"ประภาส" มองสิ้นปีดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯอาจเเตะถึง 800 กว่าจุด โดยไตรมาส 3เเละไตรมาส 4ของปีนี้เป็นช่วงเวลาเก็บหุ้นดีราคาถูกเข้าพอร์ต หลังตลาดผันผวนจากปัจจัยภายในเเละภายนอกประเทศ ขณะเดียวกันการันตผู้ถือหน่วยลงทุนทุกกองทุนหุ้นภายใต้การบริหาร ยังมีผลตอบแทนสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานแม้ติดลบ โดยกองทุน"หุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล 70/30" คว้าที่ 1 เเชมป์ผลการดำเนินงานดีที่สุดในบลจ.
นายประภาส ตันติบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด กล่าวว่า ระยะนี้ตลาดหุ้นไทยยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยเรื่อง เศรษฐกิจโลก ภาวะเงินเฟ้อ การเมือง ซับไพรม์ เเละราคาน้ำมัน ที่คงส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนอยู่ในช่วงนี้ โดยปัจจัยภายนอกยังมีความต่อเนื่องจากซับไพรม์ที่มีเเนวโน้มไปสู่ภาคธุรกิจ ซึ่งคาดว่าน่าจะยังอยู่ต่อจากนี้ไปอีกอย่างน้อย 1 ปี สำหรับปัจจัยภายในประเทศ นั้นหลายฝ่ายยังมีความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อ เพราะหลังจากเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตัวเลขเงินเฟ้อขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9.2% ซึ่งบลจ.อยุธยาเองประเมินว่า เดือนสิงหาคมนี้ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 9- 10% ก่อนจะปรับลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 7% ในปีนี้
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นในช่วงนี้เเม้จะดูติดลบไปบ้าง เนื่องจากความผันผวนของตลาดหุ้น เเต่กองทุนภายใต้การบริหารจัดการกองของบลจ.ยังติดลบน้อยกว่าตลาดหลักทรัพย์ โดยทางบลจ.จะคัดเลือกหุ้นที่มีผลประกอบการดี ประกอบกับมีประวัติการจ่ายปันผลที่เเน่นอน ซึ่งช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุน ทั้งนี้หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจยังคงเป็น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มสื่อสาร ส่วนกลุ่มพลังงานยังคงต้องชะลอไปก่อนในระยะนี้
"ผมเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยเเละการเมืองไทยอาจจะไม่ดีไปซักระยะหนึ่ง ซึ่งถ้าเราก็มองย้อนกลับไปในช่วง 6-12 เดือนก่อน ก็อาจเป็นที่จังหวะน่าลงทุนได้ แต่ตอนนี้เราอยู่ในไตรมาส 3 เเล้ว ดังนั้น ถ้าเรามองเรื่องของเศรษฐกิจการเมืองหรือปัจจัยต่างๆ จะไปจบสิ้นในไตรมาสเเรกของปี 51 หรือไตรมาส 2 นั่นหมายความว่า ไตรมาส 3 เเละไตรมาส 4 ในปีนี้ น่าจะเป็นช่วงจังหวะที่ดีในการลงทุน โดยสิ้นปีนี้ผมยังเชื่อว่าตลาดหุ้นบ้านเราดัชนีน่าจะอยู่ที่ 750-800 จุด***
ทั้งนี้บลจ.อยุธยามีผลการดำเนินงานกองทุนหุ้น ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2551 ดังนี้ กองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล 70/30 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -11.24% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -9.04%ซึ่งเป็นกองทุนที่มีผลการดำเนินงานติดลบน้อยที่สุด โดยเกณฑ์มาตรฐานดัชนีตลาดหลักทรัพย์เเห่งประเทศไทย 3 เดือนคือ -18.76% ส่วน 6 เดือนอยู่ที่ -13.76% กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล 70/30 มีผลการดำเนินงาน 3 เดือนอยู่ที่ -11.67% ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนอยู่ที่ -9.69% กองทุนเปิดอยุธยาหุ้นปันผล มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -14.85% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -11.68% ส่วนกองทุนเปิดอยุธยาทวีปันผล 70/30 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนที่ -12.11% เเละย้อนหลัง 6 เดือนคือ -6.49%
ส่วนกองทุนเปิดอยุธยาทวีปันผล มีผลการดำเนินงาน 3 เดือนอยู่ที่ -15.52% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -7.88% กองทุนเปิดอยุธยาอิควิตี้ มีผลการดำเนินงาน 3 เดือนอยู่ที่ -15.87% สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนอยู่ที่ -8.47% กองทุนเปิดอยุธยารักษ์ก้าวหน้า มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -16.82% ส่วน 6 เดือนอยู่ที่ -7.76% กองทุนเปิดอยุธยาทุนทวี 5 มีผลการดำเนินงาน 3 เดือนอยู่ที่ -16.23% ด้านผลการดำเนินงาน 6 เดือนคือ -8.74%
ขณะที่ กองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล มีผลการดำเนินงาน 3 เดือนอยู่ที่ -15.14% ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนคือ -12.51% กองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาอิควิตี้ มีผลการดำเนินงาน 3 เดือนอยู่ที่ -15.52% เเละผลการดำเนินงานย้อยหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -8.01% สำหรับกองทุนเปิดอยุธยาปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนที่- 14.99% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนคือ -11.61% เเละกองทุนเปิดอยุธยาอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ให้ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3เดือนที่ -15.28% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -7.73%
นอกจากนี้ กองทุนเปิดอยุธยาเอ็นแฮนซ์เซ็ท 50 มีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -19.90% ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือนคือ -13.56%
เเละกองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยา SET 50 ให้ผลการดำเนินงานย้อยหลัง 3เดือนที่ -20.75% เเละย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -14.78% โดยเกณฑ์มาตรฐานดัชนี SET 50 ย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ -20.93% เเละย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -16.45% ส่วนกองทุนเปิดอยุธยา set 100 เพื่อการเลี้ยงชีพ มีผลการดำเนินงานย้อนหลังเดือน 3 ที่ -20.49% เละผลการดำเนินงานย้อยหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -14.38% โดยเกณฑ์มาตรฐาน SET 100 ย้อนหลัง 3 เดือนที่ -20.71% ส่วนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ -16.02%
