xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.แนะทยอยลงทุนหุ้นตปท. รับแนวโน้มระยะยาวรีบาวด์กลับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้บริหาร บลจ. มองตลาดหุ้นทั่วโลกถึงจุดตํ่าสุดแล้ว และมีแนวโน้มฟื้นตัว แนะนำนักลงทุนทยอยกลับเข้าไปช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไรในระยะยาว หลังราคานํ้ามันโลกปรับตัวลดลง พร้อมระบุเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่ อาทิ จีน อินเดีย ช่วยพยุงเศรษฐกิจโลกไม่ให้ลงไปมาก
นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ หรือซัพไพร์ม ที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งปัญหาราคานํ้ามันที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นในประเทศต่างๆทั่วโลกต่างได้รับผลกระทบตามๆกันไป ซึ่งในช่วงดังกล่าวนี้ นักลงทุนไม่กล้าที่จะลงทุนมากจึงหันถือเงินสดกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นในส่วนของประเทศที่พัฒนาแล้วตกลงมาอยู่ในระดับที่ตํ่าสุดแล้ว ขณะเดียวกันตลาดหุ้นของประเทศที่พัฒนาแล้วมีความผันผวนน้อยกว่าตลาดหุ้นของประเทศเกิดใหม่ รวมทั้ง จากสถานการณ์ราคานํ้ามันที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ในขณะนี้ จึงคาดว่า ตลาดหุ้นของประเทศที่พัฒนาแล้วจะปรับดีขึ้นในระยะยาว แต่ในช่วง 2 ไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 นี้ตลาดหุ้นของประเทศต่างๆเหล่านี้จะอยู่ในระดับทรงตัว
นายจุมพล ยังระบุว่า เศรษฐกิจบรรดาประเทศเกิดใหม่ที่เติบโตขึ้นในช่วงที่ผ่านมาอย่างเช่น จีน อินเดีย บราซิล ส่งผลให้เศรษฐกิจของโลกปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน ยังได้แนะนำนักลงทุนว่า เป็นช่วงโอกาสที่น่าเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ควรเป็นไปในแบบทยอยเข้าไปลงทุน
โดยในส่วนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล ไฮดิวิเดนด์ (ING Thai Global High Dividend Fund of Funds) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย อิตาลี ฝรั่งเศส สวีเดน ลักเซมเบอร์ก เป็นต้น มีนโยบายลงทุนในหุ้นกลุ่มต่างๆ ทั้ง หุ้นกลุ่มสื่อสาร กลุ่มโทรคมนาคม กลุ่มพลังงาน กลุ่มสาธรณูปโภค ทั้งนี้กองทุนดังกล่าว เป็นกองทุนประเภท กองทุนรวมหน่วยลงทุนที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตราฐาน และไม่กำหนดอายุโครงการ ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่เหมาะสมและกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศ โดยมีมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนได้ทำการการลงทุนในกองทุน ING (L) Invest Global High Dividend Fund ที่จดทะเบียนในประเทศลักซัมเบอร์ก โดยกองทุนนี้บริหารจัดการโดย ING Investment Management สำนักงานใหญ่ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่จะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก และเน้นลงทุนในบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลสูง โดยกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล ไฮดิวิเดนด์ จะนำเงินไปลงทุนใน หน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ ประเภทกองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) เพียงกองทุนเดียว
นอกจากนี้ กองทุนจะลงทุนบางส่วนในประเทศไทย โดยบริษัทจัดการจะฝากเงินของกองทุนไว้ในบัญชีเงินฝากในประเทศไทย ตลอดจนลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่น หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง หรือการหาดอกออกผลโดยวิธีการอื่นอย่างใดอย่างหนึ่ง
ด้าน นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บลจ. ทิสโก้ จำกัด ที่ระบุว่า ตลาดหุ้นในประเทศต่างๆทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมามากแล้ว และน่าเป็นโอกาสที่ดีหากนักลงทุนจะเข้ามาลงทุนในช่วงนี้ ขณะเดียวกันในระยะยาวแล้วตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีการปรับตัวดีขึ้น
"เศรษฐกิจโลกตจะอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ไม่ลดลงไปมากว่านี้ เป็นเพราะเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่อย่าง เช่น จีน อินเดีย บราซิล มีส่วนช่วยพยุงเอาไว้ เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่สูง"
สำหรับกองทุน ของ บลจ. ทิสโก้ ที่ลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นทั่วโลกนั้น ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล อิควิตี้ ฟันด์ (TISCO Global Equity Fund) เป็นกองทุนประเภท กองทุนรวมหน่วยลงทุน (Feeder Fund) มีมูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท โดยมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์ต่างๆทั่วโลก ซึ่งมีการกระจายการลงทุนตามสัดส่วนของดัชนี MSCI Kokusai Index แบ่งเป็น 4 กลุ่มหลักทรัพย์ คือ US HIR Equity Portfolio, Canadian Passive Equity Portfolio, European HIR Equity Portfolio และ Pacific Passive Equity Portfolio ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มรวมเรียกว่า DIAM Regional Equity Fund
นอกจากนี้ โครงการอาจจะลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศอื่นๆ หรือตราสารทางการเงินอื่น ตลอดจนหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์อื่น หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยง หรือตราสารที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงตัวแปร (Structured Note)
กำลังโหลดความคิดเห็น