xs
xsm
sm
md
lg

สร้างนิสัยการออมเงินด้วยตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นิทานการลงทุน
ต้นกล้ากับกระปุกออมสิน


...10 ปีผ่านไป

“ถึงแม้การลงทุนในกองทุนรวมในบ้านเรา จะเริ่มคุ้นหูนักลงทุนมากขึ้น แต่ถ้าพูดถึงสัดส่วนการลงทุนในปัจจุบันแล้ว ยังถือว่าค่อนข้างน้อย หากเทียบกับเงินฝาก หรือหากจะเทียบกับประเทศที่พัฒนาไปไกลอย่างสหรัฐแล้ว ถือว่าน้อยมาก เพราะเงินส่วนใหญ่ของเขาจะอยู่ในกองทุนรวมเป็นหลัก...” ต้นกล้าเอามือทั้งสองข้างไขว้หลัง...แล้วเดินจากฝั่งขวาของห้องไปฝั่งซ้าย ก่อนจะเดินหลับมาหยุดอยู่ตรงกลางห้อง...เขาวางมาดเป็นผู้นำได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ต้นกล้าหยุดนิ่งครู่หนึ่ง...เขากวาดสายตาไปยังน้องๆ พนักงานใหม่ที่เข้ามานั่งฟังเขาพูดอย่างตั้งอกตั้งใจ “ที่ผมพูดเปรียบเทียบแบบนี้ ผมไม่ได้บอกว่า เราจะต้องทำให้กองทุนรวมเติบโตได้อย่างเขา แต่ผมกำลังจะบอกว่า กองทุนรวมเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับเงินของนักลงทุนได้…”

ต้นกล้าพูดต่อ “ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำคือ พยายามสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น นอกเหนือจากความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับกองทุนรวมแล้ว ต้องอธิบายให้ผู้ลงทุนเข้าใจว่า เงินที่เขาให้เรามานั้น จะเอาไปซื้ออะไร ลงทุนนานแค่ไหน ผลตอบแทนจะได้มาจากไหน แล้วความเสี่ยงมันเป็นยังไง...ซึ่งคำถามเหล่านี้ เราต้องย้ำและบอกให้ผู้ลงทุนเข้าใจ...ในแง่มุมของเราที่เป็นคนขายของ เราอาจจะมองว่ามันไม่จำเป็น แค่เขาซื้อกองทุนของเราก็พอแล้ว ถ้าใครคิดแบบนี้อยู่ ผมขอให้เปลี่ยนความคิดตอนนี้เลย เพราะหากเราคิดเช่นนี้ แน่นอนว่าผลที่ตามมาคือ ผู้ลงทุนจะไม่ได้ลงทุนด้วยความเข้าใจ สุดท้าย พอลงทุนไปแล้วปรากฏว่า มันไม่ออกมาอย่างที่เขาคาดหวัง เพราะเขาไม่เข้าใจตั้งแต่แรก จะทำให้เขามีภาพไม่ดีต่อการลงทุนกองทุนรวม ซึ่งอาจจะแย่ถึงขั้นเข็ดขยาดกับการลงทุนไปเลยก็ได้”

เขามองไปที่พนักงานชายคนหนึ่ง แล้วถามว่า “เวลาที่คุณอธิบาย หรือพูดอะไรก็ตาม ที่เกี่ยวกับกองทุนรวม คำถามที่คุณมักจะได้ยินเสมอ คือคำถามว่าอะไร”

พนักงานคนนั้นหยุดคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกับมาว่า “จะขาดทุนไหม?”

ต้นกล้าพยักหน้า แล้วส่งคำถามผ่านทางสายตา ไปที่พนักงานหญิงคนหนึ่ง “แล้วคุณละ…คำถามที่ได้ยินบ่อยที่สุดคืออะไร”

“ฉันจะเจอเหตุการณ์เหมือนลุงช่วยไหม?” เธอตอบกลับมา

ต้นกล้าถามคำถามเดียวกันกับพนักงานอีกหลายคน...ซึ่งหลังจากที่พนักงานหญิงคนที่สอง พูดถึงลุงช่วยขึ้นมา...เขาก็ได้รับคำตอบแบบเดียวกันหมดจากพนักงานคนอื่นๆ

“สาเหตุจริงๆแล้ว ปัญหาของเหตุการณ์นี้คืออะไรไม่มีใครทราบ เพราะเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี ไม่ว่าจะเกิดจากคนที่ขายกองทุนให้ลุงช่วย ไม่ได้อธิบายให้เข้าใจถึงการลงทุนอย่างแจ่มแจ้ง หรือไม่ก็ลุงช่วยเอง ที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังลงทุนอะไรอยู่ เห็นแค่ผลตอบแทนสูงๆ ก็กระโจนเข้าใส่ โดยไม่รู้เลยว่าความเสี่ยงเป็นยังไง...ที่ผมพูดไปเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ถ้าทั้งคนขายและคนซื้อ ไม่เข้าใจการลงทุนของกองทุนนั้นเลย”

ต้นกล้ากวาดสายตาไปรอบห้องอีกรอบ เพื่อดูให้มั่นใจว่า ทุกคนเข้าใจที่เขาพูดอย่างแจ่มแจ้งแล้ว...บรรยากาศในห้องอบรมพนักงานใหม่ ดูจะซีเรียสไปหน่อยแล้ว

“เอาละ...ถ้าทุกคนเข้าใจดีแล้ว ผมอยากฝากไว้อีกซักเล็กน้อยว่า...ผมอยากให้พวกคุณทุกคน มองว่าลูกค้า ก็เสมือนพ่อแม่เรา สามีเรา ภรรยาเรา หรือลูกของเรา ที่ต้องดูแลเอาใจใส่...ถ้าเราคิดแบบนี้ได้แล้ว เราก็คงไม่อยากเห็นลูกค้าที่เป็นเสมือนคนที่เรารัก ต้องกลุ้มใจกับเงินที่เขาฝากให้เราดูแล ถึงแม้มันจะไม่ใช่หน้าที่เราโดยตรง เพราะนั่นคือหน้าที่ของผู้จัดการกองทุน แต่หน้าที่ในการให้ข้อมูลการลงทุนที่ถูกต้อง เปิดเผย ถือเป็นจรรยาบรรณที่เราต้องยึดถือปฏิบัติ”

หลังจากทุกคนพยักหน้าพร้อมๆ กัน...ซึ่งเป็นคำตอบว่าทุกคนเข้าใจและพร้อมปฏิบัติแล้ว ต้นกล้าก็เปิดโอกาสให้พนักงานใหม่ทุกคนแนะนำตัว และทำความรู้จักกัน...วิธีนี้ ถือเป็นการผ่อนคลายจากเรื่องเครียดๆ ที่ผ่านมาตลอดทั้งวันได้ดีทีเดียว

********************************

“คุณพ่อกลับมาแล้ว” ออมสินตะโกนออกมา หลังจากได้ยินเสียงข้าวต้มมัดเห่าอยู่หน้าบ้าน...เขาวิ่งไปหน้าประตูบ้าน โดยมีข้าวต้มมัดรออยู่...ประตูรั่วบ้านค่อยๆ เปิดออกทีละน้อยด้วยระบบอัตโนมัติ...ต้นกล้าเลี้ยวรถเข้ามาในบ้าน เขาจอดรับออมสินและข้ามต้มมัดยืนรออยู่แล้ว...ถึงแม้ระยะทางจากประตูรั่วเข้าไปในบ้าน จะไม่ไกลมากนัก แต่ออมสินและข้าวต้มมัด มักจะออกมารออยู่ที่หน้าประตู แล้วขอติดรถต้นกล้าเข้าไปทุกครั้ง...

สองพ่อลูกเดินจูงมือกันเข้าไปในบ้าน... “พ่อกลับมาแล้วคราบ” ออมสินบอกคนในบ้านให้รู้

“เหมือนพ่อไม่มีผิดเลย” กระปุกบ่นในใจ ขณะที่กำลังเก็บของเล่นที่ออมสินทิ้งเอาไว้ก่อนจะวิ่งออกไปรับพ่อของเขาเมื่อสักครู่นี้

ส่วนคุณนายสุขใจและฟาง ภรรยาของต้นกล้า ที่กำลังง่วนอยู่ในครัว...หันมามองสองพ่อลูกด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันมายิ้มให้กัน แล้วลงมือทำครัวต่อ...

ต้นกล้านั่งลงที่โซฟาหน้าที่วี ที่คุณปู่ของออมสินนั่งอยู่ โดยมีออมสินเบียดเข้าไปนั่งแทรกตรงกลาง

“มานั่งตักปู่ดีกว่าลูก” คุณปู่อุ้มหลานขึ้นมานั่งบนตัก

“วันนี้หนูซนไหมลูก” ต้นกล้าถามออมสิน

“ไม่ซนคับ” ออมสินตอบ

“ไม่ซนจริงเหรอลูก” คุณปู่แย้ง

ออมสินเงยหน้ามองปู่แล้วยิ้มแบบอายๆ...

“วันนี้หยอดเงินให้ลุงกระปุกเขารึยังคับ” ต้นกล้าถามออมสิน

“หยอดแล้วคับพ่อ...วันนี้ได้ตั้ง 65 บาทคับพ่อ” ออมสินอวดพ่อเป็นการใหญ่

“แล้วลูกไปเอามาจากไหนตั้ง 65 บาทแนะ”

“ก็จะเอาจากไหนซะอีกละ...”คุณปู่ตอบแทน “พอกลับมาจากโรงเรียนปับ ก็เดินจูงมือกระปุกไปทั่วบ้านเลย...”

“เห็นตัวเล็กๆ แค่นี้ แต่ร้ายจริงๆนะเรา…” ต้นกล้าเอามือยีหัวออมสินด้วยความรัก ก่อนจะกำชับลูกชายตัวน้อยว่า “อย่ามัวแต่ให้คนอื่นหยอดกระปุกนะคับ...ออมสินต้องเอาเงินของตัวเองหลอดลงไปได้ จะได้สร้างนิสัยการออมเงินให้ตัวเอง…เข้าใจไหมลูก?”

“เข้าใจคับพ่อ…ลุงกระปุก ก็บอกออมก็บอกออมสินแบบนี้เหมือนกัน”

ต้นกล้ามองไปที่กระปุก...เขายิ้มให้เพื่อแสดงความขอบคุณ “งั้นต่อไป ออมสินต้องหัดออมด้วยตัวเองนะคับ” ต้นกล้ากำชับลูกอีกรอบ

“คับพ่อ…” ออมสินจ้องไปที่หน้าของต้นกล้า

“มองหน้าพ่อทำไมลูก”

“วันนี้พ่อยังไม่หยอดเงินให้ลุงกระปุกเลยนะคับ…”

คุณปู่หัวเราะในความไร้เดียงสาของออมสิน...แต่ต้นกล้ากลับขำไม่ออก ได้แต่จำใจควักเหรียญในกระเป๋าออกมาให้ลูกไปหยอดลงกระปุกออมสิน

จบ
กำลังโหลดความคิดเห็น