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -9.39% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 9.68% เเละเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 19.07%
นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. อยุธยา กล่าวถึงการลงทุนกองทุนหุ้นว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทางบลจ.ไม่ได้มีปรับพอร์ตการลงทุน เนื่องจากการลงทุนในหุ้นต้องลงทุนระยะยาว ขณะเดียวกันช่วงที่ผ่านมาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ผลประกอบการดี มีราคาถูก เราจึงเข้าไปลงทุนเเละเก็บหุ้นเข้าพอร์ต ซึ่งตอนนี้กองทุนหุ้นทุกกองจะถือครองเงินสดเพียง 1-3% เพื่อให้กองทุนมีสภาพคล่อง
ส่วนกองทุนหุ้นระยะยาวอยุธยา 70/30 นั้นเรามีกรอบการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี บริษัทที่เลือกลงทุนต้องมีสภาพคล่องทางการเงินสูง มีการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ย 6% ต่อปีเเละมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ โดยการเติบโตของบริษัทที่กองทุนเข้าไปลงทุนนั้นจะต้องมีการเติบโตเฉลี่ย 5-10% เเม้การเติบโตไม่หวือหวา เเต่สิ่งที่สำคัญคือต้องมีการเติบโตของบริษัท ขณะที่ 30% ที่เหลือ กองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งอายุของตราสารหนี้จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าควรจะถือครองตราสารที่มีอายุเท่าไร ถึงจะให้ผลตอบเเทนที่ดีในช่วงสถานการณ์นั้น
กองทุนที่อยู่ในอันดับที่ 2 คือกองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล 70/30 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -8.24% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 8.85% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -9.46% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 9.61% โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ขณะที่กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ อยู่ในอันดับที่ 3 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -10.49% สูงกว่าเกณฑ์มาตราฐานSET Index ถึง 6.6% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -12.19% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตาฐานถึง 6.88% ซึ่งกองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหุ้นทุนอย่างน้อยร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดยจะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีและหุ้นที่มีราคาหลักทรัพย์ตามราคาตลาดต่ำถึงปานกลาง
รายงานข่าวยังระบุต่อว่า อันดับที่ 4 คือ กองทุนหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -10.83% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.26% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -12.76% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 6.31% ขณะที่อันดับที่ 5 ได้เเก่กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล ซึ่งผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -10.93% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.7% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -12.44% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.63% เช่นกัน
อันดับที่ 6 คือกองทุนเปิดอยุธยาทุนทวีปันผล 70/30 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 11.75% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 5.34% ซึ่งผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -9.38% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 9.69% ส่วนอันดับที่ 7 คือกองทุนเปิดอยุธยาอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 14.93% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 2.16% เเละผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -12.23% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET Index ถึง 6.84%
สำหรับกองทุนที่อยู่ในอันดับที่ 8 คือกองทุนเปิดอยุธยาทุนทวี 5 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -15.14% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 1.95% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -13.19% สูงกว่เกณฑ์มาตรฐานถึง 5.88% อันดับที่ 9 คือกองทุนเปิดอยุธยาทุนทวีปันผล มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 15.20% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET Index เพียง 1.89% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนดังกล่าวอยู่ที่ -12.57% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.5%
อันดับที่ 10 ได้เเก่กองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาอิควิตี้ มีผลการดำเนินงานย้อยหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -15.25% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 1.84% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -12.58% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.49% อันดับที่ 11 คือกองทุนเปิดอยุธยารักษ์ก้าวหน้า มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -15.45% พบว่าสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 1.64% เเละผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -14.03% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 5.04% ส่วนอันดับที่ 12 คือกองทุนเปิดอยุธยาอิควิตี้ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -15.59% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET Index เพียง 1.5% โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนดังกล่าวอยู่ที่ 12.88% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 6.19%
ขณะที่กองทุนเปิดอยุธยาเอ็นเเฮนซ์เซ็ท 50 อยู่ในอันดับที่ 13 มีผลการดำเนินย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -17.73% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET 50 เพียง 1.1% เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -18.83% โดยกองทุนดังกล่าวมีผลการดำเนินงานย้อหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -17.83% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 3.19% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 21.02% ส่วนอันดับที่ 14 คือกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยา SET 50 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -18.07% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 0.76% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -18.60% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2.42% เเละอันดับที่ 15 คือกองทุนเปิดอยุธยา SET 100 เพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -18.13% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน SET 100 เพียง 1.08% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 19.21%โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนดังกล่าวอยู่ที่ -18.61% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเพียง 2.37% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ -20.98%