xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนเปิด VS กองทุนปิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“แล้วกองทุนเปิดกับกองทุนปิดมันแตกต่างกันยังไงครับ?”ลูกค้ารายใหม่ตั้งคำถาม หลังจากฟังต้นกล้าอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุนรวมไปบ้างแล้ว

กองทุนปิดมักจะเป็นกองทุนรวมที่กำหนดอายุโครงการที่แน่นอนไว้ และจะเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียว โดยบริษัทจัดการจะไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนจนกว่าจะครบอายุโครงการ...ซึ่งกองทุนปิดส่วนใหญ่ ผู้ลงทุนจะรู้ผลตอบแทนล่วงหน้าว่าหลังจากถือไปจบครบอายุแล้ว จะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของกองทุนนั้นด้วยนะครับ เพราะตามหลักเกณฑ์กองทุนที่จะสามารถโฆษณาผลตอบแทนได้ จะต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่ระบุผลตอบแทนชัดเจน เช่น กองทุนหนึ่งลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุ 1 ปี โดยพันธบัตรดังกล่าวระบุดอกเบี้ยหน้าตั๋วเอาไว้ที่ 3.5% ดังนั้น หลังจากหักค่าบริหารจัดการแล้ว บริษัทจัดการก็สามารถบอกผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับหลังจากครบอายุการลงทุนแล้ว”

ต้นกล้าอธิบายต่อว่า “กองทุนปิดอีกประเภท หลังจากเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกแล้ว บริษัทจัดการอาจแต่งตั้งบริษัทเสนอซื้อเสนอขายเพื่อทำหน้าที่เสนอซื้อเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนปิด หรืออาจนำหน่วยลงทุนไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถทำการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนปิดในตลาดรองได้ โดยผ่านบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (Broker) ตามราคาตลาด ซึ่งอาจจะมีต่ำหรือสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนปิดนั้นก็ได้”

“หมายความว่า...ถ้าผมเดือนร้อนต้องการใช้เงิน ก็สามารถขายหน่วยลงทุนได้ โดยไม่ต้องรอให้ครบอายุใช่ไหมครับ?”

“ถูกต้องครับ… แต่อย่างที่ผมพูดไปว่า มูลค่าที่เราขายตอนนั้นอาจจะสูงหรือต่ำกว่ามูลค่าที่เราซื้อมาครั้งแรกนะครับ อันนี้เราต้องรับความเสี่ยงได้ด้วย”

“ครับผม...”

“งั้นผมอธิบายต่อถึงกองทุนเปิดเลยนะครับ...สำหรับกองทุนเปิดมักจะเป็นกองทุนรวมที่ไม่กำหนดอายุโครงการไว้ แต่ก็มีระยะเวลาจำกัดในการเสนอขายครั้งแรกเช่นกัน และหลังจากนั้น บริษัทจัดการก็จะเปิดขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในโครงการ เช่น รับซื้อคืนหรือเปิดขายหน่วยทุกวันทำการ สัปดาห์ละครั้งหรือเดือนละครั้ง ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินทรัพย์ที่กองทุนไปลงทุน อย่างเช่น กองทุนมันนี่มาร์เกต ที่ผมอธิบายไปก่อนหน้านี้
ส่วนใหญ่จะเปิดให้ผู้ถือหน่วยสามารถซื้อขายได้ทุกวัน เพราะกองทุนประเภทนี้จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง...ซึ่งกองทุนเปิดเอง ก็ต้องรับความเสี่ยงในกรณีที่ผู้ถือหน่วยต้องการขายเช่นกัน เพราะมูลค่าในวันที่ขายอาจต่ำกว่ามูลค่าที่ซื้อมาครั้งแรกเช่นกัน”

“แบบนี้...ก่อนลงทุนเราต้องทำความเข้าใจด้วยใช่ไหมครับว่า กองทุนที่เราซื้อไปนั้น เป็นกองทุนประเภทไหน?…จะได้ไม่มีข้อกังขาภายหลัง”

“ถูกต้องครับ...” ต้นกล้าเสริม “อ้อ!!! ผมลืมบอกไปอีกข้อหนึ่งว่า กองทุนบางกองอาจจะไม่ใช่กองทุนปิด แต่ก็กำหนดเงื่อนไขเอาไว้ว่า ผู้ถือหน่วยจะสามารถขายหน่วยลงทุนนั้นได้ ก็ต่อเมื่อลงทุนไปถึงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เช่น กองทุนที่มีเงื่อนไขทางภาษี ไม่ว่าจะเป็นกองทุนแอลทีเอฟ ที่กำหนดให้ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนให้ครบ 5 ปีปฏิทินจึงจะสามารถขายหน่วยลงทุนออกมาได้ หรือกองทุนอาร์เอ็มเอฟ ที่ผู้ลงทุนต้องถือไปจนกว่าจะอายุครบ 55 ปี บริบูรณ์”
“ฟังแล้วยิ่งต้องคิดให้รอบคอบก่อนลงทุนนะครับ”

“แน่นอนครับ เพราะถ้าไม่เข้าใจจริงๆ ก็จะเกิดคำถามอีกหลายต่อหลายคำถามตามมา โดยเฉพาะเมื่อกองทุนนั้นไม่เป็นไปอย่างที่ผู้ซื้อคาดหวังไว้”ต้นกล้าย้ำตามคำพูดของลูกค้า

“กองทุนรวมนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ”

“ใช่ครับ...แต่โอกาสก็มากับความยากนี่แหละครับ เพราะถ้าเรามัวแต่ฝากเงินออมทรัพย์ไว้แบบง่ายๆ เพียงอย่างเดียว เราก็จะสูญเสียโอกาสสร้างกำไรให้เงินไปอีกเยอะเลยละครับ”

“อันนี้ผมเห็นด้วยครับ”

...การพูดคุยให้ข้อมูลกับลูกค้ารายใหม่รายนี้ กินเวลาไปนานพอสมควร เพราะกว่าที่จะเข้าใจตรงกันก็ล่วงเลยเวลาทำการแบงก์ไปแล้ว...แต่ต้นกล้าก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด เพราะงานนี้เป็นงานที่เขารัก ที่สำคัญไปกว่านั้น...เขาอยากให้นักลงทุนทั่วไป เข้าใจการลงทุนในกองทุนรวมอย่างแท้จริง

และระหว่างทางกลับบ้าน ต้นกล้าเตรียมแผนที่จะทำอะไรบางอย่างในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้...เขาแวะซื้อพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ ก่อนกลับบ้านด้วย...

********************************

วันนี้ต้นกล้าตื่นเช้าเป็นพิเศษ...หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินลงมาข้างล่าง พร้อมกับซ่อนของบางอย่างเอาไว้ข้างหลัง...ต้นกล้าหันซ้ายหันขวา มองหาคุณนายสุขใจ แต่ก็ไม่เจอ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในครัว สวนหลังบ้าน...แต่ก็ไม่เจอเช่นกัน

ต้นกล้าได้ยินเสียงข้าวต้มมัด สุนัขตัวโปรดของบ้านนี้ ส่งเสียงมาจากหน้าบ้าน เหมือนกันกำลังเล่นอยู่กับใคร เลยตัดสินใจออกไปดู

“มาอยู่นี่เองคุณนายสุขใจ” ต้นกล้ารำพึงออกมา...เขายืนนิ่งอยู่หน้าประตูบ้านสักพัก สายตาของเขามองไปที่คุณนายสุขใจ ซึ่งกำลังนั่งไกวชิงช้าอย่างมีความสุข โดยมีพ่อนั่งอยู่ข้างๆ ทั้งสองท่านกำลังหยอกล้อกับเจ้าข้าวต้มมัดอยู่อย่างมีความสุข...

“น่ารักจริงๆ พ่อกับแม่เรา” ต้นกล้านึกในใจ ก่อนจะเดินออกมา พร้อมๆ กับรอยยิ้มมุมปากที่ผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“แม่ครับ…พ่อครับ”

“อ้าวต้น...ตื่นเช้าจังเลยลูก” คุณนายสุขใจกล่าวทักทาย “เอ...วันนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่เลย ลูกชายเราถึงได้ตื่นเช้าแบบนี้...จริงไหมพ่อ?”

“นั่นนะซิ…แล้วนั้นซ่อนอะไรไว้ข้างหลังเหรอลูก” พ่อถามพลางเอี้ยวตัวมองไปข้างหลังเพื่อหาคำตอบ...แต่ยังไม่ทันที่พ่อจะเห็นอะไร ต้นกล้าก็คุกเข่าลงต่อหน้าพ่อกับแม่ แล้วยื่นพวงมาลัยดอกมะลิที่ซ่อนเอาไว้ข้างหลังออกมา...

เขาส่งมันให้แม่“แม่ครับ...ต้นรักแม่ครับ” พูดจบต้นกล้าก็ก้มกราบลงไปที่ตักคุณนายสุขใจ “สุขสันต์วันแม่ครับ”

คุณนายสุขใจน้ำตาคลอเบ้าด้วยความปลื้มปีติ...เธอเอามือทั้งสองข้างขึ้นมาลูบที่หัวลูกชายสุดที่รักด้วยความถะนุถนอม ก่อนจะดึงตัวต้นกล้าเข้ามากอด “ขอบใจมากจ๊ะลูก...แม่ก็รักลูกจ๊ะ” ถึงตอนนี้น้ำตาแห่งความสุขพรั่งพรูออกมาจากตาทั้งสองข้าง ต้นกล้าเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน...ส่วนพ่อที่นั่งดูอยู่ข้างๆ ก็เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความปลื้มปีติเช่นกัน

หลังจากสองแม่ลูกกอดกันกลมอยู่พักหนึ่ง ต้นกล้าก็ขยับตัวมาที่พ่อ แล้วก้มลงกราบที่ตักเช่นกัน “พ่อครับ...ต้นรักพ่อครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมา ฉีกยิ้มแล้วพูดต่อว่า “แต่วันนี้ ขอยกให้แม่วันหนึ่งนะครับ”

พ่อหัวเราะ...ก่อนจะพูดต่อว่า “ไม่เป็นไรลูก...พ่อก็รักลูกเหมือนกัน” ต้นกล้ากับพ่อกอดกันกลม ทั้งสองคนตบหลังกันและกันตามประสาผู้ชายที่แสดงความรักให้กัน...หลังจากนั้น ต้นกล้าก็ขยับตัวมานั่งแทรกกลางระหว่างพ่อกับแม่ โดยมีข้าวต้มมัดนั่งมองอยู่ใกล้ๆ...สงสัยข้าวต้มมัดจะอิจฉาอยู่ไม่น้อย

...อ่านต่อฉบับวันจันทร์หน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น